จนท. เข้าพบเทรนเนอร์ฟิตเนสที่ร้อยเอ็ด หลังแชร์เพจเยาวชนปลดแอกถูกโยงพาดพิงสถาบัน

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผย จนท. เข้าพบเทรนเนอร์ฟิตเนสที่ร้อยเอ็ด หลังแชร์เพจเยาวชนปลดแอกถูกโยงพาดพิงสถาบัน - สมาชิกวีโว่ 29 คน รับทราบข้อกล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร คดีถูกจับกุม #ม็อบ6มีนา เยาวชนได้ประกันตัว

 

17 มีนาคม 2564  'บัง' ชายวัย 24 ปี ชาวอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ...

โพสต์โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อ วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม  2021

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา‘บัง’ ชายอายุ 24 ปี ชาวอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า  เขาได้รับทราบจากรุ่นพี่คนหนึ่งว่า มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสองนายไม่ทราบสังกัด ไปที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในตัวอำเภอที่บังเคยทำงานเป็นเทรนเนอร์เพื่อตามหาตัวเขา พร้อมกับนำภาพที่แคปจากเฟซบุ๊กให้คนที่ฟิตเนสดู แจ้งว่าบังแชร์โพสต์เพจเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ปรากฎเป็นภาพคล้ายการเผาวัตถุอะไรสักอย่าง เจ้าหน้าที่ยังระบุอีกว่า บังแชร์ภาพที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าผิดกฎหมายอะไร และไม่มีหมายเรียก หรือหมายค้น 

หลังจากไม่พบตัวบังที่ฟิตเนสดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปที่ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านตามที่ระบุในบัตรประชาชนของบัง ผู้ใหญ่บ้านจึงโทรแจ้งตาของบังว่า วันที่ 18 มี.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาหาบังที่หมู่บ้านในช่วง 17.00 น. แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเข้าไปหาเพราะมีหมายจับ หรือหมายเรียกหรือไม่ ตาซึ่งไปทำธุระที่ต่างจังหวัด จึงโทรบอกพ่อและแม่ของบัง ก่อนที่แม่จะเล่าเรื่องดังกล่าวให้บังฟัง

จากนั้นวันที่ 18 มี.ค. 2564 เวลา 17.00 น. แม่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านย้ำว่า ให้บังไปที่บ้านของเขา เนื่องจากเจ้าหน้าที่รออยู่ที่นั่น แต่พ่อของบังบอกว่า ให้เจ้าหน้าที่มาหาที่บ้านเอง กระทั่งเวลา 17.20 น. เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 2 นาย พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ก็มาถึงที่บ้านของบัง  

เจ้าหน้าที่อ้างว่ามาจากสันติบาลส่วนกลาง มีหน้าที่ดูแลพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดในการติดตามบุคคลที่โพสต์โซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการเมือง โดยถือเอกสารของหน่วยงานที่มีชื่อย่อว่า หน่วย ส.จว.ร้อยเอ็ด บก.ส.1 มาแสดงด้วย เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารรายงานผลการตรวจสอบพฤติการณ์บุคคล/ปรับทัศนคติ โดยระบุชื่อ-ที่อยู่ของบัง และภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊ก พร้อมทั้งระบุว่า จากการสืบสวนเชื่อได้ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ ‘บัง’ และปรากฏข้อมูลพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 เวลา 17.07 น. ‘บัง’ ได้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวแชร์ข้อมูลจากเพจอื่น (ระบุ URL ของโพสต์ที่แชร์ไป) ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่พาดพิงต่อสถาบันหลักของชาติในลักษณะที่ไม่เหมาะสมหรือมิบังควรและมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

หลังให้ดูเอกสาร เจ้าหน้าที่พูดตักเตือนเรื่องการแสดงออกทางการเมืองในโลกออนไลน์ ว่าจะโพสต์จะแชร์จะด่ารัฐบาลได้หมด แต่อย่าพาดพิงถึงสถาบันฯ เพราะตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย “รอบนี้เป็นพี่นะ แต่ถ้ามีอีกรอบ จะไม่ใช่พี่นะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดทำนองข่มขู่กลายๆ ในตอนหนึ่ง 

จากการนั่งฟังเจ้าหน้าที่ที่มาพบพูดฝ่ายเดียว บังจึงทราบว่าทางตำรวจมีทีมตรวจจับไอพีแอดเดรส และตามติดบัญชีเฟซบุ๊กที่แชร์เรื่องสถาบันกษัตริย์ ว่ามีการแชร์กี่พันคน ใครแชร์บ้าง และช่วงนี้เจ้าหน้าที่มีการติดตามผู้แชร์เฟซบุ๊กลักษณะดังกล่าว และจะมีการเข้าไปตักเตือนผู้กระทำเช่นเดียวกับที่มาพบบัง หากโพสต์นั้นมีคนแชร์ไป 1,000 คน เจ้าหน้าที่ก็จะไปติดตามทั้ง 1,000 คน สำหรับในพื้นที่ร้อยเอ็ดมีกรณีคล้ายกันอย่างน้อย 3-4 ราย ซึ่งจะมีการไปตักเตือนถึงบ้านกันต่อไป ส่วนที่มาพบบังครั้งนี้ ตำรวจให้ข้อมูลว่าไม่มีใครแจ้ง เพราะชื่อของบังอยู่ในบัญชีรายชื่อที่ตำรวจต้องจับตาอยู่แล้ว

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาพูดคุยทั้งสิ้น 20 นาที ก่อนกลับเจ้าหน้าที่ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้จะยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ หากมีการแชร์ข้อความลักษณะเดิมก็จะมีเจ้าหน้าที่มาแบบนี้อีก และอาจไม่ได้มาแค่พูดคุยตักเตือน

“สำหรับบรรยากาศพูดคุย ช่วงแรกเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าไม่ค่อยกล้าเข้ามาบ้านเท่าไหร่ เพราะเขายอมรับว่ามาไม่ถูกวิธี แต่เมื่อมาแล้ว ผมก็ต้อนรับเท่าที่จะทำได้ และพร้อมที่จะพูดคุยและชี้แจงว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด”  บังเล่าในอีกตอนหนึ่ง

เมื่อถามถึงข้อกังวลชายหนุ่มเล่าว่า “เกรงจะมีผลกระทบต่อคนรอบตัวมากกว่า เพราะส่วนตัวไม่ได้กังวล กังวลว่าแฟน เพื่อน พ่อแม่พี่น้องจะเป็นห่วงมากกว่าที่พูดเรื่องการเมือง แต่วันนี้รู้ขอบเขตการแสดงออกว่าทำได้เท่าไหน ก็ยังคงติดตามข่าวสารการเมืองอยู่ตลอด” 

ต่อกรณีที่ประสบพบเจอ บังกล่าวทิ้งท้ายว่า “ถ้ามีคนรอบตัวคุณ ใกล้ตัวคุณ โดนแบบผมหรือโดนคดีทางการเมืองอะไรก็ตาม อย่าโกรธเขาเหล่านั้นเลย เพราะเขาสู้เพื่ออนาคตที่ควรจะดีกว่านี้ แต่จงโกรธความอยุติธรรมที่คอยกดหัวพวกเราอยู่”

สำหรับ ‘บัง’ จบการศึกษา สาขานิเทศศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อาศัยอยู่ที่ตัวอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เคยทำงานเป็นเทรนเนอร์ ประจำฟิตเนสแห่งหนึ่ง ปัจจุบันประกอบอาชีพอิสระ โดยเวลาว่างชอบโพสต์และแชร์ข่าวสารการเมือง  เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มอุบลปลดแอกเมื่อปี 2563 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ระบุในประวัติไว้ว่า ‘บัง’ ไม่มีความเชื่อมโยงหรือออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกับ ‘กลุ่มปัญหา’ ต่างๆ ในพื้นที่แต่อย่างใด 

สมาชิกวีโว่ 29 คน รับทราบข้อกล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร คดีถูกจับกุม #ม็อบ6มีนา เยาวชนได้ประกันตัว

 

สมาชิกวีโว่ 29 คน รับทราบข้อกล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร คดีถูกจับกุม #ม็อบ6มีนา เยาวชนได้ประกันตัว . วันที่ 18 มี.ค. 64 เวลา...

โพสต์โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อ วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม  2021

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ วันที่ 18 มี.ค. 2564 เวลา 12.00 น. ที่สน.พหลโยธิน ประชาชนและสมาชิกกลุ่มการ์ด We Volunteer (Wevo) จำนวน 29 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี 1 คน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก จากกรณีเหตุการณ์จับกุมทีมการ์ด Wevo ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 โดยทั้งหมดยังไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุม #ม็อบ6มีนา แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วย พร้อมอาวุธ บุกเข้าควบคุม ก่อนรถคุมขังจะถูกสกัด ทำให้ผู้ถูกควบคุมตัวได้ร่วมกันเดินเท้าไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.พหลโยธิน ในวันดังกล่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หลบหนี

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ระบุว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกกลุ่มการ์ดที่ยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในวันดังกล่าว ให้มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 30 คน โดยมี 29 คนเข้ามารายงานตัวตามนัด หลังสอบปากคำทั้งหมดเสร็จสิ้น ตำรวจได้ปล่อยตัวไป 

ในคดีนี้มี ร.ต.อ.กฤตพร แสงสุระ เป็นผู้กล่าวหา และมี พ.ต.ท.พิภัสสร์ พูนลัน พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันทำการแจ้งข้อกล่าวหาต่อทั้งหมด ได้ระบุพฤติการณ์ของกลุ่มวีโว่โดยรวมว่า ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของกลุ่ม วีโว่ โดยมี “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ เป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด กลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการมั่วสุมกัน รวมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีการดำเนินการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย  โดยมีบทบาทในการเป็นการ์ดหรือดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม 

ในส่วนพฤติการณ์สมาชิก วีโว่ จากกรณีการชุมนุมวันที่ 6 มี.ค. 2564 ระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนที่บริเวณแยกรัชโยธิน และที่บริเวณลานจอดรถ อาคารจอดรถ 2 ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน จนถึงเวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มคนจำนวนประมาณ 50 คนจากกลุ่มวีโว่ มีการนัดหมายรวมกลุ่มกันบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งมีหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ระเบิดควัน และวัตถุอื่นๆที่ใช้เป็นอาวุธได้ เพื่อเตรียมก่อเหตุสร้างความวุ่นวายและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสร้างสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ซุ่มดูอยู่ที่บริเวณเกิดเหตุ และได้เข้าควบคุมตัว

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อกล่าวหา ดังนี้ 

1. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.กฉุกเฉินฯ 

2. พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) ร่วมกันกระทำหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ 

4. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 กระทำผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร

ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและนัดยื่นคำให้การเพิ่มเติมภายใน 30 วัน ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนระชบุจะรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลอีก หากพบความผิดอื่น จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยวันนี้ได้ให้ปล่อยตัวทั้งหมดไป โดยนัดหมายรายงานตัวต่อไปวันที่ 29 มี.ค. 2564

เยาวชนแจ้งต่อศาลว่าถูกทำร้ายระหว่างการจับกุม

ในผู้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด มีเยาวชน 1 คน อายุ 17 ปี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก โดยเขาเคยถูกดำเนินคดีทางการเมืองมาก่อนแล้ว 1 คดี ได้แก่ คดีร่วมกันจำหน่ายกุ้งช่วยพ่อค้าแม่ค้ากุ้ง โดยทีมการ์ดวีโว่ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563

ร.ต.ท.หญิงภัทรกันต์ จันทร์ทรง พนักงานสอบสวน ได้นำตัวเยาวชนรายดังกล่าวไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ขอให้มีคำสั่งควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน ผู้ปกครองของผู้ต้องหาและทนายจึงทำเรื่องขอประกันต่อศาล ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันโดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3,000 บาท พร้อมระบุในคำสั่งว่าผู้ต้องหาได้มามอบตัวตามหมายเรียกและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ในภายหลัง ผู้ต้องหาได้แจ้งต่อศาลด้วยว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายระหว่างถูกจับกุม ศาลจึงบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฯ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2654 กลุ่ม วีโว่ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเหตุการณ์ตำรวจจับกุมสมาชิกวีโว่ ที่ลานจอดรถเมเจอร์รัชโยธิน พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรปิด ยืนยันไม่มียุทธภัณฑ์ ไม่ได้หลบหนีเนื่องจากเดินเข้ามอบตัวเอง และ สมาชิกถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีการโชว์ภาพบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างการจับกุมของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการถูกมัดมือด้วยเคเบิลไทร์แล้วนำตัวขึ้นรถห้องขัง ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บได้ขอบันทึกลงในคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ด้วย

สำหรับเหตุการณ์ชุมนุม #ม็อบ6มีนา วันที่ 6 มี.ค. 2564 เกิดเหตุการณ์จับกุมทีมการ์ด We Volunteer และประชาชนบริเวณห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธินช่วงก่อนชุมนุม นอกจากนี้ เวลา 18.45 น. ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเมื่อรถควบคุมตัวผู้ต้องขังคันหนึ่ง มีประชาชนถูกคุมตัวอยู่บนรถ 14 ราย วิ่งมาบริเวณใกล้ศาลอาญา กลุ่มประชาชนได้ติดตามและล้อมรถไว้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ทำให้เจ้าหน้าที่ขับรถได้หนีลงจากรถไป และทิ้งรถควบคุมตัวไว้อยู่บนถนน 

ผู้ถูกคุมตัวไม่หลบหนีออกมาจากรถ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีหลบหนีการจับกุม จึงร่วมกันตัดสินใจเดินเท้าไปที่ สน.พหลโยธิน ท้องที่เกิดเหตุ และยังมีผู้ถูกควบคุมตัวในรถอีกคันหนึ่ง เดินทางมาสมทบ รวมแล้วทั้งหมด 30 ราย เพื่อยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี ทั้งสอบถามเหตุผลการจับกุม และอำนาจที่เจ้าหน้าที่ใช้จับกุม พร้อมลงบันทึกประจำวันเพื่อยืนยันว่า กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ลานจอดรถชั้น 5 ของห้างเมเจอร์รัชโยธิน แต่กลับถูกตำรวจเข้าควบคุมตัว โดยไม่มีการแสดงหมายจับ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายใด ไม่แจ้งว่าจะพาตัวไปที่ใด ไม่มีแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ใช้กำลังควบคุมตัว ใช้อาวุธข่มขู่ มีการยึดทรัพย์สินของแต่ละราย จึงขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามทรัพย์สิน และสอบสวนกล้องวงจรปิดในห้างทั้งหมด เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับทั้งหมดด้วย 

ขณะเดียวกันมีกลุ่มการ์ดและประชาชน รวม 18 ราย ถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ โดยในจำนวนนี้มีเยาวชน 2 ราย ต่อมาท้้งหมดได้รับการประกันตัว ยกเว้น “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยอ้างมีพฤติการณ์ที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเกรงจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก ทำให้เขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2564

รวมแล้วขณะนี้ คดีทีมการ์ดวีโว่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอั้งยี่-ซ่องโจรนี้ มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 47 ราย และยังมีอีก 1 ราย ที่ตำรวจระบุว่าออกหมายเรียก แต่ยังไม่สะดวกเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท