เว็บไซต์ยูทูบปฏิเสธจะแบนวิดีโอของศิลปินฮิปฮอป YG ที่มีเนื้อหาต่อต้านชาวเอเชียทั้ง ๆ ที่มีกลุ่มคนทำงานยูทูบร่วมมือกันทักท้วงในเรื่องนี้

ในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับกระแสความรุนแรงต่อชาวเชื้อสายเอเชียทำให้ผู้คนพูดถึงเกี่ยวกับอคติและการสร้างความเกลียดชังในเชิงเหยียดเชื้อชาติสีผิวต่อชาวเอเชีย ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์เพลงของนักร้องแร๊ปเปอร์ที่ออกมาตั้งแต่เมื่อปี 2557 ในเรื่องการส่งเสริมให้ปล้นชิงชาวเอเชียรวมถึงมีเนื้อหาเหมารวมคนเชื้อสายจีนในสหรัฐฯ

เพลงเจ้าปัญหานี้มีชื่อว่า "Meet the Flockers" ซึ่งคำว่า "Flockers" ในที่นี้เป็นคำแสลงที่ใช้เรียก "โจร" เนื้อหาในเพลงนี้มีท่อนที่ระบุว่าชาวเอเชียเป็นกลุ่มคนที่ง่ายที่สุดที่จะบุกรุกบ้านเพื่อก่อเหตุโจรกรรม รวมถึงมีเนื้อหาบอกว่า "ในย่านคนจีน" นั้นพวกเขา "ไม่เชื่อในการมีบัญชีธนาคาร"

หลังจากที่มีการโต้เถียงอภิปรายเกี่ยวกับอคติและความรุนแรงต่อชาวเอเชียในส่วนแสดงความคิดเห็นของบริษัทยูทูบทำให้กลุ่มคนทำงานระดับบริหารของยูทูบก็เห็นด้วยว่าจะประชุมหารือในเรื่องนี้ จากที่มีการประชุมมีการแสดงความคิดเห็นตรงกันในหมู่ผู้บริหารว่าเพลงของ YG มีเนื้อหา "น่ารังเกียจอย่างมาก" และ "เจ็บปวดที่จะรับชมสำหรับผู้คนจำนวนมาก" แต่กลับไม่ยอมนำเนื้อหาออกจากเว็บ

หัวหน้าแผนกความหลากหลายและการมีส่วนร่วมครอบคลุมของยูทูบเป็นผู้จัดการประชุมกูเกิลในเรื่องนี้ มีความคิดเห็นหนึ่งที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า 430 โหวตระบุว่า "มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของคุณ ในฐานะของผู้นำ 'กลุ่มริเริ่มด้านความเป็นธรรมทางเชื้อชาติสีผิว' "

อย่างไรก็ตามทางยูทูบอ้างว่าสาเหตุที่พวกเขาไม่ลบวิดีโอของ YG ถึงแม้ว่าจะน่ารังเกียจอย่างมากเพราะ "บางครั้งวิดีโอที่ฝ่าฝืนนโนบายของพวกเราได้รับอนุญาตให้ยังคงอยู่บนเว็บได้ถ้าหากวิดีโอเหล่านั้นเป็นไปในรูปแบบของเพื่อการศึกษา, เป็นเนื้อหาเชิงสารคดี, เป็นเนื้อหาเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ ภายใต้บริบทของศิลปะ..."

บันทึกการประชุมของยูทูบระบุว่าในกรณีของ YG นั้นพวกเขาละเว้นให้ในฐานะ "การแสดงดนตรี" ซึ่งการละเว้นตามประเภทเนื้อหาเหล่านี้พวกเขาเรียกว่า EDSA จากตัวย่อของเนื้อหาประเภทต่างๆ ทางยูทูบอ้างว่าไม่ใช้เนื้อหาทุกอย่างจะใช้ EDSA เป็นใบเบิกทางในการไม่ถูกลบเนื้อหาได้ ถ้าหากเนื้อหาเหล่านั้นละเมิดนโยบายของพวกเขาในเรื่อง "เซ็กส์และรูปโป๊เปลือย" "เนื้อหาที่มีภาพรุนแรง" และ "เฮทสปีข" (วาจาปลุกปั่นความเกลียดชังทางอัตลักษณ์) จะไม่สามารถอ้างละเว้นจาก EDSA ได้

ยูทูบอ้างว่าการนำวิดีโอของ YG ออกไปเลยจะกลายเป็นการสร้างแบบอย่างที่ไม่มีมาก่อน ทำให้อาจจะต้องนำวิดีโอที่มี "เนื้อเพลงรุนแรงหรือน่ารังเกียจ" ในแบบเดียวกันออกไปด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีกระแสการเรียกร้องให้หยุดวาจาเชิงเกลียดชังเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชีย ข้ออ้างแบบนี้ของยูทูบก็ยังไม่สามารถลบความไม่พอใจของคนทำงานที่คัดค้านในเรื่องนี้ออกไปได้ มีพนักงานยูทูบหลายคนที่แสดงความไม่พอใจต่อกลุ่มผู้บริหารของยูทูบ

จากรายงานของยูทูบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ระบุว่าพวกเขานำวิดีโอออกจากเว็บไซต์มากกว่า 97,700 รายการ

เมื่อไม่นานนี้มีเหตุการณ์ที่บุคคลเหยียดเชื้อชาติสีผิวในสหรัฐฯ ทำร้ายและสังหารประชากรชาวเอเชีย จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งหนึ่งในกรณีเหล่านี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วย

เรียบเรียงจาก
YouTube Declines to Ban Video by Rapper YG With Asian-Targeting Lyrics, Despite Staff Uprising, Variety, 30-03-2021
YouTube Refuses to Remove Anti-Chinese Music Video by Rapper YG, Digital Music News, 30-03-2021