“ผมเคยถูกอุ้ม 5 ครั้ง รอดได้เพราะมีคนรู้” เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมและอดีตนักโทษการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อเวลา 06.47 น. วันที่ 18 ม.ค. 2564 หลังมีประชาชนที่ร่วมกิจกรรมทางการเมืองหลายคนสูญหาย ไม่สามารถติดต่อได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และมีบุคคลคล้ายตำรวจมาข่มขู่ให้หยุดเคลื่อนไหวการเมือง

ดูเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐดูเหมือนจะอุ้มเก่งไม่ใช่เล่นๆ เฉพาะเอกชัยคนเดียวก็ถูกอุ้มไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง หลังจากที่เขาออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งโดนจับเข้าค่ายทหาร บังคับพาไปต่างจังหวัด กักตัวไว้ ไม่ให้แสดงออกทางการเมือง และนี่คือตัวอย่างเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำต่อประชาชน โดยประชาไทขอรวบรวมเพิ่มเติมจากโพสต์ของเอกชัย ดังนี้

25 เม.ย. 2560

ตำรวจ-ทหารจับเข้า มทบ.11 ขณะไปยื่นหนังสือขอให้ถอนหมุดหน้าใส

หมุดคณะราษฎรหายไปช่วงต้นเดือนเมษายน 2560 และมีหมุดใหม่ชื่อเล่นว่า 'หมุดหน้าใส' ที่มีข้อความเต็มๆ ว่า “ขอให้ประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาชนสุขสันต์หน้าใส เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน” และ “ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดีในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องคำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง” ตรงกับคาถาภาษิตในพระราชลัญจกรประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เขียนว่า "ติรตเนสกรฏฺเฐจ สมฺพํเสจมมายนํ สกราโชชุจิตฺตญฺจ สกรฏฺฐาภิวัฑฺฒนํ" มาแทนที่

เอกชัยจึงเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ประกาศหาเจ้าของหมุดหน้าใส ถ้าไม่มีเจ้าของก็ถอนทิ้งไปเสีย แต่นอกจากจะไม่ทันได้ยื่นแล้ว ตำรวจยังรวบตัวเข้าส่งต่อให้ทหารพาไปมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) จนอานนท์ นำภา ประกาศว่าจะจัดกิจกรรมยืนเฉยๆ เรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา ทหารถึงได้พาเอกชัยไปส่งที่บ้านในคืนวันนั้น

24 มิ.ย. 2560

ตำรวจจับเข้าค่ายทหารหลังจะนำหมุดคณะราษฎรจำลองติดคืนที่เดิม

เกือบ 2 เดือนถัดมา หมุดคณะราษฎรไม่รู้อยู่ไหน แต่หมุดหน้าใสเหมือนจะยังอยู่ที่เดิม เอกชัยเลยเตรียมหมุดคณะราษฎรจำลองพร้อมปูนซีเมนต์ เตรียมไปฝังที่เดิมแทนหมุดหน้าใส แต่ก็ถูกตำรวจจับไปส่งค่ายทหารอีกครั้งเพื่อรีดว่าได้หมุดจำลองมาจากไหน แต่เอกชัยจำไม่ได้ สุดท้ายตำรวจก็พากลับไปส่งที่บ้านในช่วงค่ำ

24 ต.ค. 2560

ทหารจับไป จ.กาญจนบุรี หลังประกาศสวมเสื้อแดงช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9

20 ต.ค. 2560 เอกชัยโพสต์เฟซบุ๊กลอยๆ ทำนองว่า จะสวมเสื้อแดงและทำในสิ่งที่ใครคาดไม่ถึง อีก 4 วันถัดมา ทหารกว่า 10 นาย ก็บุกไปรวบตัวเขาถึงที่บ้าน ให้ทางเลือกว่าจะไปนอนค่ายทหารหรือไปกาญจนบุรี ซึ่งเอกชัยขอเลือกอย่างหลัง เขาถูกควบคุมตัวกว่า 5 วัน ก่อนจะถูกพาตัวกลับมา ทั้งที่คิดเพียงจะสวมเสื้อแดงไปนั่งอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟเท่านั้น

28 ธ.ค. 2560

ตำรวจจับขณะจะนำนาฬิกาไปมอบให้ พล.อ.ประวิตร ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

ท่ามกลางการตรวจสอบเรื่องนาฬิกายืมเพื่อนจำนวนมากกว่า 20 เรือน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอกชัยที่ได้ข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะไปเยี่ยมคาราวะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ จึงตื่นแต่เช้าไปดักรอ หวังจะมอบนาฬิกาเรือนที่ตนใส่อยู่ให้ พล.อ.ประวิตร จะได้ไม่ต้องคอยไปยืมเพื่อนใส่ให้กลายเป็นข่าวฉาว เขาถูกพาตัวไปโดยอ้างว่าเพื่อรอมอบนาฬิกา แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เดินทางมาที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ และตำรวจก็ปฏิเสธการควบคุมตัว สุดท้ายตำรวจพาเอกชัยซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปส่งไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประมาณ 10.00 น.

16 เม.ย. 2561

ตำรวจคลุมหัวลากขึ้นรถขณะเตรียมไปรดน้ำดำหัว พล.อ.ประวิตร

เอกชัยนัดกับโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ เพื่อนนักกิจกรรม ว่าจะเดินทางไปรดน้ำดำหัว พล.อ.ประวิตร ตามประเพณีสงกรานต์ แต่ทั้งคู่ถูกรวบตั้งแต่เช้ามืดที่หน้าป้ายรถเมล์ละแวกบ้านเอกชัย โดยมีรถตู้มาจอดเทียบก่อนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนมากจะลงมาฉุดกระชาก กดตัวทั้งคู่ลงให้นอนกับพื้นและหิ้วขึ้นรถตู้ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือของเขาไปด้วย

โชคชัยเล่าว่า เขาถูกเอาเสื้อคลุมหัว มีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันยึดแขนทั้งสองข้าง มีคนนั่งบนเบาะ แล้วใช้เข่ากดบนแผ่นหลังให้หัวและตัวของเขาแนบกับพนักเบาะด้านหน้าตลอดเวลา ทั้งคู่ถูกพาตัวไปที่ สน.หัวหมาก ก่อนปล่อยตัวโดยไม่มีข้อหาในช่วงเที่ยง

2 พ.ย. 2562

ตำรวจพาไป จ.ชลบุรี ไม่ให้ประท้วงระหว่างการประชุมอาเซียนซัมมิท 2019

'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' หรือ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ นักกิจกรรมทางการเมืองโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวระบุว่า เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ถูกตำรวจเชิญตัวออกต่างจังห​วัด​ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2562 เพื่อป้องกัน​ไม่ให้ไปประท้วงการจัดประชุมอาเซียนซัมมิทที่ไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงสัปดาห์นั้น โพสต์ทูเดย์ระบุว่า เอกชัยได้รับการติดต่อมาล่วงหน้าแล้วและยินยอมไป จ.ชลบุรี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ 2 คน และครอบครัวของเจ้าหน้าที่อีก 3 คน