โฆษกกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากกลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ เรียกร้องขอให้รัฐบาลยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผ้าอนามัย ลดค่าใช้จ่ายจำเป็นให้ผู้หญิง สร้างความเสมอภาค

ที่มาภาพ: สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

24 มี.ค. 2564 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ โฆษกกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายปภาณษิณ ปิ่นแก้ว หัวหน้ากลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะ ที่นำรายชื่อสตรีจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 30,000 รายชื่อ ยื่นเสนอเป็นข้อเรียกร้องขอให้กรรมาธิการผลักดันไปยังรัฐบาล ให้ยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยทุกชนิด เพราะถือเป็นการเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อสตรี เนื่องจากการมีประจำเดือนเป็นกลไกตามธรรมชาติของเพศหญิงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาผ้าอนามัยไว้บริการภายในสถานศึกษาตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัย เนื่องจากยังอยู่ในช่วงวัยที่ยังไม่มีรายได้ 

ทั้งนี้นายปภาณษิณ กล่าวว่าการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผ้าอนามัยถือเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้กับเพศหญิง ขณะที่เพศชายไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ อีกทั้งยังสร้างภาระค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน โดยคำนวณจากระยะเวลา 70 ปี เป็นมูลค่ากว่า 10,000-20,000 บาท ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าว จะสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของผู้หญิงลงได้ 

โฆษกกรรมาธิการกิจการเด็กฯ กล่าวว่าคณะกรรมาธิการตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวซึ่งเป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปพิจารณา เพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางเพศในสังคมต่อไป