ผู้ชุมนุม REDEM เผยนาทีถูกชายฉกรรจ์ตามยิง เพื่อนอีกคนยังอยู่ไอซียูอาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต

กล้า ดาพัด ผู้ชุมนุม REDEM เผยนาทีถูกชายฉกรรจ์ตามยิงหลังช่วยผู้ชุมนุม #ม็อบ20มีนา ที่ถูกดักทำร้ายในถนนตะนาว ส่วนเพื่อนอีกคนที่โดนยิงด้วยกันยังอยู่ไอซียูเอาหัวกระสุนออกไม่ได้เพราะกระสุนอยู่ใกล้สันหลังและอาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต

23 มี.ค.2564 ประชาไทได้ติดตามหลังจากมีข่าวว่าหลังการชุมนุมของ REDEM ที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2564 ถูกตำรวจเข้าสลายการชุมนุมในช่วงหัวค่ำ และยังมีการรายงานว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ดักทำร้ายผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมในบริเวณถนนตะนาวใกล้วัดมหรรณพารามราชวรวิหารจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระสุนจริงยิง 2 คน

เหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายคนในตะนาว

จากการติดตามประชาไทจึงได้สัมภาษณ์ กล้า ดาพัด อายุ 21 ปี 1 ใน 2 ผู้บาดเจ็บและถือว่าเป็นประจักษ์พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และได้สัมภาษณ์ สมควร ใกล้กลาง แม่ของประสงค์ หงส์ราช หรือบาส อายุ 22 ปีที่ตอนนี้ยังอยู่ห้องไอซียูเนื่องจากถูกยิงทะลุปอดจนกระสุนทะลุไปอยู่ใกล้กับกระดูกสันหลังทำให้ขยับขาไม่ได้และยังไม่สามารถผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกได้ในขณะนี้

กล้า เล่าว่าก่อนเกิดเหตุถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ เขานัดเจอกับเพื่อนๆ ที่บริเวณร้านแม็คโดนัลด์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วพวกเขาจึงขับรถเข้าไปถึงบริเวณแยกคอกวัวได้เห็นเหตุการณ์ที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเคลื่อนกำลังมาทางแยกคอกวัว เขาและเพื่อนๆ จึงเข้าไปหลบในถนนตะนาวบริเวณแยกคอกวัว

กล้าเล่าต่อว่าหลังจากนั้นก็มีคนบอกว่ามีคคนถูกดักทำร้าย คนราว 10 กว่าคนที่คอยดักตีคนที่ไปม็อบอยู่ เขากับเพื่อนรวม 5 คน ซึ่งรวมถึงบาสด้วยก็เข้าไปช่วยคนที่ถูกตีอยู่จนช่วยออกมาได้ แต่ฝ่ายที่รุมทำร้ายคนอยู่เหมือนจะสู้ไม่ได้ก็มีคนที่ชักปืนออกมาจะยิงพวกเขา กล้าจึงเอาหินขว้างใส่คนที่ถือปืนและบอกเพื่อนว่า “วิ่ง เขามีของ” กล้าและเพื่อนก็เลยหนีไปขึ้นจักรยานยนต์แล้วขี่หนีออกไปทางเสาชิงช้า เพื่อนของเขาที่ขับตามหลังมาบอกว่ามีการยิงตามสองถึงสามนัดแต่ยังไม่โดนใคร จากนั้นกล้าเล่าวินาทีที่ตัวเองถูกยิงว่า

จากไลฟ์ของ The Reporter ในคืนวันที่ 20 มี.ค.2564 ช่วงที่มีการรายงานเหตุการณ์ขณะมีเสียงปืนในถนนตะนาวและพยานในเหตุการณ์ช่วงที่มีการทำร้ายร่างกายผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งที่บริเวณวัดมหรรณพารามราชวรวิหาร

“ทีนี้พอคิดว่าไม่มีอะไรแล้วก็ขี่ตีคู่กัน ซักแป๊ปนึงก็มีมอไซค์คันนึงซ้อนกันสองคนขี่ตามหลังมา มาปาดหน้าเลยระยะประมาณ 2 เมตร เขาก็เอี้ยวตัวกลับมาเรียกว่า “เฮ้ย” แล้วเขาก็ยิงใส่บาสสองนัดพอรถบาสล้มปุ๊ปเขาก็หันปืนมาใส่ผม แล้วเขาก็ยิงใส่ผมเลยครับ”

กล้าบอกอีกว่าผู้ก่อเหตุมีกัน 2 คน โดยคนเป็นคนที่ขับจักรยานยนต์หนึ่งคนและคนยิงเป็นคนที่นั่งซ้อนมา และเมื่อยิงครั้งแรกแล้วยังมีการวนรถกลับมาเหมือนจะยิงซ้ำอีก

“เพื่อนผมก็เข้ามาพยุงผม ส่วยบาสหมดสติเพื่อนอีกคนหนึ่งก็พยายามลากบาสหนีกลัวเขายิงซ้ำนะครับ พวกผมก็เลยเรียกคนช่วยเขาก็เลยไม่ยิงแล้วเขาก็ขับรถออกไป แล้วแกร๊บขับผ่านมาพอดีก็ให้เขาพาผมไปรถพยาบาลระหว่างรอรถกู้ภัยมารับอยู่ ผมเห็นพวกคนที่ยิงมาจอดรถดูผมอยู่ ผมก็บอกว่า “พี่พวกนี้แหละที่ยิงผม” พวกนั้นก็เลยขับรถหนีไป”

ส่วนรูปพรรณของคนยิง กล้าจำได้ว่าเป็นชายตัวไม่ใหญ่ สูงราว 170 เซนติเมตร ใส่กางเกงและเสื้อยืดสีดำไม่มีสัญลักษณ์บนเสื้อ สวมหมวกแก๊ปสีดำหันปีกหมวกไปทางด้านหลัง ไม่ได้ปิดบังใบหน้าและใส่รองเท้าผ้าใบ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้คาดว่าจะเป็นปืนลูกโม่สีดำ เป็นการยิงจากระยะใกล้ๆ ทำให้หลบไม่ทัน เขาคิดว่าถ้ามีกล้องถ่ายได้ก็น่าจะเห็นได้หมด

กล้าบอกว่านอกจากเขากับบาสที่เป็นคนขับแล้วคนที่ซ้อนไม่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ถูกนำตัวแยกกันไปส่งโรงพยาบาลย่านรามคำแหง

กล้าระบุว่าตำแหน่งบาดแผลว่ากระสุนถูกยิงเข้าที่บริเวณช่องท้องด้านซ้ายใกล้สะโพกและกระสุนฝังอยู่ข้างในจึงต้องผ่าตัดเอากระสุนออก ซึ่งแพทย์ได้ผ่าเอาออกในตอน 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น(21 พ.ค.) และกำลังจะได้กลับบ้านในวันนี้

“ผมเพิ่งไปครั้งแรกในชีวิตเลยครับ เห็นเพื่อนไปหลายครั้งแล้วผมก็คิดว่าไม่มีอะไรก็เลยอยากลองมาดูบ้าง ที่ไหนได้มาก็โดนเลย” และกล้ายังบอกอีกว่ารู้สึกว่ารุนแรงเกินไปสำหรับคนที่คิดต่างต้องมาถูกดักทำร้ายกันแบบนี้แล้วบาสซึ่งเป็นเพื่อนของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย

“ผมรู้สึกว่าทีแรกไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่พอผมไปผมก็มาโดนแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกกลัวมากขึ้น ขนาดเขายิงเสร็จแล้วเขายังมาจอดรถดูผมเลย”

ส่วนประสงค์ หงส์ราช ขณะนี้ยังอยู่ห้องไอซียู จึงยังไม่สามารถสัมภาษณ์กับเจ้าตัวได้ แต่สมควร ใกล้กลาง แม่ของประสงค์ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าพี่ชายของประสงค์ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สำราญราษฎร์เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 20 มี.ค.2564 หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงและมีการขอภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุเอาไว้แล้ว แต่ตำรวจยังไม่สามารถออกหมายจับได้เนื่องจากยังเหลือสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุอีก 1 ปาก

วิดีโอขณะที่ทีมพยาบาลทำการปฐมพยาบาลประสงค์ หงส์ราช ที่เพิ่งถูกยิงในคืนวันที่ 20 มี.ค.2564

สมควรบอกว่าเพื่อนของประสงค์เล่าให้เธอฟังว่า ตอนที่ประสงค์ถูกยิงร่างกายของประสงค์ก็เหยียดเกร็งแล้วล้มทันทีและประสงค์ก็บอกว่าหายใจไม่ออกส่วนเพื่อนก็บอกให้ทำใจดีๆ ไว้ ค่อยๆ หายใจแล้วช่วยลากตัวประสงค์ขึ้นฟุตปาธรอให้หน่วยพยาบาลมาช่วย นอกจากนั้นสมควรบอกอีกว่าที่รถจักรยานยนต์ของประสงค์ก็มีรอยกระสุนด้วยเช่นกัน

ส่วนอาการบาดเจ็บของประสงค์ตอนนี้แพทย์ได้ทำการผ่าตัดรักษาบาดแผลเบื้องต้นแล้วเพื่อรักษาชีวิต แต่ยังไม่สามารถเอาหัวกระสุนออกจากร่างกายได้ทันทีเนื่องจากต้องให้สภาพปอดแข็งแรงขึ้นกว่านี้ก่อน แต่ตำแหน่งกระสุนที่ฝังอยู่ใกล้กับกระดูกสันหลังทำให้ตอนนี้แม้ประสงค์จะรู้สึกตัวแล้วและสามารถพูดคุยกันได้ แต่ก็ยกแขนได้ลำบากและขาทั้งสองข้างไม่มีความรู้สึกขยับไม่ได้

ทั้งนี้สมควรก็ได้เข้าไปเยี่ยมได้ครั้งหนึ่งแต่แพทย์เกรงว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อ จึงต้องคุยกันผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น ส่วนการรักษาหลังจากนี้ แพทย์ได้แจ้งกับสมควรว่าต้องรอแพทย์ด้านกระดูกมาดูก่อนด้วย เพราะหากทำการผ่าตัดเลยก็อาจจะมีผลกระทบทำให้ประสงค์ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกตลอดชีวิต

“แม่เครียดนะ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยให้เขากลับมาเดินได้เหมือนเดิม” สมควรกล่าว

สมควรบอกว่าประสงค์ยังเรียนภาคค่ำของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งและทำงานหาเงินเรียนไปด้วย แต่ประสงค์ก็ไม่ค่อยได้ไปชุมนุมแล้วก็ไปตามที่เพื่อนชวนกันไป

ทั้งนี้ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกใช้อาวุธปืนยิง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในการชุมนุมที่บริเวณรัฐสภาเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2563 บริเวณแยกเกียกกายระหว่างที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมคณะราษฎรกับฝ่ายกษัตริย์นิยม ในครั้งนั้นมีการ์ดอาชีวะของคณะราษฎรถึง 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท