Skip to main content
sharethis

ประชาชนร่วมกิจกรรม "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ณ อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม สวนสันติพร โดยมีตัวแทนทั้งอดีตผู้เข้าร่วมม็อบเสื้อแดง-เสื้อเหลือง เช่น วีระ สมความคิด และจตุพร พรหมพันธุ์ ผลัดกันขึ้นปราศรัยเวทีหลัก ขณะที่จตุพรย้ำจุดยืนขอให้ประชาชนทุกฝ่ายสามัคคีไล่เผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา ศัตรูของชาติออกไป    

4 เม.ย. 2564 ประชาชนรวมตัวกันฟังปราศรัยในวันกิจกรรม "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ณ อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม สวนสันติพร หัวมุมถนนราชดำเนิน
.
เวลา 15.30 น. iLawFX รายงานสถานการณ์ ระบุว่า ที่สวนสันติพร ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อแดงทยอยมารวมตัวกันไม่น้อยกว่า 200 คน
.
เวลา 16:11 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาแจ้งข้อกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และจตุพร พรหมพันธุ์  ร่วมทำกิจรรมภายใต้กลุ่ม ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 
.
ขณะที่จตุพร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า ส่วนตัวตนมาตามคำเชิญของอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ไม่ใช่ในฐานะองค์กรแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมขอให้ประชาชน ไม่ว่าจะมีความคิดทางการเมืองฝ่ายไหน มาร่วมกันขับไล่นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ศัตรูของประเทศนี้ออกไป 
.
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป มีกิจกรรมปราศรัย โดยมีตัวแทนทั้งผู้เคยเข้าร่วมม็อบเสื้อแดง และผู้ที่เคยเข้าร่วมม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. ผลัดกันขึ้นปราศรัยในเวทีเดียวกัน 
.
แม้ว่าผู้ปราศรัยจะมีภูมิหลังเคยเข้าร่วมม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส.มาก่อนหน้านี้ แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงเป็นอย่างดี ขณะที่ผู้ปราศรัยหลายคนกล่าวถึงการคุมขังแกนนำราษฎรระหว่างการปราศรัยอีกด้วย

เวลา 19.30 น. จตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นปราศรัยเวทีหลัก ย้ำจุดยืนขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมขอให้ประชาชนไม่ว่าจะมีความคิดทางการเมืองเสื้อเหลือง-แดง ขอให้ปล่อยวางซึ่งความขัดแย้งในอดีต และร่วมกันขับไล่ประยุทธ์ 

ก่อนที่เวลา 20.30 น. ตัวแทนประกาศยุติการชุมนุม พร้อมระบุว่า ทางกลุ่มฯ จะมีการจัดชุมนุมต่อเนื่องทุกวัน โดยจะมีเว้นวันที่ 6 เม.ย. ก่อนจะกลับมาจัดงานอีกครั้งวันที่ 7 เม.ย.  

 

จตุพร ขอประชาชนทุกฝ่ายสามัคคีไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้นตอปัญหาของประเทศ 

เวลาประมาณ 16.00 น. จตุพร พรหมพันธ์ุ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวันนี้ (4 เม.ย.) ณ เวทีปราศรัย สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย สวนสันติพร หัวมุมถนนราชดำเนิน โดยระบุว่า ตนมาตามคำเชิญของอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 (พ.ศ.2535)   

จตุพร พรหมพันธุ์ ขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อวันที่ 4 เดือน เม.ย. 

จตุพร กล่าวย้ำจุดประสงค์ของการมารวมกันครั้งนี้ คือการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ คือต้นตอของปัญหา และยังเคยตะบัดสัตย์ที่เอ่ยไว้ โดยรายละเอียดจะขอเก็บไว้พูดปราศรัย

“เวทีปราศรัยนี้ไม่ถึงกับเป็นการชุมนุม แต่เป็นการชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตะบัดสัตย์เรื่องอะไรบ้าง และไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง”

สาเหตุที่จัดเวทีปราศรัยในที่แห่งนี้ จตุพร กล่าวว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพราะที่นี่เป็นสถานที่บรรจุกระดูกของวีรชนจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี ‘35 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย ที่ประชาชนสามัคคีขับไล่เผด็จการทหาร พลเอกสุจินดา คราประยูร 

นอกจากนี้ จตุพร ยังกล่าวขอให้ประชาชนสมานฉันท์ความขัดแย้งเมื่อครั้งอดีต เพื่อรวมพลังสามัคคีจัดการกับภัยเฉพาะหน้า คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้นตอปัญหาของทั้งมวลให้ได้

“ถ้าเราไม่ร่วมมือกันอย่างน้อยพลเอกประยุทธ์ จะอยู่ในตำแหน่งไปอย่างน้อยอีก 6 ปี ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องเสียสละความเจ็บปวดในอดีต คือความขัดแย้งทั้งปวงที่เกิดขึ้นเมื่อ 15-20 ปีที่ผ่านมานี้ อย่างไรไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไม่ได้ ประวัติศาสตร์คนเสื้อแดง เสื้อเหลือง ยังไงก็คงดำรงอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าภัยเฉพาะหน้า อันเป็นผลจากการยึดอำนาจ สืบทอดอำนาจ และไม่ปฏิบัติตามคำสัญญา ... พล.อ.ประยุทธ์ คือศูนย์กลางของปัญหา คือภัยคุกคามของชาติ” 

จตุพร ยังกล่าวถึงบทเรียนประวัติศาสตร์จีน สงครามกลางเมืองของจีน ระหว่างเหมาเจ๋อตุง และเจียงไคเช็ก เคยห้ำหั่นตายกันเท่าไหร่ แต่เมื่อเจอศัตรูของชาติคือญี่ปุ่น ก็จับมือกันสู้กัน แต่ละฝ่ายต้องเสียสละทางความรู้สึกซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องสามัคคี เพื่อจัดการพลเอกประยุทธ์ให้ได้ 

จตุพร ระบุว่า วันนี้เน้นทำความเข้าใจ และไม่เร่งรีบ จะทำความเข้าใจจนประชาชนมีฉันทามติเห็นว่าต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป เมื่อประชาชนเห็นพ้องต้องกัน ค่อยมาคุยกันอีกครั้ง ซึ่งไม่มีการขีดเส้นว่าต้องออกภายในเมื่อไหร่  

สำหรับคำถามว่า ข้อเรียกร้องของจตุพร ถือเป็นการลดระดับเพดานข้อเรียกร้องของคณะราษฎรหรือไม่ 

จตุพร กล่าวว่า "ตนเห็นว่าประยุทธ์เป็นปัญหา ส่วนคณะราษฎรมีความคิดเห็นอย่างไร นั่นถือเป็นความเห็นสิทธิเสรีภาพของคณะราษฎร ไม่ได้กระทบเรื่องใด อีกทั้ง เรื่องการขับไล่พลเอกประยุทธ์ ก็เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของคณะราษฎร ใครเชื่ออย่างไรก็ไปทำตามความเชื่อของตัวเอง อย่าให้ความเชื่อของเราหรือคนอื่นมาขัดแย้ง ใครเชื่ออะไรก็ทำอย่างนั้น"

ไบร์ทขอให้เชื่อมั่นในตู่ (จตุพร พรหมพันธุ์)

ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ตัวแทนจากคณะราษฎรนนทบุรี ขึ้นเวทีปราศรัย สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย สวนสันติพร โดยเบื้องต้น ไบร์ท กล่าวว่า ที่ผ่านมามีปฏิบัติการ IO ของรัฐบาล พยายามปลุกปั่นประชาชนที่รักประชาธิปไตยและเกลียดประยุทธ์ จันทร์โอชา ทะเลาะกัน อ้างว่า จตุพร พรหมพันธุ์ ดูถูกขบวนการคนรุ่นใหม่ที่ออกมาประท้วงต้านรัฐประหาร 

ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ตัวแทนคณะราษฎรนนทบุรี และอดีตผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ขึ้นปราศรัย
 

ไบร์ทเปิดใจว่า หลังมีกระแสข่าวดังกล่าว จตุพร พรหมพันธุ์ จึงยกหูโทรมาคุยกับเขา โดยขอให้เชื่อมั่น และยืนยันว่าจะไม่มีวันทิ้งน้อง ๆ นิสิตนักศึกษาเด็ดขาด นอกจากนี้ จตุพร ยังบอกกับไบร์ท ถึงจุดยืนการขับไล่ประยุทธ์ออกไป

หลังจากที่ตนเองได้ฟังความกระจ่างชัดเจนในเรื่องนี้ ไบร์ท จึงอยากฝากถึงประชาชน ราษฎร ที่ยังสงสัยเรื่องความจริงใจว่า ในฐานะที่ไบร์ทเคยเข้าร่วมการประท้วงของคนเสื้อแดงตั้งแต่อายุ 15 ปี แกนนำเหล่านี้ รวมถึงจตุพร คือคนที่ถูกจับเข้าคุก หลังออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย 

ไบร์ท กล่าวเพิ่มว่า ตนดีใจที่ได้มาร่วมงานวันนี้ และขอบคุณ อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ และประชาชนทุกคนที่ร่วมกันก่อตั้งสามัคคีประชาชนฯ เพื่อมาขับไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา  

“วันนี้คือจุดเริ่มต้นที่ดี ในวันที่นิสิต นักศึกษา ก็ต่อสู้ในอุดมการณ์เดียวกัน คือการต่อสู้ให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตย และพี่ป้าน้าอา ก็ต่อสู้เพื่อจุดหมายอันเดียวกัน นั่นคือไล่บิ๊กตู่” 

“วันนี้เป็นวันเริ่มต้นการประกาศต่อสู้รัฐบาลเผด็จการเต็มกำลัง นับต่อจากนี้ไป มีการชุมนุมใหญ่เมื่อไหร่ขอให้พี่น้องเดินทางออกมาขับไล่รัฐบาลด้วยกัน” ไบร์ท ทิ้งท้าย

อดีตผู้เข้าร่วมพันธมิตรขึ้นปราศรัยเปิดใจทำไมมาม็อบนี้ 

พ.ท.แพทย์หญิง กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ อดีตผู้เคยเข้าร่วมประท้วงกับม็อบพันธมิตร ขึ้นปราศรัยเวทีหลัก ในกิจกรรม "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ที่อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม สวนสันติพร 

เธอ กล่าวว่า เธอมาด้วยเป้าหมาย อยากเห็นประชาชนกินดีอยู่ดี และตอนแรกเห็นว่า จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้เผด็จการลดทอนอำนาจลง แต่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เด็กที่เรียกร้องก็ติดคุก 

ตัวเธอเคยออกมาประท้วงขับไล่ทักษิณ ชินวัตร เคยไล่ยิ่งลักษณ์ เธอไล่ทักษิณเพราะต้องการการเมืองใหม่ตอนนั้นพันธมิตร ปี 57 ไล่ยิ่งลักษณ์ ได้ประยุทธ์เข้ามาเป็นรัฐบาลอยู่ 4 ปี และก็มีร่างรัฐธรรมนูญปราบโกง “ปราบยังไงไม่รู้ยิ่งอยู่ยิ่งโกง” และคนที่โกงจับได้บ้างไหม เยอะแยะมากมายไม่สามารถจับได้ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 279 ทำอะไรก็ไม่ผิด  

เธอหวังว่า ปัญหาประเทศไทยจะได้คนดีเข้าสู่สภา การเลือกตั้งต้องโปร่งใส ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งไม่ต้องใช้เงินมาก และขอให้ประชาชนไม่รับเงินซื้อเสียง เพราะเรารับเงิน 1,000-2,000 บาท เพื่อไปเลือกเขา แต่เขาเข้าไปเอาเงินของประเทศเป็นหมื่นล้าน

สุดท้าย เธอแจงว่าทำไมต้องมีม็อบ เพราะมันมีคอร์รัปชัน ป.ป.ช.ชุดนี้ใครเลือกตรวจสอบได้ไหม ปี 57 ไล่ยิ่งลักษณ์ไป ไม่กี่เดือนต่อมา รัฐแจกสัมปทาน ขายสัมปทาน มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ขึ้นเงินเดือนตุลาการ พี่น้องรู้ไหมเด็กถูกกับดักติดคุก แก้ไขได้ไหม หลัก ๆ ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือลดอำนาจเผด็จการ แต่เด็ก ๆ ต้องติดคุก 

การุณขอให้ประชาชนสามัคคีช่วยกันแบกประยุทธ์ออกไป 

การุณ ใสงาม ตัวแทนปราศรัยด้วยลีลาแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เล่นคำอย่างสนุกสนาน 

“มิตรสหายผมทั่วประเทศ มาวันนี้ตั้งคำขวัญได้ดีมาก ‘สามัคคีประชาชน’ เหมาะและสอดคล้องกับสถานการณ์จริง ๆ เลย จึงอยากชวนพี่น้องมาช่วยกันแบกกันหามสามัคคีประชาชนไปก่อน ของมันหนักอย่าไปแบกหลาย แบกทีละอย่างสองอย่างก็ค่อย ๆ แบกไป ก็ให้มันแบกไป ลุงตู่ (ประยุทธ์ จันทร์โอชา) นายกฯ ตู่ แบกหนัก แบกยากต้องช่วยกันหลายคน เราจึงไม่อวดเก่ง การจะเอาลุงตู่ออกไป มันไม่ง่ายหรอกหน่า เพราะฉะนั้น มันหนักมาก ก็อยากให้มาช่วยกันหลายคน จะได้เอาไอ้ตู่ออกไป ไม่ใช่ของง่ายนะ เอาไอ้ตู่ออกไป โครงสร้างของเขามันแข็งแรงมาก แถมเครื่องมือเครื่องไม้เยอะแยะมากมาย มีตั้งแต่กฎหมาย เอาลูกหลานเราไปเข้าคุก มันมีทั้งรัฐธรรมนูญขี้โกง เขียนรัฐธรรมนูญเอาเปรียบคนอื่น เอาเปรียบคนทั่วไป เอา ส.ว. 250 คนมายกมือให้ตัวเอง แค่นี้ก็เรียกว่าการโกงอำนาจแล้ว ถ้าใครเห็นการโกงอำนาจมันถูกต้องชอบธรรมก็ไปกินหญ้าซะให้หมดไป แต่ถ้ากินหญ้าไม่ได้ ก็ต้องมาร่วมช่วยกันไล่บักตู่นี่ละ”

“ที่สำคัญ ก่อนอื่น สามัคคีประชาชน ๆ สามัคคีได้ยังไง มันเอาลูกหลานเราไปเข้าคุกอยู่เนี่ย มันต้องเอาลูกหลานเราออกมา มันจะได้มาคุยกัน ใครมีความเห็นแตกต่าง ใครมีความเห็นอย่างไร มันต้องคุยกันตัว มันจะได้คุยกันรู้เรื่อง ไม่คุยกันมันจะสามัคคีได้ยังไงหว่า ไม่คุยกัน จับมันไปเข้าคุกอย่างเดียว เมื่อมันไม่คุยกัน มันไม่รู้เรื่อง มันไม่รู้ใครอยากได้อะไรต้องการแบบไหน จะรู้เรื่องได้อะไร มันสามัคคีไม่ได้ เพราะฉะนั้น คำขวัญยอดเยี่ยม สามัคคีประชาชน เหมาะสมกับสถานการณ์ มาเถิดพี่น้อง ทุกกลุ่มทุกฝ่าย อย่าทำท่าเหนียมอายเลย จะทำแอ๊กท่าอะไร มาร่วมกันสิ มาไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป” การุณ ทิ้งท้าย  

กลุ่มสามัคคีประชาชน เตรียมจัดชุมนุมปราศรัยต่อเนื่อง พร้อมผู้เชี่ยวชาญมาพูดถึงปัญหาของรัฐบาลในทุกมิติ

เมื่อเวลาโดยประมาณ 17.30 น. จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวบนเวทีปราศรัยหลัก กิจกรรม "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ณ อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม สวนสันติพร ระบุว่า วันนี้เป็นการทำกิจกรรมบนพื้นที่ อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม สวนสันติพร ซึ่งมีความสำคัญกับตัวเขา และการต่อสู้ประชาธิปไตยของไทย เพราะที่แห่งนี้คือที่บรรจุอัฐิวีรชนที่พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย 

 

จตุพร ขอให้ประชาชนที่มีความคิดทางการเมืองต่างกัน ไม่ว่าจะเสื้อเหลือง-แดงที่มีความขัดแย้งกัน ขอให้สมานฉันท์ วางความขัดแย้งลงไว้ก่อน และมารวมตัวขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยกัน ซึ่งจตุพรยกบทเรียนประวัติศาสตร์สงครามกลางเมืองจีนระหว่างเหมาเจ๋อตุง และเจียงไคเช็ก ที่ประหัตประหารกัน จนมีผู้เสียชีวิตมากมาย แต่วันที่กองทัพญี่ปุ่นบุกจีน วันนั้น เจียงไคเช็ก กับเหมาเจ๋อตุง จับมือกันเพื่อสู้กับญี่ปุ่นศัตรูของชาติ 

ต่อมา จตุพร ชี้แจงว่า ทำไมนายกฯ ประยุทธ์ ถึงไม่มีความชอบธรรมของการเป็นนายกฯ และสมควรถูกขับไล่ โดยจตุพรสับประยุทธ์ เป็นพวกไร้เกียรติ ตะบัดสัตย์ ตะบัดสัตย์ยึดอำนาจจากอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากนั้น ก็ตะบัดสัตย์อีกครั้ง โดยประกาศว่าจะเข้ามาอยู่ไม่นาน แต่กลับอยู่จนมาถึง 7 ปี 

หลังจากนั้น ก็วางแผนสืบทอดอำนาจ โดยให้มีชัย ฤชุพันธฺ์ ร่างรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเอง ซึ่งสะท้อนผ่านการแต่งตั้งพวกพ้อง ส.ว. 250 เสียงเข้าไปยกมือโหวตให้ประยุทธ์ เป็นนายกฯ การแต่งตั้งกลไก ส.ส.ปัดเศษ จนพรรคตัวเองได้ประโยชน์ และยังมีประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย 

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นวาระเร่งด่วน แต่ถามว่า องคาพยพของพลเอกประยุทธ์ต้องการแก้ไขหรือไม่ [ตอบว่า]ไม่ต้องการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประโยชน์สูงสุด...

ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอึมครึมเหมือนรัฐธรรมนูญปี 50 เหมือนกันเด๊ะ ไม่ได้บอกว่า ให้ทำอะไร ถ้าพลเอกประยุทธ์เป็นคนที่รับผิดชอบ พลเอกประยุทธ์บอกว่า จะให้ฝ่ายกฎหมายสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า สองวาระนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป โหวตวาระสองได้หรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยไม่ชัดเจน หรือจะทำประชามติต่อ ประยุทธ์ไม่ทำอะไรเลย มิหนำซ้ำให้รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาเดินเกมให้โหวตคว่ำ ท้ายที่สุดก็บอกว่า ตัวเองให้การสนับสนุนไม่เป็นอุปสรรค ผมมิอาจที่จะทนกับพลเอกประยุทธ์ที่ตระบัดสัตย์เรื่องรัฐธรรมนูญได้

เรื่องรัฐธรรมนูญผิดสัญญา อยู่ไม่นานผิดสัญญา ไม่สืบทอดอำนาจผิดสัญญา ว่าปฏิรูปประเทศให้ผิดสัญญา ว่าจะปราบปรามคอร์รัปชั่นผิดสัญญา ปัญหาคือว่า วันนี้เราให้โอกาสประเทศนี้กับคนที่ตระบัดสัตย์ครั้งแล้วครั้งเล่า วีรชนพฤษภา 35 แค่สุจินดาตระบัดสัตย์ครั้งเดียวเขาก็ไม่ยินยอมแล้วครับ” จตุพร กล่าว  

นอกจากนี้ จตุพร ตำหนิประยุทธ์ เรื่องการใช้มาตรา 112 ที่ในคราวแรกบอกว่าจะไม่ใช้ แต่ภายหลังกลับเอามาใช้ลงโทษคนอื่น ๆ จนทำให้มีผู้สูญเสียอิสรภาพ ติดคุก และทำให้สถาบันกษัตริย์เดือดร้อน 

“เรื่องมาตรา 112 คนที่ต้องถูกประณามมากที่สุดคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประยุทธ์เป็นคนสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะไม่เอาโทษมาตรา 112 มีคนไปหลงเชื่อพลเอกประยุทธ์และมาเอาโทษ คนหลงเชื่อพลเอกประยุทธ์ติดคุก พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ สถาบันฯ เดือดร้อนทั้งขึ้นทั้งล่อง”

“ฉะนั้นเมื่อพี่อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ บอกพวกผมมา และได้พูดต่อหน้าดวงวิญญาณวีรชน ผมบอกว่า นี่มันเป็นพลัง เราเคยสู้กับสุจินดามายังไง เราจะสู้กับประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างนั้น...ดังนั้นเรามีความจำเป็นที่ต้องหลอมรวมหัวใจคนไทยทุกฝ่าย สามมัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย..." จตุพร กล่าว

ช่วงท้ายของการปราศรัย จตุพรกล่าวถึงแนวทางการชุมนุมของกลุ่มในอนาคต โดยระบุว่า แนวทางการเคลื่อนไหวต่อไปของกลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะมีการชุมนุมขับไล่นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกือบทุกวัน ที่สวนสันติพร ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.โดยประมาณ สัปดาห์นี้จะมีการจัดงานวันที่ 5 เม.ย. เว้นวันที่ 6 เม.ย. 2564 เนื่องจากสถานที่ไม่ว่างใช้งาน ก่อนที่จะกลับมาวันที่ 7 เม.ย. 2564 นอกจากนี้ ในการปราศรัยแต่ละครั้ง จะมีผู้เชี่ยวชาญผลัดกันขึ้นมาปราศรัยให้ความรู้ทุกครั้ง 

“เชิญชวนพี่น้องประชาชนมาซึบซับบรรยากาศ ยืนอยู่ตรงนี้มันได้พลังจากดวงวิญญาณวีรชน มันมีพลังที่จะจัดการกับเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะฉะนั้น ในทุกมิติ ไม่ว่าทุนผูกขาด พลังงาน การทุจริต คอร์รัปชัน เรื่องรัฐธรรมนูญ ผู้ชำนาญการแต่ละด้านจะมาพูดกันทุกวัน จะมาฉายภาพว่าคุณไม่มีสิทธิ์จะมาอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีได้อีกต่อไป ให้คนไทยเข้าใจพร้อม ๆ กัน และวันที่เราเห็นว่ามันพร้อมแล้ว เราค่อยมาตัดสินใจ” จตุพร กล่าว 

เวลา 20.30 น. ตัวแทนประกาศยุติการชุมนุม และประชาชนทยอยแยกย้ายกลับบ้าน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net