โลกออนไลน์ถกเถียงกันเรื่องพิชัยสงคราม “อย่าเปลี่ยนม้ากลางศึก” แน่ใจนะว่าเป็นม้า ไม่ใช่ลา? แน่ใจนะว่าเราขี่มัน ไม่ใช่มันขี่เรา?

ไม่รู้เกี่ยวกับฝ่ายค้านไล่ประยุทธ์หรือเปล่า แต่ถ้าเปรียบเทียบกัน ประยุทธ์ไม่ใช่ม้า ไม่มีทางไล่ได้ ประชาชนไม่ได้ขี่ประยุทธ์ ประยุทธ์ต่างหาก ขี่อยู่เหนือกติกา

จะบริหารประเทศดีแย่แค่ไหน จะได้ขึ้นสวรรค์ หรือได้ตายกันหมด ก็ไม่สามารถไล่ประยุทธ์

นั่นทั้งที่ประชาชนเดือดดาล เหลืออดกับการปล่อยปละละเลยให้มีโควิดรอบ 3 เหลืออดกับการบริหารไม่ทันสถานการณ์ กระทั่งผู้ป่วยรอเตียงตายคาบ้าน เหลืออดกับการจัดซื้อวัคซีนที่ล่าช้า กระทั่งหอการค้า 40 CEO จะตั้งทีมจัดหาจัดฉีดเสียเอง

แต่ประยุทธ์ไม่เคยผิด รัฐบาลไม่มีใครผิดด้วยซ้ำ “หมอ ไม่ทน” ล่าชื่อไล่อนุทิน มีคนลงชื่อ 2 แสนกว่าคน ก็มีส่วนราชการ สธ.ชูป้ายปกป้อง ครั้นหมอหนุ่มสวนนาย ทำไมต้องเชลียร์ ก็จะโดนสอบวินัยจนต้องลบโพสต์

ซึ่งยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นต่อผู้บริหารสาธารณสุขตกต่ำ ประชาชนตั้งคำถามถึงความเป็นมืออาชีพ

“หมอหนู” โดนกดดันจนโบ้ย ทำตามคำสั่งนายกฯ ศบค. single command ตั้งแต่ปีที่แล้ว สธ.เสนออะไร ศบค.ไม่เห็นด้วยก็ต้องแก้ไข ลูกพรรคก็โวยประยุทธ์ถนัดใช้อำนาจพิเศษ เอา สมช. นั่งหัวโต๊ะแทนที่จะเป็น สธ.

แต่พอประยุทธ์ทุบโต๊ะ ก็เงียบกันหมด รวมทั้ง ปชป. ที่ออกอาการไม่พอใจ ส่งธรรมนัสไปคุมจังหวัดใต้ ลูกพรรคที่ทะเลาะกันวุ่นวาย ก็กลับมาเรียงหน้าด่าฝ่ายค้าน ลูกพรรคภูมิใจไทยก็เปลี่ยนมาอ้อนขอความเห็นใจ อนุทินเสียสละ รับดาบแทนเหวอะหวะ (ทั้งข้างหน้าข้างหลัง)

ครม.มอบอำนาจให้ประยุทธ์สั่งการกฎหมาย 31 ฉบับแทนรัฐมนตรี ประชาชนเพิ่งรู้นะนี่ ว่าประยุทธ์ไม่มีอำนาจ จัดการ โควิดไม่ได้ ปล่อยให้บริหารกันเละเทะ

รัฐจัดหาวัคซีนล่าช้า ก็แก้ไขใหม่ เรียกภาคเอกชนไปทำความเข้าใจ รัฐไม่ได้ช้า แต่เอกชนเข้าใจผิด ที่เคยบอกจะให้เอกชนจัดหาผ่านองค์การเภสัช เอามาฉีดพนักงาน เอามาฉีดตาม ร.พ.เอกชน ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว รัฐบาลตั้งตัวได้แล้ว จะซื้อเพิ่ม 35 ล้านโดส คุยว่าได้สปุตนิก 5-10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส แต่อันดับแรก ซื้อซิโนแวคเพิ่ม 5 แสนโดส

พอมีข่าว ไฟเซอร์เสนอขาย 4 ครั้ง รัฐบาลปฏิเสธ แต่ตอนหลังไปกราบเขา ก็โต้ว่า “ไม่เคยปฏิเสธการเข้าพบ” แต่ที่ซื้อภายหลังเพราะไฟเซอร์ปรับปรุงการเก็บรักษาอุณหภูมิไม่ต้องต่ำมาก

เหมือนผลข้างเคียงซิโนแวคก็บอกไม่ใช่อัมพฤกษ์ แค่คล้ายอัมพฤกษ์ คนอินเดียไม่ได้เช่าเหมาลำมาเมืองไทย แค่มากันเป็น กลุ่มก้อนใหญ่ ทหารพม่าก็ไม่ได้ยิงเรือไทย แค่อยากซื้อของ เป็นความเข้าใจผิด

แต่ช่างเถอะ ตอนนี้คนไทยที่พอมีเงิน บินไปฉีดวัคซีนอเมริกา จัดทัวร์ไปเซอร์เบีย ไม่รอวัคซีนแอสตราของรัฐบาลแล้ว

ประยุทธ์ไม่มีทางลาออก พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่กล้าถอนตัว มีแต่กลัวหัวหด เมื่อโดนขู่ว่ารู้นะ ใครนินทา (รู้สิ นินทาเกือบหมดนั่นแหละ) ต้องอยู่กับประยุทธ์ไปจนยุบสภา หรือครบวาระ เพราะอีกด้านก็เกลือกกลั้วจนไม่สามารถหวนมาจับมือฝ่ายค้าน หรือต่อให้จับมือได้ ก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาล ไม่มีทางเอาชนะ 250 ส.ว.

ประยุทธ์ปัดสวะ รัฐบาลล้มเหลวไม่เกี่ยวกับตัว ตอนนี้มีอำนาจเต็มแล้วนะ จะปราบโควิดขึงขังเฉียบขาด แค่รวบอำนาจวันเดียว โควิดก็ต่ำกว่าสองพัน นี่จะเพิ่มมาตรการคุมเข้ม ห้ามนั่งร้านอาหาร บังคับใส่หน้ากาก ซึ่งประยุทธ์ทำตัวเป็นเยี่ยงอย่าง คือทำผิดเสียเอง แล้วเรียกผู้ว่าฯ กทม. ผบช.น. ยกขบวนไปปรับหกพันบาท

เข้าอีหรอบเดิม ทำให้ประชาชนเชื่อว่าปราบโควิดได้ด้วยอำนาจบังคับ ทั้งที่เป็นผลจากประชาชนระมัดระวังตัว ร่วมมือกัน ผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุขทำงานหนัก แต่ไม่ใช่รัฐบาล

ไม่ต้องบังคับใส่หน้ากาก ประชาชน 99% ก็ใส่หน้ากากอยู่แล้ว พอใช้อำนาจบังคับก็ไปไล่จับ 1% แล้วชี้หน้าว่า เป็นเพราะไอ้พวกนี้ไม่รับผิดชอบสังคม ไม่ใช่ความล้มเหลวของรัฐ

จากนั้นก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน “รวมไทยสร้างชาติ” ประเทศไทยต้องชนะ ฯลฯ ฝ่ายค้านอย่าโจมตี เป็นพวกไม่รักประเทศ

สูตรเดิมทั้งนั้น ยังคิดว่าประชาชนรู้ไม่ทัน มัวแต่ส่องเฟซรัฐมนตรี ไม่ส่องเฟซชาวบ้านบ้าง ชาวบ้านไม่ได้นินทา เขาด่าอย่างเปิดเผย และไม่ใช่แค่ม็อบหรือขาประจำ แต่ครั้งนี้เดือดดาลรุนแรงกว้างขวางกว่า

เครือข่ายอำนาจยังไม่ตระหนักว่า ความไม่พอใจรัฐบาล ความไม่พอใจตู่ กำลังจะปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยถ้าไม่มีทางออก มีแต่ทางตัน ก็จะเกิดการเคลื่อนไหวใหญ่กว่าปีที่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ กระแสจะพุ่งที่ “ประยุทธ์ออกไป” และแก้รัฐธรรมนูญไม่ให้ 250 ส.ว.เลือกกลับมา

อันที่จริงนี่เป็นโอกาสดี เพราะถ้าแกนนำราษฎร ได้ประกัน ข้อเรียกร้องข้อ 3 จะถูกกลบไป และถ้ายอมสละประยุทธ์ ยอมให้คลี่คลายตามวิถีประชาธิปไตย แรงกดดันทั้งหมดก็จะลดลง

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6372512