ศาลไม่เบิกตัว “เพนกวิน-แอมมี่-ไมค์”มาไต่สวนประกันที่ศาล อ้างผลตรวจโควิด-19 ออกมาก่อนครบกำหนดกักตัว 14 วันให้เลื่อนไต่สวนไปวันที่ 11 พ.ค.นี้ ทั้งที่ผลตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 3 คน ส่วนทนายอานนท์ยังรอราชทัณฑ์ทำเอกสารส่งตัวรักษาโควิด-19 ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต ทนายเร่งขอให้ส่งตัววันนี้

สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์

7 พ.ค.2564 วันนี้ทนายความของพริษฐ์ ชิวารักษ์หรือ เพนกวิน และไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดินทางมาศาลยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการประกันตัวของทั้ง 2 คน แต่ศาลให้เลื่อนการไต่สวนออกไปเป็นวันที่ 11 พ.ค.2564 โดยอ้างว่าผลการตรวจโควิด-19 ของพวกเขาเกิดขึ้นก่อนครบกำหนดกักตัว 14 วัน จึงไม่เบิกตัวมาศาลเพื่อทำการไต่สวนในวันนี้ อีกทั้งทนายความยังได้ยื่นขอประกันตัวภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ด้วย ซึ่งศาลก็นัดไต่สวนในวันเดียวกัน

กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่าทางราชทัณฑ์ตรวจหาเชื้อทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาก็ไม่พบว่าทั้ง 3 คนติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด

สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของพริษฐ์ กล่าวว่าจากที่เมื่อวานนี้มีการเลื่อนไต่สวนมาจากเมื่อวานนี้ที่ศาลบอกว่าถ้ามีผลตรวจโควิด-19 แล้วจะไต่สวนให้ เธอจึงไปหาผลตรวจมาได้แล้วแต่ศาลก็ยังอ้างด้วยเหตุผลดังกล่าวเพื่อเลื่อนการไต่สวนออกไปอีก

“ก็ต้องจับตาดูว่า 11 นี้จะมีคำอ้างอะไรอีกมั้ย แล้วเลื่อนไปทุกวินาทีที่คุณเลื่อนโควิด-19 มันไม่ได้หยุดทำงาน แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าติด(เชื้อ) เท่านี้แล้วก็หยุด แต่มันก็จะติดกันเพิ่มอีกทุกวันแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ตรวจวันนี้แล้วไม่เจอหลังจากนั้นตรวจแล้วเจอว่าติด ใครรับผิดชอบ” สุรีย์รัตน์ยังบอกอีกว่าก็พยายามเอาพริษฐ์ออกมาแบ่งเบาภาระราชทัณฑ์และกันข้อครหาลดข้อขัดแย้งต่อระบบยุติธรรมไทยแต่ก็ก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

แม่ของพริษฐ์กล่าวว่าทางทนายความได้มีการปรึกษากับทางศาลแล้วว่าจะขอเป็นการไต่สวนทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้วและคิดว่าทางพริษฐ์เองก็ไม่มีปัญหาแต่ทางศาลก็ไม่รับจะให้เบิกตัวมาศาลความลำบากก็ไปตกอยู่ที่เด็ก

“คนที่ถูกจับกุมกักขังเนี่ยเขาต้องการรอวันที่จะมีอิสรภาพ ทุกเวลาทุกนาทีเขามีค่าเขาอยากออก แล้วยิ่งในนั้นมีแต่โควิดเขาก็ยิ่งอยากออก ทุกคนหนีตาย”

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ทางราชทัณฑ์แถลงว่าได้เอาตัวพริษฐ์กลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว สุรีย์รัตน์กล่าวว่าวันนี้ก็จะไปขอเยี่ยมพริษฐ์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อเพื่อดูว่าถูกย้ายกลับไปจริงหรือไม่ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกชายที่ถูกย้ายตัวในเวลากลางคืนแล้วที่คิดว่าวันนี้พริษฐ์จะถูกเบิกตัวมาไต่สวนที่ศาลก็ไม่ได้ถูกนำตัวมาอีก

แม่เพนกวินยังไม่ได้เยี่ยมลูก รพ.ราชทัณฑ์อ้างผิดระเบียบ

17.40 น. หลังจากเช้าวันนี้สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แจ้งหลังจากเสร็จกระบวนการพิจารณาคดีของลูกชายที่ศาลอาญา รัชดาฯ จะไปเยี่ยมพริษฐ์ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อเพื่อขอพบหลังจากมีข่าวการย้ายตัวพริษฐ์กลับจากโรงพยาบาลรามาธิบดีมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อวานนี้

สุรีย์รัตน์ กล่าวว่าได้ไปถึงโรงพยาบาลราชทัณฑ์ราวบ่าย 2 โมงและแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อขอเยี่ยมพริษฐ์ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบอกว่าให้เยี่ยมไม่ได้ผิดระเบียบของทางโรงพยาบาล ทั้งที่เธอขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยต่อโทรศัพท์ให้ก็บอกว่าไม่ได้และยังมีการตะคอกใส่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้เยี่ยมแล้วเธอจึงเดินทางกลับบ้าน

แม่ของพริษฐ์กล่าวต่อว่า หลังจากกลับถึงบ้านแล้วเธอได้ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วโทรศัพท์ไปโดยปลายสายระบุว่าตัวเองเป็น ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์บอกว่าไม่ได้ห้ามเยี่ยมและบอกว่าให้กลับไปเยี่ยมได้ภายในวันนี้ แต่สุรีย์รัตน์บอกว่าไม่สามารถกลับไปได้ทันเพราะใกล้หมดเวลาราชการแล้วจะขอไปเยี่ยมพรุ่งนี้(8 พ.ค.) แทน แต่ถูกปฏิเสธโดยอ้างว่าเป็นวันหยุด

สุรีย์รัตน์กล่าวถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของพริษฐ์ที่ขณะนี้ทั้งเธอตัวเองและทางทนายความก็ยังไม่ได้พบตัวพริษฐ์ตั้งแต่มีข่าวว่าทางเรือนจำคุมตัวพริษฐ์กลับไปจากโรงพยาบาลรามาธิบดีกลางดึก และทำให้ตอนนี้ลูกชายไม่สามารถสื่อสารกับข้างนอกได้เลย

สุรีย์รัตน์กล่าวอีกว่า ทั้งที่เธอคิดว่าจะได้พบตัวลูกชายในการไต่สวนที่ศาลในวันนี้ แต่ศาลก็เลื่อนออกไปเป็นวันอังคารที่ 11 พ.ค. อีกด้วยเหตุผลเรื่องผลการตรวจโควิด-19 เกิดขึ้นก่อนวันครบกำหนดกักตัว แล้วก็ไม่รู้ว่าพอถึงนัดหน้าศาลจะหาเหตุอะไรมาเลื่อนอีกหรือไม่

ทั้งนี้ ก่อนที่ทางประชาไทจะได้สัมภาษณ์สุรีย์รัตน์ ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า อายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่าพริษฐ์กลับมารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลของราชทัณท์ ไม่ได้หายตัวไปไหน ญาติสามารถติดต่อขอเยี่ยมผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ ได้ตามปกติ

นอกจากนั้นข่าวสดยังรายงานอีกว่า สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาทวีตชี้แจงว่าได้คุยกับทาง รพ.ราชทัณฑ์ และได้คำยืนยันว่า เพนกวินปลอดภัยดี ประสานผ่านศูนย์ทนายฯ ให้แม่รีบกลับไปที่ รพ.ราชทัณฑ์อีกครั้ง ก่อนหมดเวลาทำการ

ทนายอานนท์ยังรอราชทัณฑ์ส่งตัวรักษาโควิด-19

ส่วนกรณีของอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ครอบครัวชี้แจงผ่านเพจของเขาว่าอานนท์ไม่สามารถคุยกับทนายความได้เนื่องจากมีไข้จนต้องเช็ดตัวตลอดเวลา มีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 วัน จนเมื่อวานนี้จึงมีการยืนยันจากทางราชทัณฑ์ยืนยันผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างถูกขังในระหว่างพิจารณาคดี

เมื่อเวลา 11.45 น. พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลความคืบหน้าของการขอให้ทางราชทัณฑ์ส่งตัวอานนท์ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต เบื้องต้นเช้าวันนี้ทางราชทัณฑ์แจ้งว่ายังอยู่ระหว่างส่งเอกสารถึงโรงพยาบาลเพื่อให้ส่งตัวไปรักษาอยู่

พูนสุขกล่าวถึงอาการล่าสุดของอานนท์ที่ได้รับทราบจากทางเรือนจำฯ ขณะนี้ไม่มีไข้ ความดันปกติ ค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 98% และเมื่อวานนี้จากการตรวจยังไม่พบเชื้อในปอด

จากนั้นเวลา 12.40 น. กฤษฎางค์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าเบื้องต้นทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จะรับไปรักษาแน่นอนแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างรอราชทัณฑ์ดำเนินการทางเอกสารอานนท์จึงยังไม่ถูกส่งตัวไป

กฤษฎางค์กล่าวต่อว่าตอนนี้ทางแม่ของอานนท์เห็นว่าอยากให้อานนท์ได้รับการรักษาก่อนและกังวลเรื่องอาการเจ็บป่วยมากจึงยังไม่ได้ทำเรื่องประกันตัวถ้าหากมีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็ยอมรับได้ ซึ่งทางทนายความก็ได้พยายามเร่งให้ส่งตัวอานนท์ไปรักษาภายในวันนี้ แต่การส่งตัวไปนี้ก็ยังถือว่ายังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อยู่เหมือนในกรณีที่มีการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนทราบว่าเมื่อ 16.27 น. ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพกำลังนำตัวอานนท์ นำภาส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต แล้ว

ทั้งนี้กรณีของอานนท์เกิดขึ้นทีหลังจาก ชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสตินมีอาการไข้มาตั้งแต่ราววันที่ 17-18 เม.ย.2564 และทางเรือนจำได้เก็บตัวอย่างไปตรวจหาเชื้อในวันที่ 23 เม.ย.และราชทัณฑ์ได้แถลงยืนยันว่าชูเกียรติติดโควิด-19 จริง

แม้ว่าวันที่ 25 เม.ย.ทางราชทัณฑ์จะออกมาแถลงผลการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 35 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ 9 ราย และผู้ต้องขัง 26 รายซึ่งรวมถึงแกนนำกลุ่มราษฎรด้วย เบื้องต้นไม่พบเชื้อทุกรายและให้แยกกักตัวเป็นเวลา 14 วันและทำการตรวจหาเชื้อซ้ำ

แต่ในการแถลงวันเดียวกันทางเรือนจำก็ระบุว่าในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 10 รายเป็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย และผู้ต้องขัง 9 ราย โดย 8 ใน 9 รายที่เป็นผู้ต้องขังยังเป็นผู้ช่วยงานเจ้าพนักงานเรือนจำในการตรวจผู้ต้องขังที่เข้าเรือนจำใหม่และไปกลับศาลอีกด้วย ซึ่งผู้ต้องขัง 8 รายนี้ติดเชื้อจากเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อและส่งตัวรักษาไปก่อนหน้านั้น