นร.ย้ำโรงเรียนต้องให้อิสระทางความคิด หลังถูก รร.ดังเมืองภูเก็ตตัดสิทธิ์ต่อ ม.4 อ้างไม่จงรักภักดีฯ

นักเรียน ม.3 โรงเรียนชื่อดังในภูเก็ตเปิดเผยความรู้สึกหลังถูกโรงเรียนตัดสิทธิ์เรียนต่อ ม.4 ด้วยเหตุผล ‘ไม่จงรักภักดีต่อชาติและสถาบันกษัตริย์’ พร้อมย้ำว่าโรงเรียนควรให้อิสระทางความคิดกับนักเรียน ไม่ใช่บังคับให้นักเรียนคิดตามอย่างเดียว

8 เม.ย. 2564 วันนี้ เวลา 10.18 น. เฟซบุ๊ก นักเรียนเลว โพสต์รูปพร้อมข้อความระบุว่าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตตัดสิทธิ์การเข้าเรียนต่อ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2564 ของนักเรียนชั้น ม.3 จำนวน 18 คน พร้อมระบุสาเหตุการถูกตัดสิทธิ์เป็นรายบุคคล ซึ่งปรากฎตามภาพ คือ 1.ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด 2.มีส่วนร่วมในเหตุทะเลาะวิวาท และ 3.ไม่จงรักภักดีต่อชาติและสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเหตุผลในข้อ 3. สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก จนเกิดแฮชแท็ก #รรปสดชื่อดังติดสถานีตำรวจ

 

Breaking : โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตตัดสิทธินักเรียนชั้นม.3 ที่จะเข้าศึกษาต่อชั้นม.4 ด้วยเหตุผล "...

Posted by นักเรียนเลว on Wednesday, April 7, 2021

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้สื่อข่าวประชาไทจึงติดต่อไปยัง เวฟ (นามสมมติ) เยาวชนวัย 15 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกทางโรงเรียนตัดสิทธิ์การเข้าเรียนต่อพร้อมระบุเหตุผลว่า ‘ไม่จงรักภักดีชาติ สถาบันกษัตริย์’ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดย เวฟ เล่าว่า ช่วงที่กลุ่มนักเรียนมัธยมทั่วประเทศร่วมกันรณรงค์ใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว ตนจึงชักชวนเพื่อนๆ ผ่านโซเชียลมีเดียให้ร่วมกันแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีครูเห็นโพสต์ดังกล่าว จึงนำโพสต์นั้นไปแจ้งต่อฝ่ายกิจการนักเรียน ทำให้ตนถูกเพ่งเล็งจากทางโรงเรียนมานับแต่นั้น

แม้จะถูกทางโรงเรียนจับตามองและถูกเรียกเข้าไปตักเตือนจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ เวฟ ก็ยังเดินหน้ารณรงค์เรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนต่อ โดย เวฟ เล่าว่า ช่วงที่มีการรณรงค์ให้ผูกโบว์ขาวไปโรงเรียน ตนได้โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่าจะร่วมแจกโบว์ขาวให้เพื่อนนักเรียน แต่ครูได้บอกกับตนว่าห้ามโพสต์เรื่องการเมืองและห้ามแจกโบว์ขาวให้เพื่อนนักเรียน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวขัดต่อคำสั่งของโรงเรียน นอกจากนี้ เวฟ ยังเผยว่ามีเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ที่ร่วมทำกิจกรรมกับตน ซึ่งทุกคนถูกฝ่ายกิจการนักเรียนเรียกไปตักเตือน โดยให้เหตุผลเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมบอกว่าตนเป็นนักเรียนก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ แต่ไม่ได้มีการตัดคะแนนความประพฤติใดๆ ส่วนที่ตนโดนหนักกว่าคนอื่น ถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์การเรียนต่อ ม.4 ในโรงเรียนเดิมนั้น เป็นเพราะครูมองว่าตนเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมการเมืองในโรงเรียน และยุงยงปลุกปลั่นเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ

เวฟ เผยว่า พ่อแม่ของตนรับทราบเรื่องแล้วแต่ไม่ได้ว่าอะไร ในขณะที่เพื่อนๆ ต่างก็ให้กำลังใจตน ส่วนครูในโรงเรียนนั้นยังไม่มีใครติดต่อมาหรือแสดงท่าทีใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้วางแผนการศึกษาต่อจากนี้ไว้อย่างไร เวฟ เผยว่า ตนจะสอบเข้าเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนเดิม แต่ต้องใช้เกณฑ์การสอบเช่นเดียวกับนักเรียนใหม่ที่ไม่เคยเรียนที่นี่มาก่อน ในขณะเดียวกัน ตนก็ไม่มั่นใจว่าหากสอบเข้าเรียนได้อีกครั้ง จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น แต่คาดว่าจะถูกเพ่งเล็งจากครูในโรงเรียนอย่างแน่นอน แต่หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด คือ โรงเรียนไม่ยินยอมให้ตนสมัครเข้าเรียนใหม่ ก็จำเป็นต้องย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่ง เวฟ บอกว่าหากเป็นกรณีหลัง ตนอยากฟ้องร้องโรงเรียนโทษฐานละเมิดและลิดรอนสิทธิการศึกษาต่อของเยาวชน

“ไม่ค่อยโอเคครับที่โดนแบบนี้ เพราะเป็นเหตุผลที่ไม่ควรมีใครโดน มันเป็นสิทธิของเราที่จะแสดงออก” เวฟ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าหากเรียนต่อที่เดิมแล้วถูกเพ่งเล็งหรือกลั่นแกล้งจากบุคคลในโรงเรียน จะเดินหน้าเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อหรือไม่ เวฟ ยืนยันว่าตนจะเคลื่อนไหวต่ออย่างแน่นอน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนักเรียนคนอื่นๆ ในการเรียกร้องสิทธิของตนเอง

“ถ้ามีคนโดนแบบผมแล้วหนึ่งคน แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร โรงเรียนก็คงได้ใจ และอาจมีนักเรียนคนต่อๆ ไปโดนแบบเดียวกันอีก อยากให้มีแค่ผมคนเดียวพอ” เวฟ กล่าว

“ผมรู้สึกว่านักเรียนควรจะมีสิทธิและเสรีภาพ รวมถึงมีอิสระทางความคิดมากกว่านี้ โรงเรียนต้องสอนให้เด็กคิดเอง ไม่ใช่บังคับให้เด็กคิดตาม โรงเรียนควรเปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถแสดงออกทางความคิดได้อย่างอิสระมากกว่านี้ ส่วนตัวบุคคลากรที่ทำงานในโรงเรียนเองก็ควรปรับปรุงพฤติกรรม เช่น ครูบางคนก็พูดจาไม่เหมาะสมกับนักเรียน หรือการแบ่งแยกเด็กห้องโครงการพิเศษออกจากเด็กห้องธรรมดา หรือแม้กระทั่งการเหยียดนักเรียนสายวิทย์-สายศิลป์ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีสิ่งเหล่านี้ เพราะคนเรามีความสามารถที่แตกต่างกัน” เวฟ กล่าวทิ้งท้าย

ภาพประกาศรายชื่อของนักเรียนที่ถูกตัดสิทธิ์เข้าเรียนต่อ ม.4 ของโรงเรียนชื่อดังใน จ.ภูเก็ตที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท