ทหารผ่านศึกคนข้ามเพศในอังกฤษประกาศคืนเหรียญตราเกียรติยศเนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลอนุรักษ์นิยมของอังกฤษยังปล่อยให้มีอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับ โดยส่งจดหมายเปิดผนึกระบุถึงเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน โดยตรง
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่เปิดให้คนข้ามเพศและผู้มีความหลากหลายทางเพศอื่นๆ เข้ารับราชการทหารได้อย่างเปิดเผยมาเป็นเวลามากกว่า 2 ทศวรรษแล้ว แต่ในจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน โดยทหารผ่านศึกคนข้ามเพศที่เคยผ่านสงครามอัฟกานิสถานก็ระบุถึงความ "น่ารังเกียจ" ของรัฐบาลที่ไม่ทำตามสัญญาในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงลดอุปสรรคที่กีดกันไม่ให้คนข้ามเพศสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ รวมถึงการที่รัฐบาลไม่ยอมปฏิรูปเปลี่ยนแปลงกฎหมายการรับรองเพศสถานะ
My friend who is a veteran wishes for me to share this anonymised letter she sent yesterday. She would like maximum visibility and publicity of this but to not be named. pic.twitter.com/yka4KxpWeJ
— Ada Hashtag Bowsette (@Ada_Grrrl) April 11, 2021
แอคเคาต์ทวิตเตอร์ "Ada Hashtag Bowsette @Ada_Grrrl" ทวีตจดหมายดังกล่าวโดยระบุว่าเป็นความประสงค์ของเพื่อนเธอต้องการให้สังคมได้รับรู้เรื่องนี้
จดหมายเปิดผนึกจากคนข้ามเพศที่ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า "ข้าพเจ้าไม่รู้สึกภาคภูมิใจอีกต่อไปที่จะรับใช้ประเทศที่เอาใจใส่คนแบบพวกเราน้อยมากในเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ"
มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกนี้ในโลกออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้เขียนระบุว่าเขาหรือเธอได้เปิดเผยตัวเองว่าเป็นคนข้ามเพศมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ในจดหมายระบุถึงความรู้สึกไม่พอใจทั้งต่อรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษและต่อระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS)
สาเหตุที่ทหารผ่านศึกคนข้ามเพศไม่พอใจในเรื่องเหล่านี้เป็นเพราะพวกเขาต้องรอเวลานานมากเพื่อเข้ารับบริการด้านสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศได้ แม้กระทั่งแค่นัดหมายครั้งแรกสำหรับคลินิคเพศสภาพก็อาจทำให้ผู้รับบริการต้องกันนานหลายปี
นอกจากนี้จดหมายยังระบุถึงเรื่องที่เขาหรือเธอสูญเสียศรัทธาในเรื่องที่พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษสัญญาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องที่พักอาศัยให้คนสามารถเข้าถึงเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ "อย่างเป็นประชาธิปไตย" มากขึ้น แต่ทหารผ่านศึกรายนี้ก็ระบุว่าเขาหรือเธอต้องใช้เงินที่ควรจะได้ใช้เก็บออมเพื่อจำนองที่ดินไปใช้กับบริการสุขภาพของคนข้ามเพศเองทำให้เธอสูญเสียโอกาสที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง จดหมายระบุว่า "ความไม่เท่าเทียมทางสุขภาวะมีมานานตั้งแต่ก่อนหน้าการระบาดของ COVID-19 แล้ว และแย่ลงกว่าเดิมหลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมเข้าสู่อำนาจในปี 2553"
ในจดหมายระบุอีกว่านายกรัฐมนตรีพรรคอนุรักษ์นิยมคนก่อนหน้านี้คือ เทเรซา เมย์ เคยให้สัญญาว่าจะปฏิรูปกฎหมายการรับรองเพศสถานะ (gender recognition) ในอังกฤษให้มีลักษณะการกีดกันทางการแพทย์น้อยลงและทำให้ระบบการรับรองเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้นในการให้บุคคลข้ามเพศสามารถเปลี่ยนแปลงเพศทางกฎหมายตามเพศสภาพตัวเองได้ ถึงแม้ว่าจะมีการหารือเรื่องการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2547 และได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างมาก แต่รัฐมนตรีด้านความเสมอภาค ลิซ ทรัสส์ ก็ยกเลิกแผนการปฏิรูปในเรื่องนี้ในเดือน ก.ย. 2563
จดหมายของคนข้ามเพศระบุว่า "ข้าพเจ้าปฏิเสธที่จะต้องอยู่ในระบบที่คนแปลกหน้าบอกข้าพเจ้าเอาเองว่าข้าพเจ้ามีเพศทางกฎหมายเป็นเพศใดโดยที่ไม่ได้มีการพิจารณา ไม่มีการคำนึงถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะบอกกล่าว หรือแม้กระทั่งไม่เคยพบเจอตัวข้าพเจ้ามาก่อน"
ทหารผ่านศึกคนข้ามเพศระบุในจดหมายอีกว่า"สำหรับพรรคการเมืองที่พูดพร่ำอยู่ตลอดในเรื่องเสรีภาพ, อิสรภาพของปัจเจกบุคคล และลดอุปสรรคกีดขวางในระบบราชการ การตัดสินใจที่จะไม่ยกเลิกการกำหนดเพศทางกฎหมายของข้าพเจ้า(จากฝ่ายรัฐ) นับเป็นความมือถือสากปากถือศีลอย่างฉาวโฉ่"
"ข้าพเจ้ารู้สึกไม่อยากจงรักภักดีต่อรัฐบาลหรือประเทศที่ปฏิบัติต่อคนข้ามเพศในแบบนี้"
เรียบเรียงจาก