ครม. ไฟเขียว 'ม.33 เรารักกัน' เยียวยาผู้ประกันตน 4,000 บ. เงินในบัญชีต้องไม่เกิน 5 แสน

ครม. มีมติเห็นชอบโครงการ 'ม.33 เรารักกัน' วงเงิน 37,100 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตน 4,000 บ. แต่ต้องไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2563

 

15 ก.พ.2564 วันนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2564 ที่ได้พิจารณาจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 6 วรรคสาม พิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงาน/โครงการ เพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข ปัญหา เยียวยา  และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) พิจารณาความเหมาะสมของการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ เสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนของพระราชกำหนดฯ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ) ตามที่ คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้

1. อนุมัติให้นำกรอบวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3) มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (2) (ครั้งที่ 2) จำนวน 35,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ในประเทศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

2. อนุมัติโครงการ ม.33 เรารักกัน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กรอบวงเงิน 37,100.0000 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานที่ 2.1 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ พร้อมทั้งให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการฯ ตามขั้นตอน

3. มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ และดำเนินการ ดังนี้ 3.1 จัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ 3.2 รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงปัญหา อุปสรรค โดยจัดส่งให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนดภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป 3.3 ประสานกับกระทรวงการคลังในการรายงานขีดความสามารถในการชำระคืนหนี้เงินกู้ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดฯ ด้วย  

4. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ปรับปรุงรายละเอียดโครงการเราชนะ ในส่วนการเปิดรับลงทะเบียนให้แก่กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จ แต่ไม่สามารถใช้วงเงินสนับสนุนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ รวมทั้งเห็นชอบแนวทางพิจารณาผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง โดยให้กลุ่มลูกจ้างตามสัญญาจ้างเหมาบริการของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (จ้างผ่านบริษัท) ลูกจ้างรายวันของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และอาสาสมัครต่าง ๆ หากผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติของโครงการฯ ที่กำหนดไว้จะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการฯ ตามขั้นตอน และเร่งปรับปรุงสาระสำคัญของโครงการฯ ในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว

สำหรับ สาระสำคัญ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า

โครงการ ม.33 เรารักกัน ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1) หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานประกันสังคม

2) วัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 โดยจะสนับสนุนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 ด้วยวิธีการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นรายสัปดาห์ในเดือนมีนาคม - เมษายน 2564 จำนวนไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน เพื่อใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าเดียวกันกับโครงการเราชนะในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2564

3) ระยะเวลาดำเนินโครงการ ประมาณ 8 เดือน (กุมภาพันธ์ - กันยายน 2564)

4) กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 9.27 ล้านคน ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้ 4.1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย  4.2) เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมโดยมีข้อมูลในระบบประกันสังคม ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการฯ หรือเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 (วันที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการ “เราชนะ”) 4.3) ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ 4.4) ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563

5) วงเงิน 37,100 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ภายใต้แผนงานที่ 2.1

6) รูปแบบการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้

6.1) การจัดทำระบบฐานข้อมูลและการลงทะเบียน สปส. กระทรวงการคลัง (กค.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูลเว็บไซต์ระบบการลงทะเบียน และคัดกรองผู้ได้รับสิทธิจากฐานข้อมูลของภาครัฐต่าง ๆ เช่น ฐานข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ฐานข้อมูลโครงการเราชนะ ฐานข้อมูลเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เป็นต้น เพื่อประกอบการดำเนินการตามโครงการฯ

6.2) การตรวจสอบข้อมูลและคัดกรอง ธนาคารฯ เป็นผู้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูล และประมวลผลและคัดกรองข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

6.3) การจ่ายเงินสนับสนุน กค. อนุมัติเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าครองชีพ จำนวนไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน ผ่านระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g-Wallet) แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ จำนวน 1,000 บาทต่อสัปดาห์

6.4) การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา วงเงินที่ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิตามโครงการ  ม 33 เรารักกัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพตามโครงการฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

6.5) การรับเรื่องร้องเรียน การขอทบทวนสิทธิ ผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติไม่ผ่านตามเกณฑ์การตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการยื่นขอทบทวนสิทธิ์ตามแนวทาง หลักเกณฑ์ และวิธีการอื่น ๆ ที่กระทรวงแรงงาน (รง.) กำหนด โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

6.6) การเบิกจ่ายเงิน สปส. ดำเนินการเบิกจ่ายเงินกู้ตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนดฯ ทั้งนี้ กรณีที่ สปส. โอนเงินให้ร้านค้าและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ไม่สำเร็จจะดำเนินการติดตามเพื่อโอนเงินให้แก่ร้านค้าและผู้ประกอบการภายในกันยายน 2564

7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ กลุ่มเป้าหมายได้รับการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าครองชีพ โดยการนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งก่อให้เกิดการจ่ายเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานระบุว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. - 7 มี.ค. 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com

อนึ่งที่ผ่านมามีกลุ่ม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เคยเรียกร้องให้รัฐเยียวผลกระทบจากมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ถ้วนหน้า 5,000 บาท เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือน โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนใดๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท