เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปเรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซีย วลาดิเมียร์ ชิชอฟ เพื่อประณามการที่รัสเซียสั่งกีดกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ทางการสหภาพยุโรปเข้าประเทศ โดยรัสเซียมีคำสั่งในเรื่องนี้เพื่อโต้ตอบการสั่งคว่ำบาตรชาวรัสเซียก่อนหน้านี้ หนึ่งในสาเหตุที่มีการคว่ำบาตรมาจากกรณีที่รัสเซียละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกรณีการวางยาพิษและคุมขังคนต่อต้านรัฐบาล อเล็กซี นาวาลนี

ความตึงเครียดทางการทูตระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรปทวีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่ทางการรัสเซียสั่งขับไล่ทูตสหภาพยุโรป หรือ อียู ออกไปในช่วงที่ผู้แทนระดับสูงของอียู ไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ทำให้ในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปเรียกตัว วลาดิเมียร์ ชิชอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย เพื่อประณามคำสั่งกีดกันทูตอียูโดยรัสเซีย

ทั้งนี้ ยังมีกรณีของ อเล็กซี นาวาลนี นักวิจารณ์รัสเซียที่ถูกจับกุมและกล่าวหาทางการรัสเซียว่าวางยาพิษเขา ซึ่งทางการอียูเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนาวาลนี และทำการขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ทางการรัสเซียในฐานะที่ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป แถลงว่า พวกเขาได้เรียกตัว ชิชอฟ เข้าพบเพื่อประณามการตัดสินใจของทางการรัสเซียในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มีการแบนผู้แทนยุโรปในการเข้าสู่เขตแดนของรัสเซีย ซึ่งทางการอียู เชื่อว่า การตัดสินใจของรัสเซียเป็นการตัดสินใจที่มีแรงจูงใจทางการเมืองล้วนๆ และไม่มีความชอบธรรมใดๆ ทางกฎหมาย

กลุ่มผู้แทนอียูที่ถูกขับไล่กีดกันจากรัสเซียเป็นกลุ่มนักการทูตสัญชาติเช็ก พวกเขาถูกแบนจากคำสั่งบริหารพิเศษของรัสเซียที่อ้างว่าเป็นการสกัดกั้น "รัฐที่ไม่เป็นมิตร" โดยมีการแบนวีซ่า เวียรา ยัวโรวา รองประธานด้านค่านิยมและความโปร่งใสของกรรมาธิการยุโรป, เดวิด ซาสโซลี ประธานสภายุโรป และ จาคส์ แมร์ สมาขิกผู้แทนฝรั่งเศสประจำรัฐสภาสหภาพยุโรป

ชิซอฟ ระบุในถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาต้องการ "ย้ำถึงความสำคัญเกี่ยวกับความพยายามทางการทูตในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีในการเจรจาหารือกันระหว่างรัสเซียกับอียู" และกล่าวย้ำว่า รัสเซียมีความพร้อมที่จะพยายามจัดการกับสถานการณ์นี้

ขณะที่ฝ่ายสหภาพยุโรปมีแผนการจะเข้าพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ และอาจจะเข้าหาสภายุโรปกับกลุ่มอื่นๆ ที่รัสเซียเป็นสมาชิกเพื่อหาทางโต้ตอบกับสถานการณ์ที่ทางอียูบอกว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัสเซียที่ยังคงดำเนินอยู่ ในเรื่องข้อกล่าวหานี้ทางการรัสเซีย เคยโต้ตอบว่า อียู "แทรกแซงกิจการภายใน" ของพวกเขาและปฏิเสธว่ารัสเซียไม่ได้ทำอะไรผิด

อเล็กซี นาวาลนี นักวิจารณ์ชาวรัสเซีย (ที่มา common wikimedia)

หนึ่งในกรณีที่ถูกอ้างอิงถึงคือกรณีนาวาลนี ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของรัสเซียที่ถูกจับกุมเมื่อเดือน ม.ค. หลังจากที่ต้องไปพักรักษาตัวจากการถูกวางยาพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทชื่อโนวิช็อก โดยที่นาวาลนี กล่าวหาว่า รัสเซียเป็นผู้ก่อเหตุเช่นนี้

นอกจากนี้ ยังมีกรณีอื่นๆ ที่ทำให้อียูตัดสินใจคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ทางการรัสเซีย คือ ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีกรณีที่เจ้าหน้าที่ทางการในเชชเนีย 2 นาย ถูกกล่าวหาว่าทำการปราบปรามคนที่เป็นเกย์ และเลสเบียน จึงมีการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เหล่านี้ และในเดือนเดียวกัน อียูยังคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซียที่มีความใกล้ชิดกับผู้นำวลาดิเมียร์ ปูติน อีก 4 นาย

แปลและเรียบเรียงจาก

EU summons Russian envoy over travel bans on Brussels officials, Aljazeera, 03-05-2021