รัฐมนตรีสเปนออกโรงวิจารณ์เจ้าหญิงเอเลนา ดัชเชสแห่งลูโก และเจ้ากริสตีนา พระเชษฐภคินีของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 กษัตริย์สเปน ที่เสด็จฯ เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าได้รับข้อเสนอจากรัฐบาลยูเออีภายหลังเสด็จฯ เยือนอดีตกษัตริย์ฆวน การ์ลอสที่ 1 พระราชบิดาผู้ลี้ภัยอยู่ในขณะนี้

4 มี.ค. 2564 เจ้าหญิงเอเลนา และเจ้าหญิงกริสตีนา ยอมรับว่าทั้ง 2 พระองค์เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จริง โดยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำพาสปอร์ตวัคซีน ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์สามารถเสด็จฯ เยี่ยมอดีตกษัตริย์ฆวน การ์ลอสที่ 1 พระราชบิดาผู้เสด็จฯ ลี้ภัยมาประทับยังกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

"หากไม่ใช่เพื่อเหตุผลดังกล่าว เราคงจะต้องรอคิวฉีดวัคซีนในประเทศสเปน" เจ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่ในสื่อของสเปน ภายหลังมีรายงานว่าทั้งคู่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย

เจ้าหญิงเอเลนา (ซ้าย) และเจ้าหญิงกริสตีนา (ขวา)

เจ้าหญิงเอเลนา ผู้มีพระชนมายุ 57 พรรษา และเจ้าหญิงกริสตีนา ผู้มีพระชนมายุ 55 พรรษา ถือว่ายังไม่เข้าเกณฑ์บุคคลกลุ่มแรกที่จะได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามหลักการด้านสาธารณสุขของสเปน ด้านโฆษกสำนักพระราชวังของสเปนปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าว เพียงแต่กล่าวสั้นๆ ว่า การเสด็จฯ เยือนของเจ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์เป็นเรื่องส่วนพระองค์ สำนักพระราชวังจึงไม่มีหน้าที่ที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้

ในขณะที่นักการเมืองจากพรรคโปเมโดส พรรคร่วมรัฐบาลซึ่งมีจุดยืนชัดเจนว่าต่อต้านสถาบันกษัตริย์ รวมถึงนักการเมืองจากแคว้นกาตาลุญญาที่ชูนโยบายแบ่งแยกดินแดน ต่างพากันออกมาวิจารณ์การกระทำของเจ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์ว่าไม่เหมาะสมอย่างมาก

"การฉีดวัคซีนของเจ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์เป็นมากกว่าข่าวที่ทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย แต่ในสายตาของสาธารณชน นี่คือการเน้นย้ำให้เห็นถึงสิทธิพิเศษทางการรักษาและที่เหล่าอภิสิทธิ์ชนได้รับ" ไอรีน มอนเตโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความเท่าเทียม และ ส.ส. จากพรรคโปเมโดสกล่าวผ่านโทรทัศน์ช่อง TVE

ประเด็นของสถาบันกษัตริย์สเปนสร้างรอยร้าวให้แก่พรรคสังคมนิยมแรงงานสเปน (PSOE) และพรรคโปเมโดส ซึ่งจับมือร่วมรัฐบาลกันมาตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว โดยพรรคโปเมโดสถือเป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนต่อต้านสถาบันกษัตริย์พรรคแรกที่ได้เป็นรัฐบาลของสเปน นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970

การฉีดวัคซีนได้รับการโต้เถียงน้อยลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะข่าวการชำระภาษีย้อนหลังของอดีตกษัตริย์ฆวน การ์ลอสที่ 1 เป็นเงินจำนวน 4.4 ล้านยูโร เพื่อเลี่ยงการถูกดำเนินคดีในชั้นศาล

การชำระภาษีย้อนหลังของอดีตกษัตริย์สเปน เกี่ยวโยงกับค่ายใช้จ่ายเพื่อการเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านยูโร ซึ่งมูลนิธิซากัตกาที่ดำเนินการโดยพระญาติห่างๆ ของอดีตกษัตริย์สเปนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว กรณีดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นให้ชาวสเปนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่ยอมรับการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามสิทธิของพลเมือง แต่การกระทำที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้นถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ควรนำมาตัดสินภาพรวมของสถาบันกษัตริย์

ด้านมิเกล อิเคตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนโยบายเขตแดนและพลเรือนจากพรรค PSOE กล่าวว่าการฉวยโอกาสจากตำแหน่งหน้าที่เพื่อลัดคิวการฉีดวัคซีนถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมาก

นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นของสเปนยังรายงานว่า เฟลิกซ์ ซานส์ โรลดัน อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของสเปน ก็ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กรุงอาบูดาบีในระหว่างการเดินทางเข้าพบกษัตริย์ฆวน การ์ลอสที่ 1 อีกด้วย

ที่มา:

• Row in Spain after king's sisters get virus jab in UAE