Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สรุปเหตุการณ์ 6 มี.ค. 2564 จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน มากที่สุดตั้งแต่ชุมนุมเยาวชนปลดแอก 18 คน ถูกตั้งข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจร-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อ้างเตรียมสร้างเหตุวุ่นวาย

7 มี.ค. 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สรุปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 จากกรณีกลุ่ม “รีเด็ม” (REDEM) นัดหมายชุมนุม #ม็อบ6มีนา เดินขบวนจากห้าแยกลาดพร้าว ไปหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อทำจัดกิจกรรมเผาขยะหน้าศาล ได้เกิดเหตุการณ์จับกุมทีมการ์ด We Volunteer (Wevo) และประชาชนบริเวณห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมแต่อย่างใด

เวลาประมาณ 18.00 น. เฟซบุ๊กเพจของ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ได้ไลฟ์เหตุการณ์ที่ตนพร้อมเพื่อนรวม 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย เข้าขอค้นตัวและควบคุมตัวที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ระหว่างที่มาทานอาหารในห้างสรรพสินค้า และยังมีเจ้าหน้าที่พกพาอาวุธปืนตามเข้ามาเพิ่มอีก 5-6 นาย

เวลาประมาณ 18.20 น. ที่ลานจอดรถเมเจอร์รัชโยธิน ชุดเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือจำนวนมาก ยังเข้าควบคุมตัวทีมการ์ด Wevo มากกว่า 20-30 คน

ผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่าการเข้าจับกุมครั้งแรกเกิดขึ้นที่บริเวณลานจอดรถชั้น 5 ของห้าง ขณะกลุ่มการ์ด Wevo ประมาณกว่า 20 คน กำลังนั่งกินข้าวกล่อง และมีรถตำรวจหลายคันวิ่งมาจอด พร้อมหน่วยคอมมานโดลงมาจากรถประมาณคันละ 10 นาย สั่งให้กลุ่มการ์ดหมอบลงกับพื้น บางส่วนยังถูกให้นอนราบ เอาปืนยาวเข้าจ่อด้านหลัง ยึดเป้ที่แต่ละคนใส่อุปกรณ์ชุดปฏิบัติงาน มีการตรวจยึดสิ่งของ และมัดมือผู้ถูกจับกุมด้วยสายเคเบิลไทด์ ก่อนเอาตัวขึ้นรถ จากนั้นเพื่อนและประชาชนที่รู้ว่าทีมการ์ดชุดแรกโดนจับ ได้พยายามขึ้นไปดู ก็กลับถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเพิ่มเติมอีก

จากนั้น ผู้ถูกควบคุมตัวถูกแยกเป็นกลุ่ม นำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังแยกกันในรถ 3 คัน และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวออกไปจากเมเจอร์รัชโยธิน โดยมีกลุ่มประชาชนที่พยายามสกัดการเคลื่อนของรถจากบริเวณแยกรัชโยธิน ทำให้รถคันหนึ่งไม่สามารถเดินทางไปได้ และมีผู้ถูกควบคุมตัวได้ออกมาจากรถดังกล่าว

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์

จับกุมการ์ดและประชาชนกว่า 48 ราย มากสุดตั้งแต่ชุมนุมเยาวชนปลดแอก 30 ราย แสดงตัว สน. ยืนยันไม่ได้หลบหนี

เวลา 18.45 น. ขณะที่รถควบคุมตัวผู้ต้องขังคันหนึ่ง ซึ่งมีประชาชนถูกคุมตัวอยู่บนรถ 14 ราย ได้วิ่งมาบริเวณใกล้ศาลอาญา ซึ่งมีผู้ชุมนุมกันอยู่ กลุ่มประชาชนได้ติดตามและล้อมรถไว้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ทำให้เจ้าหน้าที่ขับรถได้หนีลงจากรถไป และทิ้งรถควบคุมตัวไว้อยู่บนถนน

ผู้ชุมนุมได้พยายามสอบถามข้อมูลจากผู้ถูกควบคุมตัว และพยายามเปิดช่องระบายอากาศ ส่งน้ำให้ แต่ผู้ถูกคุมตัวไม่หลบหนีออกมา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีหลบหนีการจับกุม เพราะหลายคนได้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดประชาชนไว้ก่อนแล้ว

ต่อมาได้มีความพยายามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ให้มาดูแลสถานการณ์ผู้ถูกควบคุมตัว 14 คน แต่ก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เดินทางมากว่า 2 ชั่วโมง

จนเวลา 21.07 น. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางไปยังจุดที่ทีมการ์ด Wevo 14 คน อยู่ในรถควบคุมตัว จากนั้นผู้ถูกจับกุมทั้ง 14 คน ร่วมกันตัดสินใจเดินเท้าไปที่สน.พหลโยธิน ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี ทั้งสอบถามเหตุผลการจับกุม และอำนาจที่เจ้าหน้าที่ใช้จับกุม

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ทางด้านผู้ถูกควบคุมตัวอีกส่วนหนึ่ง ปิยรัฐ จงเทพ ยืนยันว่าเขาถูกพาตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจชายแดน ภาค 1 จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ในช่วง 19.00 น. เศษ

ก่อนที่ในเวลา 21.14 น. ปิยรัฐยืนยันว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวไปที่ บก.ตชด. ภาค 1 ดังกล่าว รวม 18 ราย ต่อมาเมื่อทนายความเดินทางติดตามไป เจ้าหน้าที่ด้านหน้ายังไม่ให้เข้าพบผู้ถูกควบคุมตัว รอกว่า 30 นาที จึงอนุญาตให้ทนายที่ติดตามไปเข้าไปภายใน บก.ตชด.ภาค 1 ได้

เวลา 22.10 น. ที่สน.พหลโยธิน ต่อมาประชาชนที่ถูกจับกุม แต่รถคุมขังถูกสกัด จึงออกมาจากรถได้ ยังได้เดินทางไปแสดงตัวเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่อีก 13 ราย ทำให้มีผู้ถูกจับกุมไปแสดงตัวที่ สน.พหลโยธินแล้ว 27 ราย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดหลบหนี

ตำรวจระบุว่าจะลงบันทึกประจำวันว่าทั้งหมดมาแสดงตัว และถ่ายภาพไว้ แต่สาเหตุจากจับกุมนั้น ตำรวจสน.พหลโยธินที่ประจำการอยู่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และระบุว่าชุดจับกุมนั้นไม่ได้มาจากสน.พหลโยธิน

บันทึกประจำวันดังกล่าว ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดยืนยันว่ากำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ลานจอดรถชั้น 5 ของห้างเมเจอร์รัชโยธิน แต่กลับได้ถูกตำรวจเข้าควบคุมตัว โดยไม่มีการแสดงหมายจับ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายใด ไม่แจ้งว่าจะพาตัวไปที่ใด ไม่มีการแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ใช้กำลังควบคุมตัว ใช้อาวุธข่มขู่ มีการยึดทรัพย์สินของแต่ละราย จึงขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามทรัพย์สิน และสอบสวนกล้องวงจรปิดในห้างทั้งหมด เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับทุกคนด้วย

จากนั้นตำรวจได้ปล่อยตัวทั้งหมดกลับ โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด หากจะดำเนินคดีภายหลังจะออกหมายเรียกต่อไป

ต่อมายังได้มีผู้ถูกจับตัวอีก 3 รายเข้าแสดงตัวต่อตำรวจสน.พหลโยธินเพิ่มอีก โดยหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน ก่อนปล่อยตัวกลับไป ในเวลาประมาณ 01.00 น.

ทำให้รวมแล้ว มีผู้ถูกจับกุมเข้ามาแสดงตัวต่อตำรวจสน.พหลโยธิน ทั้งหมด 30 ราย หากรวมกับจำนวนผู้ถูกจับกุมที่ บก.ตชด. ภาค 1 ทำให้มีผู้ถูกจับกุมจากเหตุที่ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ไม่น้อยกว่า 48 ราย ซึ่งนับได้ว่าเป็นการจับกุมจากเหตุทางการเมือง เป็นจำนวนมากที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมเยาวชนปลดแอก เมื่อกลางปี 2563 เป็นต้นมา

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

18 คน ถูกนำตัวไปสอบใน บก.ตชด.ภาค 1 โดยมีเยาวชน 2 ราย และศัลยแพทย์ถูกคุมตัวด้วย

เวลาประมาณ 23.00 น. ที่ บก.ตชด. ภาค 1 ได้มีแพทย์เข้าตรวจร่างกายทีมการ์ด Wevo และประชาชนที่ถูกจับกุมจำนวน 18 ราย เพื่อตรวจสอบว่ามีการบาดเจ็บจากการจับกุมหรือไม่ โดยพบว่าในจำนวนผู้ถูกจับกุม มีเยาวชนอายุ 17 ปี จำนวน 2 คน และยังมีศัลยแพทย์ 1 คน จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกจับกุมมาด้วย

ในเวลา 00.50 น. ทางตำรวจระบุว่ากรณีของเยาวชน 2 ราย หลังทำบันทึกจับกุมเสร็จและตรวจร่างกายแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้านก่อน และจะนัดหมายที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันรุ่งขึ้น เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนตรวจสอบการจับกุมกรณีเยาวชนต่อไป จนเวลา 01.30 น. ผู้ปกครองของเยาวชนทั้งสองคนได้เดินทางเข้าไปใน บก.ตชด. ภาค 1 ได้

จากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานที่เตรียมพร้อมรออยู่ก่อน เข้าตรวจสอบของกลางที่เจ้าหน้าที่มีการยึดจากผู้ถูกจับกุม และมีการระบุในบันทึกตรวจยึดว่าได้เข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทั้งหมดจึงปฏิเสธการลงลายมือชื่อ

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนที่เดินทางมาร่วมสอบสวนผู้ถูกจับกุม มีทั้งตำรวจจากสน.พหลโยธิน ท้องที่เกิดเหตุ และสน.อื่นๆ ที่เดินทางมา

เวลา 05.00 น. พนักงานสอบสวนสน.พหลโยธินระบุว่าจัดทำบันทึกการจับกุมตัวทั้ง 18 คน ไม่แล้วเสร็จ โดยไม่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวติดขัดในขั้นตอนใด แต่มีการระบุว่าต้องรอ “นาย” ก่อนด้วย มีเพียงตำรวจที่มาสน.อื่นนำเอกสารบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นมาอ่านให้ฟัง

เหตุที่บันทึกการจับกุมตัวทั้ง 18 ราย ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ไม่สามารถดำเนินขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา สอบปากคำ และกระบวนการอื่นๆ ได้ ทนายความและผู้ถูกจับกุมตัวทำได้เพียงรอพนักงานสอบสวนเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้ปกครองของเยาวชน 2 ราย ได้มารอรับตัวกลับบ้านก็ยังไม่สามารถกลับได้

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ศูนย์ทนายฯ สรุป 6 มี.ค. จับการ์ด Wevo-ประชาชนกว่า 48 คน

ภาพเหตุการณ์การจับกุมบริเวณห้างเมเจอร์รัชโยธิน

กล่าวหาเป็นอั้งยี่–ซ่องโจร–ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตำรวจอ้างทีมการ์ด Wevo เตรียมก่อเหตุวุ่นวายในการชุมนุม

จนเวลาประมาณ 06.00 น. ของเช้าวันที่ 7 มี.ค. 2564 จึงมีการนำเอกสารบันทึกการจับกุมมาให้ผู้ถูกจับกุมตรวจสอบ นับเป็นเวลา 11 ชั่วโมง หลังผู้ถูกจับกุมคนแรกเดินทางมาถึง บก.ตชด. ภาค 1 แต่บันทึกจับกุมระบุว่าการทำบันทึกเกิดขึ้นในวันที่ 6 มี.ค. 2564 เวลา 19.30 น.

บันทึกระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการจับกุมรวมกว่า 38 นาย มาจาก 3 หน่วยงานใหญ่ ได้แก่ ตำรวจ กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อคฝ., ตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ. และ ตำรวจ บก.ส. 1 บช.ส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มณฑล บัวจับ ผบก.ส.1 บช.ส.

บันทึกจับกุมระบุข้อกล่าวหาผู้ถูกจับกุมทั้ง 18 รายใน 4 ข้อกล่าวหา รวมทั้งเยาวชน 2 ราย ได้แก่ ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6), ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 และ 210 ฐานเป็นอั้งยี่ และเป็นซ่องโจร

พฤติการณ์ที่กล่าวหาระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนพฤติการณ์ของกลุ่ม Wevo โดยมีปิยรัฐ จงเทพ เป็นแกนนำกลุ่ม มีพฤติการณ์ที่เป็นการชุมนุมมั่วสุมกัน รวมเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิด มีการแบ่งหน้าที่กันตามสายบังคับบัญชา อันปรากฏในรายงานการสืบสวนของตำรวจสันติบาล

บันทึกจับกุมอ้างว่าจากการสืบสวนหาข่าวได้รับข้อมูลข่าวกรองเชิงลึก ว่าในวันที่ 6 มี.ค. 64 จะมีการนัดหมายรวมกลุ่มกันบริเวณลานจอดรถห้างเมเจอร์รัชโยธิน เพื่อวางแผนที่จะนำอาวุธ เช่น หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ระเบิดควัน และวัตถุอื่นที่ใช้เป็นอาวุธได้ ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสร้างสถานการณ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับสั่งการให้วางแผนทำการจับกุมให้จงได้

เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งให้วางแผนและซุ่มดูบริเวณอาคารจอดรถทุกชั้น จนเวลาประมาณ 18.00 น. สังเกตเห็นว่ามีบุคคลมารวมกลุ่มกันบริเวณอาคารจอดรถชั้น 5 คาดการณ์ด้วยสายตาว่ามีประมาณ 50 คน และเป็นการกระทำที่ผิดปกติ บางคนยังมีใบหน้าใกล้เคียงกับสมาชิกกลุ่ม Wevo ซึ่งได้รับรายงานก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูอยู่ พิจารณาแล้วเห็นว่าการรวมกลุ่มกันข้างต้น มีลักษณะเป็นการชุมนุมมั่วสุมกัน อันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเป็นกลุ่มสมาชิกของคณะบุคคลที่มั่วสุมก่อเหตุสร้างความวุ่นวายและทำร้ายตำรวจในการชุมนุมเพื่อสร้างสถานการณ์ จึงไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจค้น โดยได้มีการปฏิบัติการสนธิกำลังกันหลายหน่วยงาน

เจ้าหน้าที่อ้างว่าการตรวจค้นได้พบวัตถุซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ อาทิเสื้อเกราะกันกระสุน, วัตถุซึ่งอาจใช้เป็นอาวุธ, วัตถุซึ่งอาจใช้ก่อความวุ่นวายในการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง

ในขณะเดียวกัน ตำรวจอ้างว่าเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งพบว่านายปิยรัฐ จงเทพ และพวกรวม 4 คน ได้เดินแยกตัวมาจากกลุ่มอยู่บริเวณลานจอดรถชั้น 3 อันมีลักษณะมีพิรุธ ประกอบกับข้อมูลที่สืบทราบมาก่อนหน้านี้ น่าเชื่อว่าปิยรัฐมีพฤติกรรมร่วมกันกระทำผิดกับกลุ่มวัยรุ่นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่ชั้น 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม แจ้งสิทธิ์ และแจ้งข้อกล่าวหากับทั้งสี่คน

บันทึกจับกุมอ้างว่า เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวบุคคลข้างต้นไปที่ บก.ตชด. ภาค 1 โดยได้นำนายปิยรัฐที่เป็นแกนนำออกไปก่อนโดยรถยนต์ ส่วนผู้ถูกจับที่เหลือได้ใช้รถบรรทุกควบคุมผู้ถูกจับพาออกมา ทั้งสิ้น 3 คัน แต่ได้มีกลุ่มการ์ด Wevo ที่อยู่ด้านล่างของอาคารจอดรถ พยายามขัดขวางการขนย้ายผู้ต้องหาโดยได้ขวางปาสิ่งของใส่รถ เจ้าหน้าที่จับรถได้เร่งเครื่องหลบหนีออกมาได้ และเดินทางมาถึง บก.ตชด. ภาค 1

คันที่สอง เมื่อขับมาจนถึงแยกรัชโยธิน มีแผงเหล็กซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมนำมากีดขวางติดอยู่ใต้ท้องรถ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปต่อได้ ประกอบกับจอดรอสัญญาณไฟจราจร ทำให้กลุ่มการ์ด Wevo ติดตามมาทัน จึงร่วมกันทุบทำลายรถ และเปิดประตูให้ผู้ถูกจับหลบหนี และยังได้ร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นพลขับ จนได้รับบาดเจ็บ

คันที่สาม เมื่อมาถึงบริเวณถนนรัชดาภิเษกหน้ามหาวิทยาลัยจันทรเกษม ได้มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ขวางหน้ารถ จึงไม่สามารถไปต่อได้ และได้มีผู้ทุบตีรถและกระจก ตำรวจเกรงจะได้รับอันตราย จึงวิ่งหลบหนีไป ผู้ถูกจับกุมภายในรถบรรทุกคันดังกล่าวได้หลบหนีไป

หลังทราบพฤติการณ์ข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุมทั้ง 18 ราย ได้ปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุมดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าข้อความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

เวลา 7.40 น. ตำรวจได้จัดทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้น และลงบันทึกประจำวันไว้ โดยเยาวชนสองคน ผู้ปกครองได้รับตัวและเดินทางกลับไป โดยนัดหมายการตรวจสอบการจับกุม ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในเวลาประมาณ 14.00 น. ต่อไป

ขณะที่ปิยรัฐ และทีมการ์ดคนอื่นๆ รวม 16 คน ได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ บก.ตชด. ภาค 1 และตำรวจเตรียมนำตัวไปขอฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ในวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2564 ต่อไป

ผบช.น. แจงจับ "โตโต้" ความผิดซึ่งหน้า เตรียมอาวุธก่อความวุ่นวาย

ด้าน ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 มี.ค. 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตร. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 มีกลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายทำกิจกรรมและชุมนุมสาธารณะ ดังนี้ 1.กลุ่ม REDEM ร่วมกับกลุ่มการ์ดราษฎรบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เดินขบวนไปศาลอาญา 2.กลุ่มแนวร่วมแดงก้าวหน้า 63 บริเวณโลตัสรังสิต เดินขบวนไปกรมทหารราบที่ 11 3.กลุ่มมวลชนเดินทะลุฟ้าบริเวณตลาดเซียร์ รังสิต เดินขบวนไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 4.กลุ่มอาชีวศึกษาปกป้องสถาบัน บริเวณแยกราชประสงค์ โดยฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่ากลุ่มนายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่ม WEVO กับพวกได้นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณลานจอดรถชั้น 5 บนห้างเมเจอร์รัชโยธิน และมีการนำอาวุธหรือสิ่งของมาใช้ก่อความวุ่นวายหรือสร้างสถานการณ์ในการชุมนุม จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย พบนายปิยรัฐกับพวกพร้อมกระเป๋าเป้ ซึ่งภายในบรรจุหนังสติ๊ก 15 อัน, หัวนอต 50 ชิ้น, ลูกแก้ว 300 ลูก, ระเบิดควัน 30 ลูก, ถุงน้ำปลาร้า 30 ถุง, หมวกกันกระแทก 13 ใบ, เสื้อเกราะ 37 ตัว, ท่อเก็บแก๊สน้ำตา 1 อัน, ค้อนเหล็ก 1 อัน และโล่ 1 อัน จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวนายปิยรัฐกับพวกขึ้นรถผู้ต้องหาจำนวน 3 คัน นำส่ง ตชด.ภ.1 ขณะแล่นออกจากห้างเมเจอร์รัชโยธินได้พบกับกลุ่ม REDEM และกลุ่มการ์ดราษฎร ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้ามาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ต่อสู้และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทุบรถผู้ต้องหาและได้พังประตูรถด้านหลัง ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้บางส่วน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวและนำส่ง ตชด.ภ.1 ได้จำนวน 18 คน และดำเนินคดีในข้อหา 1.ร่วมกันจัดการชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2.ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อฯ 3.ฐานเป็นอั้งยี่และซ่องโจร

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ทั้งนี้ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 นาย โดย 6 นายยังคงพักรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลตำรวจ รถควบคุมผู้ต้องหาเสียหายจำนวน 9 คัน ประกอบด้วย รถควบคุมผู้ต้องหา 3 คัน รถกระบะ 1 คัน รถบรรทุก 2 คัน รถบัส 3 คัน ต่อมาผู้ต้องหาที่ได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนีไปบางส่วนได้เข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน จำนวน 27 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน โดย บช.น.จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำความผิดในส่วนให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำลายทรัพย์สินราชการ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า สำหรับคำถามว่า ทำไมถึงมีความจำเป็นที่ต้องจับกุม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ พร้อมพวก ในกรณีนี้เนื่องจากการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน มีพยานหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มของนายปิยรัฐมีการนัดรวมตัวบริเวณลานจอดรถชั้น 5 ห้างเมเจอร์รัชโยธิน โดยกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์ในการก่อความวุ่นวายในการชุมนุม หลังจากตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานได้เดินทางไปพิสูจน์ทราบพบนายปิยรัฐกับพวกจริง ทั้งทางที่นายปิยรัฐมีการโพสต์โซเชียลว่าจะไม่เข้าร่วมการชุมนุม ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบมีการต่อสู้ขัดขวางตามที่ปรากฏ เบื้องต้นตำรวจสามารถตรวจค้นของกลางได้หลายรายการ ทั้งนี้ตำรวจมีความจำเป็นต้องเข้าจับกุมเนื่องจากใกล้เวลาที่กลุ่มผู้ชุมนุม REDEM เตรียมเคลื่อนขบวนจากห้าแยกลาดพร้าวจะมาชุมนุมที่ศาลอาญา เพราะเกรงว่ากลุ่มนี้จะก่อเหตุรุนแรงหรือก่อความวุ่นวายในบริเวณที่ชุมนุมจึงทำการจับกุม ระหว่างที่จะนำตัวผู้ต้องหาออกจากที่เกิดเหตุเพื่อนำไปสถานที่ควบคุม ก็มีกลุ่มบุคคลเข้ามาชิงตัวผู้ต้องหา ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และมีทรัพย์สินของทางราชการ และทรัพย์สินของผู้ต้องหาหลายรายการที่สูญหายไป

เมื่อถามว่า มาตรการคุมตัวผู้ต้องหาเมื่อวานนี้ (6 มีนาคม) หละหลวมจนส่งผลให้เกิดเหตุชุลมุนหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า การชุมนุมที่หน้าบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มีความรุนแรง ครั้งนี้เราจึงตัดสินใจจับกุม และพยายามเอาออกให้เร็วที่สุด ระหว่างนั้นมีการปะทะกัน ซึ่งตำรวจถูกทำร้าย ถูกยิงด้วยลูกเหล็ก และขว้างปาสิ่งของ ซึ่งตำรวจพยายามทำละมุนละม่อมที่สุด ก่อนพาตัวผู้ต้องหาออกมา

เมื่อถามต่อว่า การจับกุม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เพราะเกรงว่าจะไปร่วมชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าเวลาจับกุมไปรับประทานอาหารอยู่ในห้าง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ตำรวจจับกุมในลานจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้า และมีข้อบ่งชี้ว่าเขาจะไปร่วมชุมนุม เพราะหากไม่ชุมนุม จะเอาหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก หัวนอต ลูกแก้ว ระเบิดควัน ท่อเก็บแก๊สน้ำตา วิทยุสื่อสาร พกไปด้วยหรือไม่ หรือพกมากินข้าว ส่วนกรณีไม่มีหมายจับสามารถทำได้ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า และอีกข้อสังเกตหลังชุมนุมมีผู้มาแสดงตนว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกช่วยเหลือออกจากรถควบคุม 27 คน แต่ตำรวจไม่สามารถแจ้งข้อหากล่าวได้ เพราะไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ใจว่าใช่บุคคลที่หลุดจากรถควบคุมจริงหรือไม่

ทั้งนี้เบื้องต้นตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 18 ราย ยังไม่มีใครได้รับการปล่อยตัว เตรียมนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา วันพรุ่งนี้ (8 มีนาคม) และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากไปถึงใครก็ต้องดำเนินคดี ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องจับกี่คน แต่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ใครทำอะไร พยานหลักฐานถึงใคร ต้องดำเนินคดีทั้งหมด ย้ำว่าความรุนแรงหรือไม่รุนแรง อยู่ที่อยู่ชุมนุม ไม่ใช่ตำรวจ อย่างเหตุการณ์เมื่อวานหากไม่มีการชิงตัวผู้ต้องหาให้พ้นการจับกุม ก็จะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

ถามว่า กรณีผู้ชุมนุมนำแผ่นป้ายข้อความไปติดตั้งบนรั้วศาลอาญา ทางศาลได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นเขตอำนาจศาล หลังจากนี้ตำรวจต้องประสานกับศาลอย่างใกล้ชิดว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมด

สำหรับการรับมือชุมนุมในวันนี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผบช.น. กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้ขัดขวางการชุมนุม เพียงแต่ว่าเวลาประกาศห้ามชุมนุม เราก็แจ้งให้ทราบ หากเขาเลิกก็เลิก แต่ก็ต้องเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีภายหลัง เราพยายามรักษาความสงบ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net