5 เม.ย. 2564 กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย จัดกิจกรรรมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานวีรชนพฤษภา 35 จตุพรทำใจหากจะถูกแจ้งข้อหารายวัน ด้านประธานญาติวีรชนพฤษภา 35 ขออย่าชูสามนิ้ว สร้างความไม่พอใจให้ผู้ร่วมกิจกรรม ก่อนขอโทษเพราะเข้าใจผิด หวังพรุ่งนี้แกนนำราษฎรได้ประกันตัว

มติชนออนไลน์รายงานว่า เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อม พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รอง ผกก.ป.สน.ชนะสงคราม อ่านประกาศสั่งห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากการกระทำใดที่ล่วงละเมิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีในภายหลังได้

รายงานข่าวแจ้งว่า วิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ลงนามในหนังสือที่ กท.1106/1403 ลงวันที่ 2 เม.ย. 2564 ตอบกลับกรณีที่อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนเดือนพฤษภา 2535 ทำหนังสือขออนุญาตใช้สถานที่บริเวณสวนสันติพร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เพื่อจัดเสวนา “สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ในวันที่ 4-10 เม.ย. 2564 ระหว่างเวลา 16.00-22.00 น. โดยสำนักสิ่งแวดล้อม พิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้คณะกรรมการญาติวีรชนเดือนพฤษภา 2535 ใช้สถานที่บริเวณสวนสันติพร เพื่อจัดงานดังกล่าว เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการใช้สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ตามระเบียบกรุงเทพมหานคร

ต่อมาเวลา 17.30 น. จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เดินทางเข้ามาในพื้นที่พร้อมกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุญาติให้มีการบรรจุอัฐิเหล่าวีรชนที่เสียสละตัวเอง โดยตั้งเป็น อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ในทางพฤตินัยแล้วพื้นที่นี้ถือว่ามอบให้ญาติวีรชน ต่อมาทางคณะผู้จัดการชุมนุมได้ขออนุญาตไปทางญาติแล้วและไม่มีข้อขัดข้อง เพราะฉะนั้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาชี้แจงประกาศเตือนต่างๆ ส่วนตัวเข้าใจดีว่าทุกฝ่ายต้องมีหน้าที่ที่ต้องทำ ทั้งนี้ในส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่าเหตุใดการชุมนุมครั้งนี้จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนตั้งกำลังอยู่ใกล้บริเวณอีกทั้งยังมีรถห้องน้ำคอยบริการ เพราะก่อนหน้านี้คณะผู้จัดการชุมนุมได้ทำหนังสือถึงสำนักงานสิ่งแวดล้อม และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าการชุมนุมจะไม่มีการเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาดเจ้าหน้าที่จึงสามารถจำกัดบริเวณได้

จตุพร กล่าวว่า กรณีตำรวจจะแจ้งข้อหานั้น ทีมงานพูดคุยกันแล้วว่าจะต้องโดนแจ้งข้อหารายวัน และยอมรับว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นหากมีการออกมาแสดงความคิดเห็นและร่วมต่อสู้เพื่อแสดงถึงประชาธิปไตย ซึ่งจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ที่เป็นวันแรกของการออกมาเคลื่อนไหว ถือเป็นวันที่จะได้อธิบายถึงเหตุผลของการต่อสู้ และประเมินสถานการณ์ว่ายังไม่ถึงขั้นต้องเคลื่อนย้ายหรือเผชิญหน้า ทุกอย่างอยู่ในลำดับขั้นตอน หลังจากเทศกาลสงกรานต์ รูปแบบของการชุมนุม กลุ่มที่จะมาเข้าร่วม ทิศทางของการเคลื่อนไหวจะชัดเจนมากขึ้น ยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ยังไม่ได้กระทำผิดในเงื่อนไขประกันของศาล และยังหวังให้ข่าวลือที่บอกว่าแกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ ป็นเรื่องจริง เพราะนี่คือการต่อสู้ทางความคิด ไม่ใช่การกระทำของอาชญากร

ด้านตัวแทนไทยไม่ทนประกาศบนเวทีว่า การชุมนุมใช้พื้นที่อนุสรณ์สถานฯ มีการขอใช้เครื่องขยายเสียงและมีมาตรการในการคัดกรองโรค ที่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวทำนองว่า หากมีการจัดกิจกรรมทุกวันก็จะดำเนินคดีในทุกการกระทำไปนั้น สำหรับเขา “ไม่มีปัญหา เพราะคดีของพวกเราทุกวันนี้มันโทษประหารชีวิตอยู่แล้ว จะประหารสักสองสามครั้งก็ตามสบาย”

ขณะที่ไอลอว์รายงานว่า เวลา 17.13-17.28 น. ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ปราศรัยเรื่องการรัฐประหารในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาและมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เรื่อยมา จนกระทั่งมีการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามารัฐประหาร ยึดอำนาจและเลื่อนเลือกตั้งอยู่หลายครั้ง ธนาวุฒิเรียกร้องให้ทุกฝ่ายออกมารวมตัวเพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนและใครจะได้เป็นรัฐบาลต่อไปให้ไปตัดสินกันตอนที่เลือกตั้ง

“...ถ้าเราล้มเผด็จการได้ มันจะกลายเหมือนปี’ 35 และสุดท้ายได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยแน่นอน...ไม่ว่าท่านจะอยู่สีเสื้อใดมารวมกลุ่มกันไว้ เอาประชาธิปไตยก่อน...”

17.44 น. ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม ขึ้นปราศรัยกล่าวสดุดีนักกิจกรรมราษฎรและกล่าวว่า “ถึงแม้ว่า ผมจะเรียกร้องไม่เท่าเขา แต่จุดมุ่งหมายเดียวกันที่เราต้องการคือ รัฐธรรมนูญไทย ประชาธิปไตยไทย”

18.00 น. แกนนำและผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลงชาติ โดยแกนนำยืนตรงและผู้ชุมนุมชูสามนิ้วไปด้วยคล้ายกับเหตุการณ์เมื่อ 4 เม.ย. 2564

18.04 น. อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ กล่าวว่า ขอไม่ให้ชูสามนิ้วที่นี่ หากอยากจะชูให้ชูกำปั้น ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมบางคนไม่พอใจลุกเดินออก

18.11 น. บนทางเท้าด้านหน้า ยังมีประชาชนไม่พอใจคำขอดังกล่าวและชูสามนิ้ว พร้อมถามหาว่า ใครเป็นผู้พูด จากนั้นมีตัวแทนมาชี้แจงว่า ผู้พูดไม่ใช่จตุพร ถ้าจตุพรเป็นคนพูดหรือกล่าวว่า ไม่เอาคณะราษฎร ไม่เอาสามนิ้ว เมื่อนั้นเราขาดกัน

18.17 น. ธนกร หรือเพชร กล่าวว่า ถ้าจะเป็นประชาธิปไตยจะไม่มีการกีดกันใครออกจากขบวน ส่วนประชาชนด้านหน้าทางเข้าสวนสันติพรเรียกร้องให้เอาคนที่พูดออกมาขอโทษ ก่อนประชาชนร่วมชูสามนิ้วเดินไปยังเวที

18.20 น. จตุพรแถลงว่า ศัตรูร่วมของเรา คือ ประยุทธ์ จะชูกี่นิ้วก็ได้ ต่อมาสถานการณ์สงบลง เขากล่าวด้วยว่า ได้ข่าวมาว่า พรุ่งนี้บรรดาผู้ที่ถูกจองจำจะได้รับอิสรภาพ “ผมเป็นมนุษย์พันธุ์คุก ผมรู้ว่า พูดอย่างไรเขาจะได้ออกจากคุก”

“เรื่องบางเรื่องที่ไม่ได้พูด ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แต่บางเรื่องรู้ว่ายิ่งพูด น้องๆ ยิ่งไม่ได้ออก การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไม่ควรมีใครจะต้องติดคุกแม้แต่คนเดียว”

เขากล่าวต่อว่า บางเรื่องเจ็บปวดแต่ต้องอดทน และชี้แจงเรื่องการชุมนุมว่า มีบางคนพูดว่า ม็อบนี้ไม่มี คฝ.(ตำรวจควบคุมฝูงชน) นั่นเป็นเพราะที่นี่เป็นพื้นที่อนุสรณ์สถานวีรชนพฤษภา 35 แต่ถ้าวันไหนพวกเราตัดสินใจเดินไปทำเนียบรัฐบาลมันก็มี คฝ. อยู่ดี

18.39 น. อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ชี้แจงบนเวทีพร้อมกับตัวแทนอาชีวะฯ ว่า เข้าใจผิดเรื่องสามนิ้วและเพิ่งรู้ว่า ความหมายของสามนิ้วนั้นหมายถึง เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ โดยกล่าวว่า “ลุงขอโทษ...ผมขอโทษพวกคุณนะลูกหลาน จะช่วยผมไหม” ก่อนผู้ชุมนุมจะตอบว่า "ช่วย"

ด้านตัวแทนอาชีวะฯ กล่าวว่า เมื่อสักครู่เป็นความเข้าใจที่ผิดพลาด เราเข้าใจดีแล้วตรงกันว่า เราจะช่วยกันไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

18.51 น. ณัฐพัช อัคฮาดขึ้นเวทีและขอให้ทุกคนสามนิ้วให้เพื่อนที่อยู่ในเรือนจำ ถ้าเป็นนิมิตรหมายอันดี พรุ่งนี้เราจะได้ออกมาชูสามนิ้วร่วมกัน พร้อมทั้งย้ำว่า ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันขอให้ทุกฝ่ายอย่าได้แคลงใจกัน