มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และตัวแทนประชาชนร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ คัดค้านต่อสัมปทานบีทีเอสล่วงหน้า 38 ปี พร้อมเรียกร้องให้ปฏิรูประบบรถไฟฟ้า และทำระบบตั๋วร่วมในราคาที่สอดคล้องกับค่าครองชีพ
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานว่า 22 เม.ย. 2564 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และตัวแทนประชาชนร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อคัดค้านรัฐบาล กรณีเซ็นสัญญาต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเวลา 38 ปี โดยให้ผู้โดยสารรับภาระค่าโดยสาร 65 บาทต่อเที่ยว และเรียกร้องการปฏิรูประบบรถไฟฟ้ามวลชนและรถใต้ดินทั้งระบบให้เป็นระบบเดียว ทำระบบตั๋วร่วมใบเดียวใช้ได้ทุกสาย และในราคาที่ประชาชนทุกคนจ่ายได้ คือ 25 บาท หรือสูงสุดไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าแรงขั้นต่ำ
ประชาชนชูป้ายค้านการต่อสัมปทานบีทีเอส เรียกร้องค่ารถไฟฟ้าที่สอดคล้องค่าครองชีพ
จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจากการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนการคัดค้านรัฐบาลเซ็นสัญญาต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวกว่า 8 พันคน ของสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ข้อสรุปว่า คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการเซ็นสัญญา ปฏิรูประบบรถไฟฟ้าทุกสายให้เป็นการขนส่งมวลชนอย่างแท้จริง ด้วยการทำระบบตั๋วร่วม และทำราคาให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการได้ทุกวันโดยไม่ต้องแบกภาระราคาที่ประชาชนจ่ายได้จริง
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ สภาองค์กรของผู้บริโภค จึงเรียกร้องรัฐบาลให้รับฟังเสียงของประชาชนส่วนรวม โดยมีข้อเสนอ ดังนี้
1. ยุติการต่อสัมปทานสายสีเขียว
2. หาวิธีการทำสัญญาหรือต่อสัมปทานที่เหมาะสมกับระบบขนส่งสาธารณะ ที่ให้สาธารณะชนเข้าถึงได้
3. พิจารณาข้อเสนอสภาผู้บริโภค ราคารถไฟฟ้าสีเขียว 25 บาทตลอดสาย
4. บูรณาการระบบรถไฟฟ้าทั้งระบบให้เป็นระบบเดียว ที่ไม่สร้างความยุ่งยากให้แก่ผู้ใช้
5. พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะหารายได้จากมูลค่าที่ดินสิ่งก่อสร้างและธุรกิจรอบ ๆ สถานีรถไฟฟ้าเพื่อนำเงินมาอุดหนุนค่าใช้จ่ายของรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ และ สภาฯ ผู้บริโภค ยืนยันว่ารัฐบาลต้องยึดมั่นในหลักการการจัดบริการขั้นพื้นฐานที่ประชาชนเข้าถึงได้จริง ในราคาที่จ่ายได้จริงโดยคำนึงถึงค่าครองชีพของประชาชน เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงมากอยู่แล้ว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)