Skip to main content
sharethis

แกนนำกลุ่มไทยไม่ทนฯ เมินตำรวจดำเนินคดีย้อนกลับ 'ประยุทธ์' คือต้นเหตุปล่อยปละละเลยให้โควิดระบาดทั้ง 3 รอบเป็นต้นเหตุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ควบคุมโรค ย้ำต้องรับผิดชอบเหมือน 'ยิ่งลักษณ์' ในคดีจำนำข้าวเตรียมฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีนายกฯ เร็วๆ นี้ จี้รมต.ติดโควิดลาออก จ่อชำแหละระบอบประยุทธ์ทางโซเชียลมีเดียหลังยุติชุมนุมชั่วคราว

8 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก Thai Intelligence Agency ว่า อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 แกนนำกลุ่ม ”ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามจะออกหมายเรียกกลุ่มสามัคคีประชาชนฯ 40 คนมาดำเนินคดีข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะถูกดำเนินคดีอะไร แต่ต้องย้อนถามว่า ใครเป็นต้นเหตุให้ต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับ พ.ร.บ.ควบคุมโรค โควิดระบาดรอบแรกมาจากการระบาดในสนามมวยลุมพินีของกองทัพบกและสถานบันเทินย่านทองหล่อ รอบสอบจากการค้าแรงงานเถื่อนและบ่อนการพนัน ส่วนรอบสามมาจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อที่มีรัฐมนตรีและส.ส.ในรัฐบาลเข้าไปใช้บริการด้วย ซึ่งการระบาดทั้งสามครั้งมาจากแหล่งอบายมุขและธุรกิจสีเทาที่ต้องจ่ายส่วยให้ผู้มีอำนาจในรัฐบาล ไม่ได้ระบาดจากประชาชนทั่วไปหรือจากผู้ชุมนุมแต่กลับใช้กฎหมายมาเล่นงานผู้ชุมนุม เพื่อปิดปากประชาชนไม่ให้ตรวจสอบความผิดพลาดล้มเหลวของตัวเอง ซึ่งหากไม่มีการระบาดมาจากแหล่งอบายมุขดังกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายมาบังคับใช้กับประชาชนแต่อย่างใดเลย 

“ต้นเหตุโควิดระบาดทั้ง 3 รอบจึงมาจากความบกพร่องของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเมื่อครั้งระบาดรอบสองผมเคยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชนและปลดผบ.ตร.แต่ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร รอบสามนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุด เพราะมีรัฐมนตรีและสส.รัฐบาลเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงถือว่าการ์ดตกเป็นการฝ่าฝืนนโยบายรัฐบาลและฝ่าฝืนพรบ.ควบคุมโรคซึ่งจะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่นายกฯก็ต้องสั่งปลด แต่นายกฯก็ไม่พ้นความผิดเช่นกัน ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดการระบาดทั้ง3รอบสร้างความหายนะต่อระบบเศรษฐกิจมหาศาล ทำให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ เดือดร้อนไปทั่วประเทศ และยังมีคนติดโควิดเสียชีวิตอีกด้วย เป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ มากกว่าโครงการจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เสียอีก แต่นายกฯกลับด่าประชาชนว่าขาดจิตสำนึก แล้วนายกฯกับครม.ยังมีสำนึกเหลืออยู่หรือไม่” อดุลย์ กล่าว

อดุลย์ กล่าวว่า หากใช้บรรทัดฐานเดียวกับคดีโครงการระบายข้าวแบบจีทูจีที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหาว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความผิดตามป.อาญามาตรา 157 ฐานละเว้นหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต จนศาลฏีกาสั่งจำคุก 5 ปี แม้ศาลปกครองกลางจะยกฟ้องไม่ต้องชดเชยความเสียหายทางแพ่ง 3.5 หมื่นล้านบาท แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะต้องมีความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยปละละเลยให้โควิดระบาดทั้ง 3 ครั้ง หากผู้นำรัฐบาลมีการบังคับใช้นโยบายและกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการปฏิรูปตำรวจตามสัญญาไม่ใช่ซื้อเวลาหมดเม็ดอย่างที่เป็นอยู่ ส่วยบ่อนการพนันแรงงานเถื่อนสถานบันเทิงก็จะหมดไปก็จะไม่เป็นเงื่อนไขให้เกิดการระบาดโควิด  ดังนั้น ทางกลุ่มสามัคคีประชาชนฯจะให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ในเร็วๆนี้

แกนนำกลุ่มไทยไม่ทนฯ กล่าวอีกว่า เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมเวทีสามัคคีประชาชนฯ ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม จึงยุติชั่วคราวแล้วใช้เวทีทางโซเชียลมีเดียแทน โดยจะเชิญชวนประชาชนทุกเสื้อสีและผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนของสังคม มาร่วมชำแหละความผิดพลาดล้มเหลวของระบอบประยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตระบัดสัตย์หลอกลวงไม่ได้สร้างความปรองดอง ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองสงบอย่างที่โฆษณา และยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกร้าวลึกกระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีการปฏิรูปประเทศ เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากขึ้น หากปล่อยให้มีอำนาจอีกต่อไปประเทศชาติจะเสียหายเกิดกลียุคเกินเยียวยาอย่างแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net