ภาพปกจากเว็บไซต์ workplacepride.org
โจ ไบเดน กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศยอมรับวันสากลว่าด้วยตระหนักถึงตัวตนของคนข้ามเพศหรือทรานส์เจนเดอร์ (Transgender Day of Visibility) ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เน้นในเรื่องการเฉลิมฉลองตัวตนของคนข้ามเพศและสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการกีดกันเลือกปฏิบัติและความรุนแรงที่คนข้ามเพศต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน
ในคำประกาศของไบเดน เขาบอกว่าวันแห่งการตระหนักถึงตัวตนคนข้ามเพศนั้นเล็งเห็นความสำคัญของกิจกรรมจากคนข้ามเพศและนอนไบนารี (ผู้มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่อยู่บนระบบสองเพศ) ที่สืบทอดมาจากหลายๆ รุ่น
ไบเดนระบุว่า "การแพ่วถางเส้นทางของบุคคลเหล่านั้นเปิดโอกาสให้บุคคลข้ามเพศนับไม่ถ้วนมีความกล้าหาญที่จะใช้ชีวิตแบบคนข้ามเพศอย่างเปิดเผยและเป็นตัวของตัวเอง"
ไบเดนระบุอีกว่า "ความก้าวหน้าที่ได้มาจากการต่อสู้อย่างยากลำบากนี้ยังก่อให้เกิดการยอมรับในตัวบุคคลข้ามเพศมากขึ้นทั้งจากในฐานะเพื่อนร่วมโรงเรียน เพื่อนร่วมทีม โค้ชฝึกสอนกีฬาในสนาม เพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน และมิตรสหายในทุกๆ มุมของสังคม ต่างก็ยืนหยัดสนับสนุนและร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชุมชนคนข้ามเพศ"
ถึงแม้ว่าในสหรัฐฯ จะมีความก้าวหน้าในเรื่องของเลสเบียน, เกย์, ไบเซ็กชวล และเควียร์ อย่างเช่นเรื่องการสมรสเท่าเทียม แต่ไบเดนก็บอกว่าสำหรับคนข้ามเพศแล้ว พวกเขายังคงต้องเผชิญกับระบบที่กีดกันขวางกั้นพวกเขาจากเสรีภาพและความเท่าเทียม เช่น มีการใช้ความรุนแรง การข่มเหงรังแก และการกีดกันเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
มีคนข้ามเพศเกือบ 1 ใน 3 ของสหรัฐฯ ที่เผชิญกับการเป็นคนไร้บ้าน จากข้อมูลรายงานปี 2558 อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการกีดกันเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน การเช่าซื้อที่พักอาศัย การเข้าถึงสาธารณสุข และการเข้าถึงขนส่งมวลชน
ไบเดนกล่าวอีกว่า วิกฤตความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับหญิงข้ามเพศ โดยเฉพาะหญิงข้ามเพศที่เป็นคนผิวสีนั้นกลายเป็นสิ่งที่สร้างความด่างพร้อยให้กับสหรัฐฯ โดยที่ในปี 2563 มีคนข้ามเพศถูกสังหารในสหรัฐฯ รวมแล้ว 44 ราย ในจำนวนนี้มี 23 รายที่เป็นหญิงข้ามเพศที่เป็นคนดำ
ไบเดนแถลงว่ารัฐบาลภายใต้การนำของเขาได้เริ่มใช้นโยบายคุ้มครองคนข้ามเพศบ้างแล้ว เช่นคำสั่งพิเศษที่ออกมาในวันแรกที่เขาเข้าทำงานในการขยายการคุ้มครองชาว LGBTQ+ ไม่ให้ถูกกีดกันเลือกปฏิบัติภายใต้กฎหมายกลางสหรัฐฯ เช่นกฎหมายแห่งชาติว่าด้วยที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้
นอกจากนี้ไบเดนยังพูดถึงการที่สหรัฐฯ มี ส.ว. ที่เปิดเผยตัวเองว่าเป็นคนข้ามเพศคนแรกคือ ราเชล เลอวีน ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ไบเดนยังพูดถึงการที่เขาสั่งยกเลิกคำสั่งกีดกันคนข้ามเพศในการเข้ารับราชการทหารซึ่งคำสั่งล้าหลังนี้มาจากสมัยรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ไบเดนยังได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคซึ่งจะคุ้มครองไม่ให้ชาว LGBTQ ถูกกีดกันเลือกปฏิบัติจากการจ้างงาน, การเช่าซื้อที่พักอาศัย, การศึกษา, เครดิต, กระบวนการยุติธรรม และอื่นๆ
ไบเดนระบุว่าการผ่านต่างกฎหมายดังกล่าวนี้จะเป็นการ "ให้การคุ้มครองสิทธิพลเมืองของคนข้ามเพศชาวอเมริกันได้อย่างเต็มที่" และจะเป็น "มรดกตกทอดที่ยั่งยืนสำหรับขบวนการเคลื่อนไหว LGBTQ+ ที่กล้าหาญและทรหด"
โจ ไบเดน นับเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ยอมรับวันสากลว่าด้วยตระหนักถึงตัวตนของคนข้ามเพศหรือทรานส์เจนเดอร์ เทียบกับก่อนหน้านี้ในรัฐบาลโอบาม่าที่ยอมรับแต่วันรำลึกถึงการสูญเสียของคนข้ามเพศเท่านั้น ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ไม่เคยยอมรับทั้งสองวันนี้ อีกทั้งยังเคยยกเลิกข้อกฎหมายที่คุ้มครองคนข้ามเพศไม่ให้ถูกกีดกันเลือกปฏิบัติในการสาธารณสุข และต่อต้านเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายความเสมอภาคด้วย
เรียบเรียงจาก
