ประชาไทคุยกับผู้ใช้ทวิตเตอร์ @badmommhii เปิดใจหลังถูกกลุ่มการ์ดปกป้องสถาบันรุมทำร้าย เตะตัดขาล้มทั้งยืน เหตุปาไข่ช่วยเหลือชายถูกกลุ่มการ์ดฯ รุมทำร้ายชายบนสกายวอล์คแยกปทุมวัน ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวพุ่งเป้ามารุมทำร้ายตนแทน เจ้าตัวย้ำ ‘เห็นต่างไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำร้ายคนอื่น’

22 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี @iizezaa โพสต์คลิปวิดีโอหญิงคนหนึ่งถูกกลุ่มชายสวมผ้าพันคอสีเหลืองรุมทำร้ายร่างกายบริเวณสกายวอล์คแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @badmommhii แสดงตนว่าเป็นบุคคลที่ถูกทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิป ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยัง ลี่ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @badmommhii และบุคคลที่ปรากฏในคลิป เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ลี่ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 21 มี.ค. 2564 โดย ลี่ เพิ่งซื้อของจากซูเปอร์มาร์เกตจากห้างฯ บริเวณใกล้เคียงเพื่อนำกลับไปประกอบอาหาร และกำลังเดินทางกลับไปยังที่พัก ซึ่งต้องเดินผ่านบริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ระหว่างทาง ลี่ ได้ยินเสียงดังโวยวายจึงหันไปดู และพบว่ามีชายคนหนึ่งถูกกลุ่มการ์ดอาชีวะปกป้องสถาบันรุมทำร้าย ตนจึงวิ่งเข้าไปช่วย

“ตอนแรกเราคิดว่าจะถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน แต่เห็นว่าไม่มีใครช่วยเขาเลย นอกจากตำรวจแค่ไม่กี่คน ซึ่งก็ช่วยได้ไม่มาก เราก็เลยเอาไข่ที่ซื้อมาโยนใส่คนที่รุมทำร้ายชายคนนั้น แล้วก็ตะโกนบอกให้คนเหล่านั้นหยุดรุมทำร้ายชายคนดังกล่าว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจช่วยเขาออกมาได้พอดี” ลี่ กล่าว

ลี่ เล่าต่อไปว่าแม้จะชายคนดังกล่าวจะหลุดออกจากวงล้อมของกลุ่มการ์ดอาชีวะปกป้องสถาบันได้แล้ว แต่กลุ่มการ์ดก็ยังตามมาทำร้ายชายคนดังกล่าวด้วยการชกและทุบตี ซ้ำยังมีตำรวจที่พยายามควบคุมสถานการณ์ถูกต่อยอีกด้วย เมื่อเห็นดังนั้น ตนจึงปาไข่ไปอีกลูก ซึ่งตรงกับจังหวะที่ตำรวจกันชายที่ถูกทำร้ายออกไปได้พอดี ทำให้กลุ่มการ์ดหันมาเล่นงานตนแทน

“คนที่ใส่แว่นถามเราประมาณว่า ‘น้องปาไข่ใส่พี่เหรอ’ เราก็ตอบไปว่าใช่ จากนั้นเขาก็เตะเราล้มลง (ตามที่ปรากฏในคลิป) แต่ไม่ทันได้โดนอะไรมากตำรวจก็มา เราเลยลุกขึ้นได้ แล้วตำรวจก็พาเราเดินลงไปด้านล่าง” ลี่ เล่า

คลิปเหตุการณ์จากเฟซบุ๊กแฟนเพจเครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดลำพูน

ลี่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายร่างกายกลุ่มชายที่สวมผ้าพันคอสีเหลือง แต่ที่ตนทำไปเพื่อต้องการให้กลุ่มชายเหล่านั้นหยุดรุมทำร้ายชายอีกคน

“เราไม่ได้อยากจะทำร้ายเขา เราแค่อยากให้เขาหยุดเลยปาไข่ใส่ แต่คนพวกนั้นก็เดินตามมาอีก แต่สุดท้ายก็เดินกลับไป เพราะมีตำรวจเข้ามา และตำรวจก็พาเราและผู้ชายคนนั้นไปส่งข้างล่าง” ลี่ กล่าว โดย ลี่ เล่าต่อว่าตนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่ไข่ที่ซื้อมาแตกไป 1 แพ็ค

“เราไม่เป็นไรมาก แต่ไข่แตกแพ็คนึงตอนล้ม ข้าวของอย่างอื่นโอเคดีหมด ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย” ลี่ กล่าว

ลี่ บอกว่าหลังเกิดเหตุได้เดินทางไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความเอาผิดกลุ่มคนที่รุมทำร้ายตน แต่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความ โดยให้เหตุผลว่าตนมีหลักฐานไม่เพียงพอ จึงทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ตอนนี้ ตนได้ติดต่อไปยังผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี @iizezaa ซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่ตนถูกทำร้าย และได้รับหลักฐานทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงตั้งใจจะไปแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนดังกล่าวอีกครั้ง

ลี่ เปิดเผยความรู้สึกหลังเหตุการณ์ดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนไม่เสียดายและไม่รู้สึกผิดที่ปาไข่ใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะปกป้องสถาบัน เพื่อระงับเหตุการความรุนแรง และยืนยันจะเอาผิดกับกลุ่มคนที่ทำร้ายร่างกายตน

“เราไม่เสียดายและก็ไม่รู้สึกผิดนะ ตอนไปแจ้งความตำรวจบอกเราว่ามันอาจจะเป็นเหตุทะเลาะวิวาทสองฝ่ายได้ เพราะเราเองก็โต้ตอบ เราจึงบอกไปว่าจะดำเนินคดีกับเราก็ได้ แต่ต้องดำเนินคดีกลุ่มคนที่ทำร้ายชายคนนั้นด้วย และต้องมีมาตรการเด็ดขาดกับฝ่ายปกป้องสถาบันฯ ที่ทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายอยู่หลายครั้ง ทำไมไม่มีการจัดชุดตำรวจควบคุมฝูงชนมาเลย ทั้งที่ตำรวจเองก็ถูกทำร้ายด้วย โดยที่คนพวกนั้นเป็นคนเริ่มก่อน” ลี่ กล่าว

ลี่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าการมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างไม่ใช่เหตุผลที่นำมาอ้างเพื่อใช้กำลังทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้

“มันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำร้ายคนอื่น แบบอยู่ๆ ก็ไปทำร้ายคนอื่นอย่างที่เราเห็น ขอโทษนะ แต่มันดูโง่ โง่มาก เพราะคนที่เริ่มใช้กำลังก่อนแสดงว่าเขาไม่สามารถใช้เหตุผลด้วยได้แล้ว มันไม่ใช่การใช้กำลังเพื่อโต้ตอบหรือป้องกันตัวจากความรุนแรง แต่มันคือการทำร้ายร่างกายคนอื่น มันน่าจะบ่งบอกได้ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของคนพวกนี้ไม่มีความชอบธรรมอะไรเลย มีแต่จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรุนแรง การข่มขู่ และความหวาดกลัวเท่านั้น” ลี่ กล่าว พร้อมบอกว่าตนไม่กลัวที่จะแสดงออกทางการเมืองตามสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย แม้จะโดนข่มขู่และคุกคามจากกลุ่มคนที่เห็นต่าง

“เราเองก็เคยโดนควบคุมตัวเพราะแสดงออกทางการเมืองเหมือนกัน เราเคยถูกตำรวจแจ้งว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ จากเหตุการณ์ชุมนุมวันที่ 10 ก.พ. เรายอมเดินทางไปรับผิด จ่ายค่าปรับตามกระบวนการ แต่เราไม่อยากจะเงียบ และไม่อยากให้คนอื่นเลือกจะเงียบ เพราะมันเท่ากับว่าเราเลือกที่จะเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เราเลยเลือกที่จะยอมทำผิดกฎเพื่อผลักดันให้กฎที่ไม่เป็นธรรมถูกยกเลิก” ลี่ กล่าว

ลี่ กล่าวทิ้งท้ายว่าตนต้องการให้ทุกคนออกมาแสดงออกและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และควรจะโกรธกับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น รวมถึงแสดงให้คนที่สร้างความไม่เป็นธรรมได้รับรู้ถึงความโกรธของเรา

“ใครก็ตามที่อยากแสดงออก ขอให้ออกมาเถอะค่ะ จะทำอย่างไรก็ได้ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์หรือเป็นรูปธรรม ป้องกันตัวหากจำเป็น โต้ตอบหากถูกคุกคามทำร้าย ทุกคนควรจะโกรธกับความไม่เป็นธรรม และแสดงให้คนที่สร้างความไม่เป็นธรรมได้รับผลจากความโกรธของเรา แต่ที่สำคัญคือต้องไม่ใช่การเริ่มทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้เจ็บหรือตายแบบที่ม็อบอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ทำในครั้งนี้ เพราะการทำร้ายผู้เห็นต่างคือสิ่งไม่เป็นธรรมที่เราต่อสู้อยู่”

เมื่อวานนี้ (21 มี.ค. 2564) กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ พร้อมภาคีเครือข่าย เช่น นักรบองค์ดำสองคาบสมุทร กลุ่มนักรบศรีวิชัยสองคาบสมุทร กลุ่มนักรบอิสระ กลุ่มกุหลาบพิทักษ์ราชัน กลุ่ม ศอปส. กลุ่ม ศปปส. จัดกิจกรรมชุมนุมบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) โดยมีรายงานเหตุประชาชนถูกกลุ่มการ์ดอาชีวะปกป้องสถาบันรุมทำร้ายอย่างน้อย 4 คน โดยคนแรก คือ ชายที่ถูกทำร้ายร่างกายและถูกสาดน้ำใส่หน้า เนื่องจากไปยืนชู 3 นิ้วเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่จัดกิจกรรมของกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ คนที่สอง คือ เอ (นามสมมติ) เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ถูกกระโดดถีบท้องบนสกายวอล์คหน้าห้างฯ MBK คนที่สาม คือ ลี่ และคนที่ 4 คือชายอีกคนที่ ลี่ เข้าไปช่วยเหลือ

ก่อนหน้านี้ วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมากลุ่มการ์ดปกป้องสถาบัน ได้เชิญ บูรณ์ อารยพล จากกลุ่มขอคืนไม่ขอทาน ออกจากพื้นที่กิจกรรมบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยอ้างว่าเกรงจะเกิดความวุ่นวาย ต่อมาในวันที่ 14 มี.ค. มีรายงานว่าการ์ดของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ได้เข้าควบคุมตัวชาย 3 คนที่ยืนชู 3 นิ้วบนสกายวอล์คปทุมวัน และเกิดเหตุกระทบกระทั่งจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งหนึ่งในชาย 3 คนที่ถูกทำร้ายร่างกายได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดที่ สน.ปทุมวัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว