Skip to main content
sharethis

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบอำนาจให้เลขาฯ แจ้งความที่ ปอท. เอาผิดผู้ใช้เฟซบุ๊กเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และอานนท์ นำภา กรณีเฟซบุ๊กยังเคลื่อนไหวแม้ตัวจะอยู่ในเรือนจำ ชี้บางข้อความผิด ม.112 และทำให้ประชาชนสงสัยว่าใช้เครื่องมือสื่อสารในเรือนจำได้ เตรียมขอตรวจสอบทนายความที่เข้าเยี่ยม

25 ก.พ. 2564 มติชนออนไลน์ รายงานว่า เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายจากกรมราชทัณฑ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีเฟซบุ๊กเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ มีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม โดยมี พล.ต.ท.อนันต์ นานาสมบัติ ผบ.ปอท. เป็นผู้รับเรื่อง

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ได้รับการมอบหมายจากสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการโพสต์เฟซบุ๊กของพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร ที่มีข้อความไม่เหมาะสมในลักษณะหมิ่นเบื้องสูง โดยกรณีนี้จะต้องแบ่งประเด็น คือ ใครเป็นผู้โพสต์ข้อความ และผู้ที่โพสต์อยู่ที่ไหน เพราะที่ผ่านมา เฟซบุ๊กนี้ พริษฐ์ใช้มาตลอดตั้งแต่เคลื่อนไหวทางการเมืองจนถูกควบคุมตัวเข้าสู่เรือนจำ และเมื่อเข้าสู่เรือนจำแล้วยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กอยู่ ซึ่งตนยืนยันว่าภายในเรือนจำไม่อนุญาตให้ใช้และนำเครื่องมือสื่อสารใดๆ เข้าไป กรมราชทัณฑ์มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ซึ่งการโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว นอกจากมีข้อความที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังเป็นการทำให้เกิดความเสียหายต่อกรมราชทัณฑ์ เพราะประชาชนเกิดความสงสัยว่าในเรือนจำสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารได้

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว ที่ สน.ร่มเกล้า และเคยให้ข่าวตักเตือนไปแล้ว แต่ยังมีการเคลื่อนไหวและโพสต์ข้อความอยู่เรื่อยมา ซึ่งการโพสต์ล่าสุดถึงขั้นจาบจ้วงเบื้องสูง ดังนั้นกระทรวงยุติธรรม รวมถึงประชาชนผู้ภักดีย่อมจะยอมเรื่องนี้ไม่ได้ จึงให้ฝ่ายกฎหมายของกรมราชทัณฑ์มาร้องทุกข์กล่าวโทษ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวน และไปสอบถามนายพริษฐ์ว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นของเขาจริงหรือไม่ ใครเป็นผู้โพสต์ และมีใครมีไอดีหรือเป็นแอดมินบ้าง หากเขาปฏิเสธ เราต้องสืบให้ได้ว่าใครเป็นผู้โพสต์ หรือมีใครเข้ามาเยี่ยมบ้างหรือไม่ แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาเป็นช่วงควบคุมโรคโควิด-19 เรือนจำไม่ได้เปิดให้ใครเข้าเยี่ยม มีเพียงแค่ทนายส่วนตัวเท่านั้นที่เข้าได้ ดังนั้น ตรงนี้คงต้องทำหนังสือถึงสมาคมทนายความ ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและมารยาทของทนายความด้วย

“วันนี้ผมพร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายกรมราชทัณฑ์ มายื่นเรื่องขอให้ทาง บก.ปอท. สืบสวนว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว และข้อความดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ขอให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนกรณีเฟซบุ๊กของอานนท์ นำภา แกนนำอีกคนหนึ่งก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน ผมขอให้ ปอท.เร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว” เลขานุการ รวม.ยุติธรรมกล่าว

ด้าน พล.ต.ท.อนันต์กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง ปอท.ขอรับไปตรวจสอบ ว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นของใคร และใครเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว และขอเตือนประชาชนว่า หากจะแชร์หรือแสดงความเห็นอะไรในโซเชียลมีเดีย ขอให้ดูอย่างรอบครอบ และระมัดระวังข้อความที่สุ่มเสี่ยง หากไม่ระวังอาจจะมีความผิดตามกฎหมายได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net