เมื่อ 15 ก.พ. 64 กลุ่มชนพื้นเมืองชาวกะเหรี่ยงจากบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี และสมาชิกเครือข่ายภาคี #saveบางกลอย รวมตัวชุมนุมที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิต่อชาวบ้านบางกลอย และให้มีมาตรการคุ้มครองชาวกะเหรี่ยงบางกลอยราว 60 – 70 คนที่เดินทางกลับไปที่บ้านใจแผ่นดิน ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของบรรพบุรุษในผืนป่าแก่งกระจาน

โดยการเดินทางกลับไปบ้านใจแผ่นดินเกิดขึ้นหลังถูกบังคับอพยพโยกย้าย ถูกเผาบ้านและยุ้งฉาง และตกหล่นจากกระบวนการเยียวยาของรัฐมากว่า 25  ปี โดยชุมชนต้องประสบกับปัญหาสิทธิที่ดินทำกินมาเป็นเวลานาน เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินจากภาครัฐอย่างเพียงพอ และที่ดินที่ได้รับจัดสรรเป็นที่ดินที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ นอกจากนี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19ยังทำให้สมาชิกชุมชนที่ออกไปทำงานรับจ้างขาดรายได้ จนนำมาสู่การตัดสินใจเดินทางกลับไปที่บ้านใจแผ่นดินเพื่อใช้ชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

เกรียงไกร ชีช่วง ตัวแทนเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันตก ระบุว่าช่วงที่ผ่านมามีการสกัดกั้นการขนส่งเสบียงอาหารจากบ้านบางกลอยล่างไปบ้านใจแผ่นดิน มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปลาดตระเวนในพื้นที่บ้านบางกลอยล่างและนอกจากนี้ยังมีการกดดันแกนนำชุมชนและพยายามปิดกั้นไม่ให้สมาชิกชุมชนมาร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ อีกด้วย

ตัวแทนชุมชนและเครือข่ายฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องสามข้อ คือ (1) ให้หยุดข่มขู่ คุกคามชาวบ้านทันที โดยให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทหาร ตำรวจถอนกำลังออกจากพื้นที่บ้านบางกลอยล่าง (2) ให้หยุดการสกัดกั้นความช่วยเหลือและการลำเลียงอาหารจากภายนอกให้ชาวบ้านที่ใจแผ่นดิน (3) ให้เร่งรัดการเจรจาระหว่างคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาบางกลอยอย่างรวดเร็วที่สุด

นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับสมาชิกภาคีฯ จำนวน 10 คน ที่ได้รับหมายเรียกจาก สน.​บางซื่อ จากกิจกรรมยื่นหนังสือที่หน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 5  กพ. ที่ผ่านมาด้วย

ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมารับหนังสือและรับปากว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง และรับปากว่าจะไม่มีการดำเนินคดีจากผู้ที่มาชุมนุมในวันนี้ โดยได้โทรศัพท์ถึงวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีคำสั่งให้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากบ้านบางกลอยล่างและเร่งรัดการเจรจาให้เกิดผลเร็วขึ้น 

หลังจากนั้นผู้แทนชุมชนบางกลอยและสมาชิกภาคีฯ ชุมนุมต่อที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐและได้มีการสร้างบ้านไม้ไผ่ตามวิถีชาวกะเหรี่ยงและตั้งหมู่บ้านใจแผ่นดินเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าผู้ชุมนุมจะปักหลักจนกว่าจะได้คำตอบที่เป็นรูปธรรม 

นอกจากนี้ในระหว่างกิจกรรมยังมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยโดยทีมงานจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและ iLaw อีกด้วย