Skip to main content
sharethis

ประมวลเหตุการณ์ 19 ม.ค.64 กรณี เบนจา อะปัญ จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชูป้าย “ผูกขาดวัคซีน หาซีนให้เจ้า” ที่บริเวณลานด้านหลังห้างไอคอนสยาม และถูก รปภ.ตบเข้าที่ใบหน้า ด้าน ICONSIAM แถลงผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจ และพร้อมลงโทษเจ้าหน้าที่ หากผิดจริง  ขณะที่ #แบนไอคอนสยาม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ยอดนิยมในไทย 

19 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ม.ค.64) เวลาประมาณ 14.00 น. เบนจา อะปัญ จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทำกิจกรรมชูป้าย “ผูกขาดวัคซีน หาซีนให้เจ้า” ที่บริเวณลานด้านหลังห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม 

หลังจากชูป้ายไม่นาน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างเดินเข้ามาล้อม ก่อนที่ต่อมาจะเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อเบนจาพยายามเดินหนีออกมา แต่ รปภ. ห้างพยายามเดินตาม พร้อมกับพูดจาเชิงข่มขู่ พยายามแย่งมือถือ แย่งป้ายไปจากมือ ซึ่งเธอพยายามขัดขืน เพราะเธอมองว่านี่คือทรัพย์สินของเธอ 

จนกระทั่งมีการยื้อแย่งกันเกิดขึ้น เมื่อ รปภ. คนหนึ่งกระชากป้ายไปจากตัวเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ เธอจึงพยายามพลิกป้ายชื่อของ รปภ. คนดังกล่าวเพื่อดูว่าเขาคือใคร รปภ.คนนั้นก็ใช้มือตบไปที่แก้มซ้ายของเธอค่อนข้างแรง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ไอคอนสยามและนักกิจกรรม และทวงถามว่าทำไมถึงใช้ความรุนแรงกับผู้ที่มาทำกิจกรรมโดยสันติ เหตุการณ์ดำเนินไปจนตำรวจที่ทางห้างไอคอนสยามโทรแจ้งเดินทางมาถึงที่ห้าง และเชิญเบนจาไปที่ สน.ปากคลองสาน ซึ่งทางห้างไอคอนสยามก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ขณะที่เบนจา แจ้งความกรณี รปภ. ห้างไอคอนสยามทำร้ายร่างกาย

เบนจา อะปัญ จากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หน้า สน.ปากคลองสาน 

เมื่อเบนจาจะเดินทางกลับ รปภ.ของห้างผู้กระทำผิด ก็เดินทางมาที่ สน.เช่นกัน เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาและยอมรับผิด โดยอ้างว่าเป็นเพราะเหตุช่วงชุลมุน จึงไม่ได้ตั้งใจใช้ความรุนแรง โดยผู้กระทำผิดได้รับโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท และกล่าวขอโทษเบนจาในเรื่องการใช้ความรุนแรงต่อเธอ ทั้งนี้ ทางเบนจาไม่ได้มีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โตเกินความจำเป็น อีกทั้ง คู่กรณีได้เดินทางมาที่ สน. เพื่อยอมรับผิด พร้อมทั้งพูดคุยเคลียร์ข้อข้องใจกับเธอเรียบร้อยแล้ว

เบนจา เล่าถึงเหตุการณ์วันนี้ว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์กระแสเรื่องการจับกุม เพียงตั้งใจถือป้าย และถ่ายรูป เพื่อตั้งคำถามถึงการผูกขาดการผลิตวัคซีนของบริษัท Siam Bioscience (บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด) เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจมาเจอเหตุการณ์นี้

พริษฐ์ ชีวารักษ์ เดินทางมาให้กำลังใจเบนจา ที่ สน.ปากคลองสาน

ICONSIAM แถลงผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจ และพร้อมลงโทษเจ้าหน้าที่ หากผิดจริง  

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เพจเฟซบุ๊ก “ICONSIAM” แถลงรับทราบเรื่องและแสดงความเสียใจถึงกรณีที่นักกิจกรรมถูกใช้ความรุนแรง โดยทางห้างฯ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าผิดจริง จะดำเนินการลงโทษด้านวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว นอกจากนี้ ทางห้างฯ ยังขอความร่วมมืองดเว้นกิจกรรมหรือการเรียกร้องหรือการแสดงออกทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมถึงการกระทำที่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ภายในอาคารและทั่วพื้นที่ทั้งหมดของศูนย์การค้า 

ทางไอคอนสยามออกแถลงแสดงความเสียใจและดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่หากผิดจริง จากเพจเฟซบุ๊ก "ICONSIAM" เมื่อเวลา 16.00 น.  

การชุมนุมที่ห้าง ICONSIAM ช่วงเย็น : ผู้บริหารรับปากแถลงเรื่องมาตรการลงโทษพนักงานผ่านเฟซบุ๊กภายใน 24 ชม.

แม้ว่า ICONSIAM จะแถลงออกมาตรการสืบสวนข้อเท็จจริง และ รปภ. คู่กรณีถูกดำเนินคดีทางกฎหมายไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มประชาชนบางส่วน รวมถึง ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ที่มองว่าทางห้างยังรับผิดชอบไม่เพียงพอ จึงเดินทางไปชุมนุมที่ห้างไอคอนสยาม บริเวณด้านหลังห้างที่เดียวกับที่เบนจาทำกิจกรรมชูป้าย มีการเรียกร้องให้ผู้บริหารศูนย์การค้าฯ ลงมาขอโทษ

ชุมนุมหลังห้างไอคอนสยามช่วงเย็น


บริเวณที่ชุมนุมมีมวลชนตะโกน ปราศรัยแสดงความไม่พอใจ รวมถึงนำป้ายมาชู ภายในป้ายมีข้อความว่า “ไบโอไซน์ ผูกขาด”” “รปภ.ห้างนี้ตบผู้หญิง” “ผูกขาดวัคซีน หาซีนให้เจ้า” และอื่น ๆ ก่อนที่ไม่นานจะมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเจรจากับผู้ชุมนุม โดยไมค์ยื่นข้อเรียกร้องว่า จะยุติการชุมนุมวันนี้ก็ต่อเมื่อผู้บริหารศูนย์การค้าไอคอนสยามตั้งโต๊ะแถลงขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ รวมถึงให้นำป้าย “ผูกขาดวัคซีน หาซีนให้เจ้า” ไปตั้งบนโต๊ะแถลงข่าว 

ทั้งนี้ ช่วงที่มีการชุมนุม ผู้ชุมนุมได้รับแจ้งเหตุรุนแรงอีกกรณี ระบุว่า ศศลักษณ์ สุขเจริญ หนึ่งผู้ชุมนุมที่ห้างไอคอนสยาม ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้มือบีบคอ รวมถึงมีการกักตัวผู้ชุมนุมคนอื่น ๆ ไม่ให้ออกจากศูนย์การค้าฯ  

เหตุการณ์ดำเนินไป โดยที่ผู้ชุมนุมยังรอผู้บริหารมาเจรจา จนกระทั่งเมื่อเวลา 18.30 น. มีผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่บริหารของศูนย์การค้าไอคอนสยาม มาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม และพูดผ่านโทรโข่งแถลงขอโทษต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมจะดำเนินการสอบสวนและพิจารณาลงโทษกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด หากเจ้าหน้าที่กระทำขัดแย้งกับนโยบายของห้าง จะมีการทำโทษทางวินัยขั้นร้ายแรงต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอย่างแน่นอน  

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมมองว่าไม่ควรต้องมีการสอบสวนผู้กระทำความผิดอีก เพราะเขาเดินทางไปยอมรับผิดที่ สน.ปากคลองสานเรียบร้อยแล้ว และทวงถามว่าทางห้างจะมีมาตรการทางจริยธรรมกับผู้ที่กระทำผิดอย่างไรบ้าง 

ผู้บริหารตอบผู้ชุมนุมว่ายังไม่สามารถให้คำตอบได้ในขณะนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงยื่นข้อเสนอว่าภายใน 24 ชั่วโมง ทางไอคอนสยามต้องออกมาแถลงข่าวว่าจะดำเนินมาตรการทางจริยธรรมกับเจ้าหน้าที่ที่ตบหน้าเบนจาอย่างไร และในการแถลงข่าวต้องมีการชี้แจงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เบนจามาทำกิจกรรมชูป้าย ลงบนเพจเฟซบุ๊ก “ICONSIAM” ซึ่งทางผู้บริหารไอคอนสยามรับปากทางมวลชนที่มาชุมนุมว่าจะทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ไอคอนสยาม 2 คนที่กระทำรุนแรงต่อทั้งเบนจา อะปัญ และศศลักษณ์ สุขเจริญ ก็ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

หลังจากนั้น ไมค์จึงประกาศยุติการชุมนุม พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “หากภายใน 24 ชั่วโมง. ไม่มีการตอบกลับจากห้างไอคอนสยาม เดี๋ยวเจอกัน” 

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงทยอยแยกย้ายออกจากพื้นที่   

ทั้งนี้ ภายหลังจากกรณี เบนจา อะปัญ ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศูนย์การค้าไอคอนสยามพูดจาข่มขู่ พยายามยื้อแย่งป้าย และตบเข้าที่แก้มซ้าย ส่งผลให้เกิดกระแสบนโลกออนไลน์อย่างทวิตเตอร์มีการทวีต #แบนไอคอนสยาม จำนวน 521,000 ครั้ง จน  #แบนไอคอนสยาม ติดเทรนด์ยอดนิยมในไทย  และมีการติดป้ายรณรงค์เรื่องการผูกขาดวัคซีนของ Siam Bioscience ตามที่ต่าง ๆ ในไทยตามมา  

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net