Skip to main content
sharethis

ตำรวจอินเดียจับกุมตัวนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ติชา ราวิ ผู้ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ เกรตา ทุนเบิร์ก นักกิจกรรมด้านปัญหาโลกร้อน โดยที่ตำรวจกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตเอกสารแนวทางสำหรับเกษตรกรผู้ชุมนุมประท้วงในอินเดีย และต่อมาเอกสารเหล่านี้ก็ถูกโพสต์ในทวิตเตอร์โดยเกรตา ทุนเบิร์ก

ในอินเดียมีการใช้อำนาจจับกุมนักกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อเนื่องของเกษตรกร เธอเป็นนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอายุ 22 ปี ชื่อ ติชา ราวิ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ผลิตเอกสารแนวทางการประท้วงของเกษตรกร ซึ่งต่อมามีเกรตา ทุนเบิร์ก นักกิจกรรมด้านโลกร้อนที่มีชื่อเสียงเป็นผู้เผยแพร่ต่อในทวิตเตอร์ โดนที่ราวิถุกคุมขังในสถานที่คุมขัง 5 วันของตำรวจเพื่อรอการไต่สวนจากศาล

ตำรวจอินเดียแถลงกล่าวหาว่าราวิเป็น "ตัวการสำคัญผู้สมรู้ร่วมคิดในการผลิตเอกสารและแจกจ่าย" เอกสารดังกล่าวที่มีการแชร์โดยทุนเบิร์กชื่อว่า "ชุดเครื่องมือ" ส่งเสริมให้ผู้คนลงนามเพื่อประณาม "ความรุนแรงจากรัฐ" ต่อผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ภาครัฐรับฟังเสียงจากผู้ชุมนุมแทนที่จะเยาะเย้ยพวกเขา รวมถึงระบุเกี่ยวกับแฮชแท็กต่างๆ ในทวิตเตอร์ที่สนับสนุนการชุมนุม อีกเรื่องหนึ่งที่ระบุในเอกสารนี้คือการเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกชุมนุมเรียกร้องหน้าสถานทูตอินเดียในประเทศตัวเอง

ตำรวจกล่าวหาว่าราวิและกลุ่มของเธอเป้นผู้ส่งเอกสาร "ชุดเครื่องมือ" ตัวนี้ให้กับทุนเบิร์ก โดยที่ราวิเป็นนักกิจกรรมผู้ก่อตั้งกลุ่มฟรายเดย์ฟอร์ฟิวเจอร์อินเดีย (วันเสาร์เพื่ออนาคตอินเดีย) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการประท้วงที่จัดตั้งโดนทุนเบิร์กเพื่อเน้นย้ำให้เห็นปัญหาโลกร้อนหรือวิกฤตภูมิอากาศ

การประท้วงต่อเนื่องรอบล่าสุดในอินเดียมีกลุ่มเกษตรกรหลายหมื่นคนปักหลักชุมนุมอยู่ที่ย่านรอบนอกของกรุงนิวเดลีมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายการเกษตรฉบับใหม่ที่พวกเขามองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์กับบรรษัทใหญ่เท่านั้น

เรื่องนี้เกิดขั้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีดาราต่างชาติหลายคนที่แสดงการสนับสนุนการประท้วงของกลุ่มเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นริฮานนา ทุนเบิร์ก หรือ มีนา แฮร์ริส ทนายความและนักกิจกรรมผู้ที่เป็นหลานของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองในสหรัฐฯ และอังกฤษอีกหลายคนที่แสดงการสนับสนุนการประท้วงของเกษตรกรผ่านทางโซเชียลมีเดีย

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลอินเดียวิจารณ์ผู้คนเหล่านี้ที่สนับสนุนการประท้วง นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่ามีการให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนผู้คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ "ปลุกเร้าให้เกิดความไม่ชอบใจและเจตนาร้าย" ต่อรัฐบาลอินเดีย นอกจากนี้รัฐบาลอินเดียยังทำสำเร็จในการสั่งให้ทวิตเตอร์ระงับการใช้งานบัญชีผู้ใช้งานในอินเดียหลายร้อยราย แต่ทวิตเตอร์ก็ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องให้บล็อกบัญชีผู้ใช้งานของนักกิจกรรม นักการเมืองและ นักข่าว ซึ่งทวิตเตอร์ระบุว่าอาจจะเป็นการ "ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานด้านเสรีภาพในการแสดงออกตามกฎหมายของอินเดียเอง"

ในเรื่องการจับกุมราวินั้น ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน ไจราม ราเมช กล่าววิจารณ์รัฐบาลในเรื่องนี้ว่าเป็นการกระทำที่ "ชั่วช้าอย่างถึงที่สุด" และนับเป็น "การข่มขู่คุกคาม" นอกจากนี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนยังแสดงความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องความปลอดภัยและสภาพความเป็นอยู่ของราวิ เพื่อนของราวิใช้แฮชแท็กทวิตเตอร์ #ReleaseDishaRavi (ปล่อยตัว ติชา ราวิ) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้เธอ

รัฐบาลอินเดียผ่านร่างกฎหมายการเกษตรฉบับใหม่ 3 ฉบับเมื่อเดือน ก.ย. 2563 และมีการลงนามรับรองร่างกฎหมายในเวลาต่อมา ซึ่งรัฐบาลพยายามโต้แย้งผู้ชุมนุมว่ากฎหมายใหม่นี้จะให้อิสระแก้เกษตรกรในการขายผลผลิตกับตลาดภายนอกที่ไม่ได้มีการกำกับดูแลได้และสามารถทำสัญญากับผู้รับซื้อด้วยราคาที่ตกลงกันเองได้ และเป็นการพยายามขจัดพ่อค้าคนกลางทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาดีขึ้น

อย่างไรก็ตามฝ่ายสมาคมเกษตรกรไม่เห็นด้วยในกรณีนี้เนื่องจากกฎหมายไม่มีการประกันราคาขั้นต่ำให้กับผลผลิตของพวกเขาทำให้เกษตรกรเสี่ยงต่อการใช้อำนาจกดราคาจากบรรษัทใหญ่ที่เข้ามาเป็นผู้เล่นในภาคส่วนการเกษตรของอินเดียที่กำลังมีปัญหา โดยที่ในเดือน ม.ค. ศาลอินเดียได้ตัดสินให้มีการยับยั้งกฎหมายนี้ไว้ก่อนและจัดตั้งคณะกรรมาธิการในเรื่องนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ประท้วงกับรัฐบาล

สื่อ DW ระบุว่าเกษตรกรอินเดียมีการประท้วงใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อประท้วงรัฐบาลที่ละเลยภาคส่วนการเกษตรและมีการแปรรูปให้กับเอกชนมากขึ้นเรื่อยๆ เกษตรกรมากกว่าครึ่งหนึ่งในอินเดียเป็นหนี้สินและมี 20,638 รายที่ฆ่าตัวตายจากข้อมูลของสำนักงานสถิติอาชญากรรมแห่งชาติระหว่างปี 2561-2562


เรียบเรียงจาก : 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net