ผู้ชุมนุมถือธง REDEM พร้อมเครื่องครัวที่นำมาเคาะเชิงสัญลักษณ์
28 ก.พ.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.52 ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ คนเริ่มมานั่งคุยรอเริ่มการชุมนุม มีร้องรำทำเพลง จากนั้นเวลา 15.15 ตำรวจมาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังไม่ทันได้อ่านประกาศ โดนตะโกนไล่
ขณะที่เวลา 15.17 ทางด้านผู้ชุมนุมเริ่มลงถนนตั้งขบวนพร้อมโบกธง REDEM
ล่าสุดเวลา 15.43 น. REDEM กำลังเปิดโหวตว่าจะเลื่อนเดินไปราบ 1 เป็นเวลา 17.00 น. หรือเดินตามกำหนดการเดิมคือ 16.00 น. ซึ่งผลโหวตเลื่อนเป็น 17.00 น.
ด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินมานั้น ปรากฏมีรั้วลวดหนาม ตู้คอนเทนเนอร์และตำรวจตั้งแนวไว้
เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ชุมนุมเริ่มเดินไปทางสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งหน้าราบ 1
17.54 น. หลังผู้ชุมนุมตัดรั้วลวดหนาม ผู้ชุมนุมดึงตู้ออกได้ 1 ตู้แต่ด้านหลังตู้มีแนวตำรวจควบคุมฝูงชนอยู่
18.15 น. หน้าราบ 1 ตำรวจควบคุมฝูงชนจับผู้ชุมนุมอย่างน้อย 2 คน พร้อมถูกทำร้ายร่างกาย
18.32 ตำรวจนำรถน้ำมาจากทางด้านดินแดงมุ่งหน้าดอนเมืองอยู่บริเวณหน้า รพ.ทหารผ่านศึก มีการประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน แต่ทางด้านผู้ชุมนุมประกาศระดมคนที่มีอุปกรณ์กันแก๊สไปกั้นแนว พร้อมระบุว่ามีเสื้อกันฝนแจก
18.46 น. ทางด้านหลังแนวตำรวจบริเวณหน้า รพ.ทหารผ่านศึก มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มขว้างปาสิ่งของใส่แนวตำรวจ
18.47 น. มีเสียงเสียงการระเบิด 1 ครั้ง ทางด้านตำรวจมีการเตรียมอาวุธปืนคล้ายเครื่องยิงแก๊สน้ำตาและปืนลูกซอง ไม่ทราบว่าบรรจุกระสุนชนิดใด
18.55 น. หลังเหตุปะทะหน้าปั๊ม ปตท. มีผู้ชุมนุม 1 คน บาดเจ็บที่ขา ขณะที่อีกคนนอนหมดสติ
19.04 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามตำรวจในพื้นที่บอกว่าเป็นกระสุนยาง
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ใช้เครื่องเสียงตำรวจประกาศว่าตำรวจจะถอยไปที่เก่าบริเวณ ซ.พหลโยธิน 2 แล้วจะอยู่นิ่ง
และจะไม่มีการปะทะแต่อย่างใด
19.09 น. ตำรวจประกาศว่าจะเปิดการจราจร ให้ประชาชนเดินทางกลับ
19.20 น. ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมบางขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งห้ามปราม ขณะที่ฝั่งตำรวจขว้างปาสิ่งของกลับมา
19.21 น. ตำรวจใช้กระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ผู้สื่อข่าวรายงานเบื้องต้นว่า มีผู้ถูกกระสุนยางบาดเจ็บเป็นรายที่ 2 กำลังปฐมพยาบาลเตรียมนำส่งโรงพยาบาล
19.25 น. บริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก มีผู้บาดเจ็บจากกระสุนยางรายที่ 3 มาขอปฐมพยาบาล มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามกันแนวเป็นโล่มนุษย์ระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม เพื่อป้องกันการปะทะ โดยผู้สื่อข่าวยืนยันว่าไม่ได้ยินการประกาศการใช้เครื่องมือจากตำรวจในการควบคุมฝูงชนก่อน ไม่ว่าจะเป็นแก๊สน้ำตาหรือกระสุนยาง โดยหลักสากลที่ใช้ร่วมกันในการสลายการชุมนุมนั้นต้องเป็นการสลายการชุมนุมตามขั้นตอน จากเบาสุดไปหาหนัก โดยสิ่งสำคัญคือต้องมีการประกาศเตือนก่อนว่าจะมีการเข้าไปดำเนินสลายการชุมนุม โดยการประกาศ ต้องทำให้ฝูงชนได้ทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะ น้ำฉีด แก๊สน้าตา กระบอง หรือกระสุน
ภาพจังหวะที่ตำรวจใช้กระสุนยางเตรียมยิงใส่ผู้ชุมนุม
19.45 น. มีผู้ชุมนุมเดินมาจากฝั่ง รพ.ทหารผ่านศึก มาที่บนิเวณหน้าราบ 1 ประตูฝั่งปั๊ม ปตท. ถ.วิภาวดี โดยมีคนบอกว่าจะประท้วงต่อทางประตูฝั่งวิภา แต่ขณะกำลังเดินอยู่บริเวณหน้าด่านโทลเวย์ มีแกนนำบอกว่าการชุมนุมยุติแล้ว ให้มวลชนกลับบ้านได้เลย แต่มีคนบอกว่าการชุมนุมยังไม่ยุติ อยากให้ไปต่อ ทำให้ผู้ชุมนุมสับสนมาก
19.52 น. ตรงแนวตำรวจควบคุมฝูงชนใกล้ด่านโทลเวย์ดินแดงสอง ผู้ชุมนุมดันตู้คอนเทนเนอร์ แต่มีผู้ชุมนุมประกาศให้หยุดดัน
20.06 น. ผลโหวตจากประชาชนในกลุ่ม REDEM ระบุให้ยุติการชุมนุม
20.10 น. ผู้ชุมนุมเดินมาจากที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกจะมาประท้วงที่ประตูหน้าราบ 1 ฝั่งปั๊ม ปตท. ถ.วิภาวดีรังสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไม่สามารถระบุสถานการณ์ด้านหน้าได้ แต่ตำรวจประกาศขอให้ผู้ชุมนุมอย่าดันเข้ามา และขอให้ถอยกันคนละก้าว ในขณะที่ผู้ชุมนุมเดินเข้าไปยังแนวตำรวจ ส่วนเจ้าหน้าที่เตือน หากเดินเข้ามาที่แนวอีก จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอน คือ ใช้กำลังเพื่อยุติการชุมนุม
20.17 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการปิดไฟบริเวณที่ชุมนุม
20.19 น. มีรถพยาบาลไปที่แนวระหว่าง ตร. และผู้ชุมนุม หลังผู้ชุมนุมตะโกน ขอทีมแพทย์
20.20 น. หน้าปั๊ม ปตท. ตำรวจฉีดน้ำเป็นระยะใส่ผู้ชุมนุม การ์ดแจ้งว่ามีการใช้แก๊สน้ำตา
20.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจมีการเสริมกำลังเพิ่ม และพบกลุ่มควันอีกครั้ง
20.33 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเดินหน้าดันพร้อมใช้อาวุธคล้ายปืนยิงกระสุนยางยิงจากหลังแนวโล่เป็นระยะจากทาง รพ.ทหารผ่านศึกมุ่งหน้าแยกสุทธิสาร ถ.วิภาวดีรังสิต
20.43 น. บริเวณสะพานลอย ใกล้ รพ.ทหารผ่านศึก มีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ใต้สะพานลอยมีแนวตำรวจชุดควบคุมฝูงชนพร้อมรถน้ำ 1 คัน หันหน้าทางแยกดินแดง ส่วนบริเวณใต้สะพานลอย รพ.ทหารผ่านศึก เจ้าหน้าที่ประกาศให้คนที่ต้องการออกจากพื้นที่รีบออก แต่สั่งให้ตรวจค้นก่อนออกจากพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพบปลอกกระสุนยางไม่ต่ำกว่า 5 นัด บริเวณหน้า รพ.ทหารผ่านศึก
20.58 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจยิงกระสุนยางรอบที่เดินไล่จากหน้า รพ.ทหารผ่านศึก ไปทางราบ 1 โดยไม่มีการแจ้งเตือนก่อน มีเพียงประกาศแค่จะไม่สลายการชุมนุม แต่กลับยิงกระสุนยางอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. มีผู้ชุมนุมประปราย กับตำรวจชุดควบคุมฝูงชนราว 50 นาย
อยู่ถนนเลนนอก ข้อมูลจากผู้ชุมนุมส่วนรถน้ำ ตำรวจถอยร่นไปทางฝั่ง ถ.สุทธิสาร
21.18 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ชุมนุมที่เดินออกมาจากพื้นที่ชุมนุม พบว่าเจ้าหน้าที่ล้อมผู้ชุมนุม และกั้นทางออกฝั่งดินแดง ผู้ชุมนุมต้องปีนข้ามเกาะกลางถนนออกทางด้านข้าง และหลบแนวตำรวจออกนอกพื้นที่ โดยผู้ชุมนุมเล่าความรู้สึกว่า มาร่วมชุมนุมก่อนหน้านี้ ไม่เคยเจอเหตุการณ์ปะทะ แต่วันนี้ไม่คาดคิดและไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันมา จึงรู้สึกแตกตื่น และเป็นกังวลเนื่องจากรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลังแนวตำรวจ
22.25 น. ตำรวจ คฝ. ข้ามฝั่งจากหน้าปั้มเชลล์กลับไปฝั่งตรงข้าม หลังไล่จับกุมและทำร้ายผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมนำกระสุนและปลอกกระสุนของเจ้าหน้าที่มาแสดงกับสื่อมวลชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงาน เวลา 22.50น. ทางศูนย์ฯ ได้รับแจ้งจากสายชล(นามสมมติ)เยาวชน อายุ 16 ปี ว่าถูกจับกุมอยู่ในรถขัง ขณะนี้รถจอดอยู่ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 มีผู้ถูกจับกุมรวม 19 คน เป็นชายทั้งหมด โดยเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี 2 คน ตำรวจไม่ได้แจ้งว่าจะนำตัวไปที่ไหน
22.45 น. ศูนย์เอราวัณ ผู้บาดเจ็บ 16 คน ส่วนใหญ่เป็นการฟกช้ำ บวม มีแผล นำส่ง รพ.ราชวิถี 5 รพ.รามา 2 รพ.ตำรวจ 6 รพ. ทหารผ่านศึก 2 รพ.พระรามเก้า 1 รวม16ราย
ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า 23.30 น. มีรายงานด่วนแจ้ง ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งไปปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี โดยแพทย์รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินแล้วทำซีพีอาร์ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสียชีวิตในห้องฉุกเฉิน ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนข้าราชการตำรวจและผู้บังคับบัญชา
23.15 น. ที่ สน.ดินแดง ผู้ชุมนุมจากหน้าราบ 1 มาประท้วงบริเวณหน้า สน.เพื่อกดดันให้ ตร. ปล่อยตัว ผู้ที่ถูกจับ ทั้งนี้ มีเสียงระเบิดคล้ายประทัดดังขึ้น 1 ครั้ง และมียานพาหนะตำรวจไฟไหม้ ก่อนที่จะมีคนมาดับเพลิง
เวลา 00.03 น. วันที่ 1 มี.ค.64 กลุ่มชายฉกรรจ์ สวมหมวกกันน็อคปกปิดใบหน้า ระบุว่าตัวเองอยู่ย่านดินแดง และแสดงความไม่พอใจที่มีกลุ่มมารื้อทำลายสิ่งของในบริเวณนี้
ภาพบรรยากาศการชุมนุมเพิ่มเติม
อนึ่ง RESTART DEMOCRACY หรือ REDEM ระบุถึงเหตุผลการชุมนุมครั้งนี้ว่า ค่ายดังกล่าวเป็นค่ายทหารที่ที่ถูกโอนไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ทั้งที่ในระบบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กษัตริย์จะมีบทบาทเพียงปกเกล้าแต่ไม่ปกครอง ซึ่งเป็นไปตามหลักการ “กษัตริย์ทำผิดไม่ได้ (The king can do no wrong)” แต่การโอนกองกำลังไปเป็นของกษัตริย์เช่นนี้ คือการทำให้กษัตริย์มีอำนาจปกครองเหนือกองทัพ ซึ่งอาจส่งผลให้กษัตริย์ “ทำผิดได้” อีกทั้งยังมีบ้านพักที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าไปอยู่ฟรีโดยภาษีประชาชน ดังนั้นการเดินขบวนครั้งนี้ REDEM ระบุว่าเปรียบเสมือนการออกสาสน์ให้กษัตริย์คืนค่ายทหาร พร้อมจ่ายค่าเสียหายและค่าน้ำค่าไฟให้ประชาชนด้วย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ REDEM ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกหลังประกาศเปิดตัวจากกลุ่มจากเยาวชนปลดแอกโดยมีการลงมติออนไลน์ทั้งกำหนดวัน เวลา สถานที่ และประเด็นเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวมีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์ พอกันทีกับภาษีหลายหมื่นล้านบาทที่ประชาชนต้องจ่ายให้กับสถาบันกษัตริย์ทุกๆ ปีในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงต้องอดมื้อกินมื้อ พอกันทีกับอำนาจที่มากล้นจนไม่อาจตรวจสอบได้
2. ปลดแอกประชาธิปไตยขับไล่ทหารออกจากการเมือง “ไม่ใช่แค่พลเอกประยุทธ์” เพราะนี่คือเครือข่ายนายพลขนาดใหญ่ที่รวมหัวกันเพื่อกัดกินประเทศนี้ และ 3. ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า(ไม่ใช่สวัสดิการแบบชิงโชค) จัดสรรภาษีอย่างเป็นระบบ นำมาใช้กับการสร้างรัฐสวัสดิการแบบถ้วนหน้าตั้งแต่เกิดยันตาย เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์