ภาคประชาสังคมแถลง ประณามทหารพม่ายิงเรือชาวบ้านที่ส่งของบริจาคให้ผู้ลี้ภัย

 

ภาคประชาสังคมออกแถลงการณ์ ประณามทหารพม่ายิงเรือของชาวบ้านที่ส่งของบริจาคให้ผู้ลี้ภัย พร้อมปฏิเสธแนวทางของรัฐไทย ให้เรือชาวบ้านที่ขนของบริจาคผ่านด่านของกองทัพพม่า ต้องหยุดให้ทหารพม่าตรวจก่อนส่งให้ผู้ลี้ภัย เนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องสวัสดิภาพของชาวบ้าน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต     

รูปชาวบ้านจากสิกอท่า รัฐกะเหรี่ยง กำลังอพยพ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564

22 เม.ย. 2564 ประชาไทได้รับแจ้งจา กเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม ประกอบด้วย มูลนิธิศักยภาพชุมชน, มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล, ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน, เครือข่ายกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม แม่ฮ่องสอน, เครือข่ายทรัพยากร จังหวัดแม่ฮ่องสอน, กลุ่มไทยกะเหรี่ยง 22 องค์กร, เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย และ เครือข่ายสตรีชนเผ่าแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนไทย-พม่า ที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 มีเรือบรรทุกของบริจาคไปส่งให้ผู้ลี้ภัยถูกยิงโดยทหารพม่าจากค่ายกองทัพพม่าที่อยู่ตรงข้าม ต.ท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  

ขณะที่วันที่ 19 เม.ย. 2564 มีการประชุมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และคนขับเรือและร้านค้า ซึ่งมีข้อสรุปว่าอนุญาตให้ร้านค้า และคนขับเรือ สามารถไปส่งของให้ผู้ลี้ภัยได้ โดยต้องแจ้งให้ทหารไทยทราบ และต้องจอดให้ทหารพม่าตรวจของที่จุดตรวจ

แม้มติประชุมจะอนุญาตก็ตาม แต่ชาวบ้านยังไม่กล้าไปส่งของให้ผู้ลี้ภัย เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ที่ผ่านมาเคยมีผู้ที่ให้ทหารพม่าตรวจของแล้วถูกยึด เรียกเงิน จับเป็นตัวประกัน หรือเรียกไปยิง

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ระบุว่า ทางเครือข่ายฯ แสดงความเป็นห่วงต่อผู้ลี้ภัย หลังมีรายงานการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตรายในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น เครือข่ายฯ จึงมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทย-และนานาชาติ ด้วยกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย 

1. การช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบ เป็นหลักมนุษยธรรมสากลที่ต้องเคารพปฏิบัติให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิต และรักษากำลังใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไปจะไม่ทอดทิ้งแม้แต่คนเดียวไว้ข้างหลัง การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นค่านิยมสากลที่ได้รับการเคารพและเป็นหลักปฏิบัติทั่วโลก จึงเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศเคารพในหลักการสากลนี้ 

2. การที่ทหารพม่าทำการยิงเรือขนส่งของประชาชนไทยทำให้เกิดความกลัวจนไม่มีใครกล้าขนของไปส่งให้กับผู้ลี้ภัยเป็นการกระทำชั่วช้าผิดหลักการอย่างร้ายแรงต้องถูกประณามจากประชาคมโลก   

3. การที่อนุญาตให้เรือส่งของช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้แต่จะต้องถูกตรวจค้นโดยทหารพม่า ก่อนเป็นสิ่งเลวร้ายซ้ำซ้อนที่ไม่สามารถยอมรับได้ องค์กรภาคประชาสังคมได้ทำรายชื่อสิ่งของที่จะส่งให้ กาชาดไทยและแจ้งให้ทหารไทยทราบก่อนการจัดส่งแล้ว เราจึงปฏิเสธการตรวจค้นของทหารพม่าทั้งหมด

4. เป็นความเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยไม่ได้ให้การปกป้องพลเมืองแม้จะเป็นพลเมืองชนกลุ่มน้อยที่วิ่งเรือส่งของ และยอมให้ทหารพม่าตั้งเงื่อนไข จวบจ้วง แสดงอำนาจ เป็นสิ่งเลวร้ายที่ยอมรับไม่ได้เช่นกัน ควรอบรมทหารไทยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักมนุษยธรรมและยึดมั่นในหลักสากล รู้จักรักษาอธิปไตยของประเทศไม่ให้ทหารพม่ามาลบลู่

5. รัฐบาลไทยควรยืนยันไม่ผลักดันบุคคลสู่อันตราย และควรช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจนกว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพม่าจะยุติ

6. ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะถึงนี้ ขอให้รัฐบาลอาเซียน หยุดการกระทำเลวร้ายต่างๆ ที่ทหารพม่าได้กระทำต่อพลเมืองของตัวเอง และต่อพลเมืองไทยและต่อผู้ที่ลี้ภัยที่ต้องการช่วยเหลือ

7. ประชาคมโลก สหประชาชาติต้องรับทราบ ประณาม และรังเกียจ การกระทำเลวร้ายต่างๆของทหารพม่าที่กระทำต่อพลเมืองของตัวเอง ต่อผู้ลี้ภัยและต่อประชาชนไทยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย  

 

อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม 

 

แถลงการณ์ภาคประชาสังคมเรื่องการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทย- พม่า

องค์กรภาคประชาสังคมที่มีรายนามข้างล่างนี้ ทำงานเรื่องการส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้กับพี่น้องชาวพม่าที่หนีความรุนแรงจากการทำรัฐประหารของนายพลมินอ่องลาย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2564 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งและมีผู้อพยพมาอาศัยตามแนวชายแดนไทย พม่า จำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน องค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ช่วยกันรวบรวมสิ่งของของบริจาคและจัดส่งให้ผู้อพยพ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 และได้จัดส่งทุกวัน จนเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 มีเรือบรรทุกของไปส่งของให้ผู้ลี้ภัยถูกยิง วันที่ 19 เมษายน 2564 มีการประชุมที่ อ.บ.ต.แม่สามแลบ ประกอบด้วยผู้แทนฝ่ายทหาร ตำรวจ ปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และคนขับเรือและร้านค้า  

ผลจากการประชุมสรุปว่าให้เรือวิ่งไปส่งของได้ แต่ต้องแจ้งทหารไทยก่อนและตรงจุดตรวจทหารพม่าต้องจอดให้ทหารพม่าตรวจสิ่งของด้วย ใครกล้าก็วิ่งได้เลย ชาวบ้านคนเดินเรือมีความกังวลมาก กลัวทหารพม่ายึดของ เรียกเงิน จับเป็นตัวประกัน หรือเรียกไปยิง เพราะเคยมีคนเคยโดนกระทำเช่นที่ว่ามาแล้ว ชาวบ้านเกรงว่าทหาร KNU จะระแวงเพราะไปจอดให้ทหารพม่าตรวจของก่อน ของที่จะไปส่งอยู่ในพื้นที่ของ KNU ขณะนี้จึงยังไม่มีใครกล้าวิ่งเรือไปส่งของ ทำให้ผู้อพยพขาดแคลนของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต และผู้ลี้ภัยส่วนหนึ่งถูกผลักดันกลับไปฝั่งพม่าทั้งที่ยังไม่มีความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น 

องค์กรทั้งหมดที่มีชื่อข้างท้ายนี้ มีข้อกังวลต่อรัฐบาลไทย รัฐบาลพม่า รัฐบาลอาเซียน และประชาคมโลก ดังนี้ 

การช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบ เป็นหลักมนุษยธรรมสากลที่ต้องเคารพปฏิบัติให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิต และรักษากำลังใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไปจะไม่ทอดทิ้งแม้แต่คนเดียวไว้ข้างหลัง  การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นค่านิยมสากลที่ได้รับการเคารพและเป็นหลักปฏิบัติทั่วโลก  จึงเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศเคารพในหลักการสากลนี้ 

การที่ทหารพม่าทำการยิงเรือขนส่งของประชาชนไทยทำให้เกิดความกลัวจนไม่มีใครกล้าขนของไปส่งให้กับผู้ลี้ภัยเป็นการกระทำชั่วช้าผิดหลักการอย่างร้ายแรงต้องถูกประณามจากประชาคมโลก   

การที่อนุญาตให้เรือส่งของช่วยเหลือผู้ลี้ภัยได้แต่จะต้องถูกตรวจค้นโดยทหารพม่า ก่อนเป็นสิ่งเลวร้ายซ้ำซ้อนที่ไม่สามารถยอมรับได้ องค์กรภาคประชาสังคมได้ทำรายชื่อสิ่งของที่จะส่งให้ กาชาดไทยและแจ้งให้ทหารไทยทราบก่อนการจัดส่งแล้ว เราจึงปฏิเสธการตรวจค้นของทหารพม่าทั้งหมด

เป็นความเสียใจอย่างยิ่งที่ทหารไทยไม่ได้ให้การปกป้องพลเมืองแม้จะเป็นพลเมืองชนกลุ่มน้อยที่วิ่งเรือส่งของ และยอมให้ทหารพม่าตั้งเงื่อนไข จวบจ้วง แสดงอำนาจ เป็นสิ่งเลวร้ายที่ยอมรับไม่ได้เช่นกัน ควรอบรมทหารไทยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักมนุษยธรรมและยึดมั่นในหลักสากล รู้จักรักษาอธิปไตยของประเทศไม่ให้ทหารพม่ามาลบลู่

รัฐบาลไทยควรยืนยันไม่ผลักดันบุคคลสู่อันตราย และควรช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจนกว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพม่าจะยุติ

ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะถึงนี้ ขอให้รัฐบาลอาเซียน หยุดการกระทำเลวร้ายต่างๆ ที่ทหารพม่าได้กระทำต่อพลเมืองของตัวเอง และต่อพลเมืองไทยและต่อผู้ที่ลี้ภัยที่ต้องการช่วยเหลือ

ประชาคมโลก สหประชาชาติต้องรับทราบ ประณาม และรังเกียจ การกระทำเลวร้ายต่างๆของทหารพม่าที่กระทำต่อพลเมืองของตัวเอง ต่อผู้ลี้ภัยและต่อประชาชนไทยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย  

ขอให้ทหารพม่าหยุดปฏิบัติการชั่วช้าทั้งหมดโดยทันที 
                                   

ลงชื่อ  
มูลนิธิศักยภาพชุมชน
มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล
ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน 
เครือข่ายกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม แม่ฮ่องสอน
เครือข่ายทรัพยากร จังหวัดแม่ฮ่องสอน
กลุ่มไทยกะเหรี่ยง 22 องค์กร  
เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย 
เครือข่ายสตรีชนเผ่าแห่งประเทศไทย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท