Skip to main content
sharethis

โฆษกศาลเผย ศาลเพชรบุรีปล่อยชั่วคราว 22 ชาวบ้านบางกลอยไม่ต้องมีหลักประกัน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่อุทยาน ตั้งผู้ใหญ่บ้านกำกับดูเเล ด้านพีมูฟ-ภาคี #saveบางกลอย ปักหลักทำเนียบ อ่านแถลงการณ์ความไร้น้ำยาในการแก้ไขปัญหาโดยรัฐบาล พรุ่งนี้เดินขบวนมุ่งหน้ากระทรวงเกษตรฯ

7 มี.ค. 2564 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าตามที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาซึ่งกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยศาลยุติธรรมมีนโยบายให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีวันหยุด ในวันนี้ (7 มี.ค.) ศาลจังหวัดเพชรบุรี จึงดำเนินการสอบถามความประสงค์ขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหาทั้ง 22 ราย จากนั้นศาลจึงจัดทำคำร้องขอปล่อยชั่วคราวส่งไปให้ผู้ต้องหาทั้งหมดลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วส่งผ่านสถานที่คุมขังกลับมายังศาลจังหวัดเพชรบุรี

โดยศาลจังหวัดเพชรบุรีพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน โดยมีเงื่อนไขว่า “ห้ามผู้ต้องหากลับเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกจับ และพื้นที่อุทยานที่ไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมในระหว่างการพิจารณาคดี และแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีเป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 22 คน ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด

โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวว่า การใช้วิธีการตั้งผู้กำกับดูแลดังกล่าวแทนการเรียกหลักประกันเป็นมาตรการใหม่ที่ศาลยุติธรรมนำมาใช้เพื่อให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยเข้าถึงสิทธิที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกันใดๆ ขณะเดียวกันเป็นการลดความเสี่ยงที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยอาจหลบหนีหรือไปก่อความเสียหายในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการเรียกให้วางหลักประกันเช่นที่ผ่านมา

พีมูฟ-ภาคี #saveบางกลอย ปักหลักทำเนียบ พรุ่งนี้เดินขบวนมุ่งหน้ากระทรวงเกษตรฯ

 

แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และ ภาคี #SAVEบางกลอย เรื่อง กรณีบางกลอย...

โพสต์โดย ภาคีSaveบางกลอย เมื่อ วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม  2021

 

ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพระรามที่ 5 ข้างทำเนียบรัฐบาล สืบเนื่องกรณี กลุ่มพีมูฟ หรือ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และ ภาคีเซฟบางกลอย ได้อ่านแถลงการณ์ เรื่อง ‘กรณีบางกลอย กับความไร้น้ำยาในการแก้ไขปัญหาโดยรัฐบาล’ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. มีเนื้อหาวิพากษ์การทำงานของรัฐบาลในประเด็นการแก้ไขปัญหาของชาวบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยประกาศปักหลักในบริเวณดังกล่าว

แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และ ภาคี #SAVEบางกลอย
เรื่อง กรณีบางกลอย กับความไร้น้ำยาในการแก้ไขปัญหาโดยรัฐบาล

สืบเนื่องจากกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐ นำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่กระทำต่อชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังชาวบ้านบางกลอยล่าง 36 ครัวเรือน ประมาณ 70 คน ได้อพยพกลับแผ่นดินเกิด ณ บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นปรากฏภาพการพยายามข่มขู่ คุกคามชาวบ้านอย่างหนัก ทั้งความพยายามที่จะผลักดันชาวบ้านกลับลงมาอีกครั้งผ่าน “ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร” และล่าสุดคือการปฏิบัติการอันป่าเถื่อนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่มีการปฏิบัติการสนธิกำลังกันเข้าจับกุมชาวบ้านตามหมายจับ 30 ราย ในข้อหา “บุกรุก ก่นสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครองครอง กระทำการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมแก่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (1) ซึ่งจับกุมได้ 22 ราย ทั้งหมดถูกฝากขังที่เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง จังหวัดเพชรบุรีทันที นอกจากนั้นยังนำชาวบ้านกลับลงมาจากบางกลอยบน-ใจแผ่นดินทั้งหมด รวม 87 ราย

​การปฏิบัติทั้งหมด เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่มีบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ลงนามโดยฝ่ายการเมืองและข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้แทนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ภาคี #SAVEบางกลอย และผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ และการตระบัดสัตย์ของรัฐบาลที่ไม่อาจทำให้ประชาชนสามารถเชื่อมั่นในนโยบายในการแก้ไขปัญหาใดได้อีก

​นอกจากนั้น นับตั้งแต่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ได้เจรจาแก้ปัญหากับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2562 ซึ่งเป็นเวลากว่า 19 เดือนแห่งความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภายใต้คณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้ง ซึ่งมีถึง 1 คณะกรรมการ 9 อนุกรรมการ 35 คณะทำงาน มีการประชุมทั้งหมดมากกว่า 50 ครั้ง อย่างไรก็ตามกลับพบว่าสถานการณ์ในหลายพื้นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นยิ่งกว่ารัฐบาลไหน หลายชุมชนต้องเผชิญกับการถูกคุกคาม จับกุม ดำเนินคดี ไม่ต่ำกว่า 1,000 ครอบครัว นี่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานบ้านเมืองให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในฐานะ “มนุษย์”

​อีกทั้งประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมติดตามความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น กลับพบว่า มีความพยายามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภาในการคว่ำกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยการโยนให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนนับแสนรายชื่อ ซึ่ง ขปส. เองก็ได้รวบรวมรายชื่อจำนวนมากเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับถูกตีตกโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล

​จนถึงวันนี้ หมดเวลาในการประวิงเวลาและหลอกลวงประชาชน พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และภาคี #SAVEบางกลอย ขอประกาศว่า พวกเราจะไม่ทนต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชนอีกต่อไป และจะปักหลักชุมนุม ณ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร จนกว่าจะมีหลักประกันว่าคนจนจะต้องไม่ถูกรังแก รัฐบาลจะแก้ทุกปัญหา ออกจากระบบประชาธิปไตยจอมปลอม
สามัคคีประชาชน สร้างสังคมที่เป็นธรรม ประชาชนคือผู้กำหนดอนาคตตนเอง

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรรม (P-Move) และภาคี #SAVEบางกลอย
7 มี.ค. 2564 ประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 16.45 น. ชาวบ้านนั่งล้อมวงหารือกัน โดยมีการจัดเตรียมสถานที่พัก ตั้งเพิงบนทางเท้าริมถนนพระรามที่ 5 มีการนำแผ่นป้ายไวนิล และป้ายผ้ามีข้อความต่างๆ อาทิ #saveบางกลอย คน เท่ากับ คน, ซื้อเกลือ น้ำปลา ฮาก็จ่ายภาษี ใช้เงินฮา ก็สำเหนียกเงินภาษีที่ใช้ เอาเงินฮามาใส่เครื่องแบบ แล้วเอากฎหมายป่าเถื่อนมายึดที่ดินฮา ฮาจะไม่ทน, นายกฯ ประยุทธ์ก็ต้องไล่ ปัญหาที่ดินทำกินก็ต้องแก้ รัฐธรรมนูญต้องร่างใหม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพแผนที่จากกรมแผนที่ทหารซึ่งปรากฏการมีอยู่ของหมู่บ้านใจแผ่นดินมาจัดแสดง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกินใจภาคต่าง ๆ อีกด้วย

นายณัฐวุฒิ อุปปะ ตัวแทนภาคีsaveบางกลอย กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. ในเวลาประมาณ 08.00 น. จะมีการเดินขบวนไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมีกิจกรรมเสวนาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมปราศรัยภายใต้กิจกรรมเดินทะลุฟ้า ของกลุ่มราษฎร และเครือข่าย People Go Network มีการนำป้ายผ้า #saveบางกลอย ผูกบนรั้วเหล็กซึ่งล้อมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยภาคีsaveบางกลอยบางส่วนได้เดินทางสมทบกิจกรรมเดินทะลุฟ้าด้วย

ที่มาเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์ [1] [2]
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net