Skip to main content
sharethis

แนวรบฝั่งตะวันออกของเมียนมาอาจกลับมาปะทุอีกครั้ง หลังมีข่าวกองทัพพม่าสั่งการ BGF เปิดปฏิบัติการยึดฐานคืนจาก KNLA กองพล 5 พื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ด้านทหารไทยผลักดันผู้ลี้ภัยกลับรัฐกะเหรี่ยง แม้เหตุการณ์สู้รบยังไม่สงบดี

ทหาร กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) จากแฟ้มภาพเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2558
 

10 พ.ค.64 สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย ด้านริมแม่น้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีการสู้รบระหว่างกองทัพพม่า และกองพล 5 แห่งกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ยังคงตึงเครียด แม้ไม่มีการปะทะกันมาแล้วหลายวัน แต่กองทัพพม่ายังคงส่งเครื่องบินลาดตระเวนมาคอยสำรวจพื้นที่กองพล 5 ต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านจำนวนนับพันคนรู้สึกหวาดกลัวการโจมตีทางอากาศจากพม่า 

ขณะที่ทหารไทยผลักดันผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเหรี่ยงที่ข้ามแม่น้ำสาละวินมาฝั่งไทยตั้งแต่ 27 เม.ย.64 เป็นต้นมา กลับไปเป็นจำนวนมาก แม้ว่าสถานการณ์แนวปะทะฝั่งตะวันออกของพม่ายังพร้อมจะกลับมาปะทุได้ตลอดเวลา 

อีกความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองจากกองทัพพม่า คือการเปลี่ยนยุทธวิธี โดยสั่งการให้กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ซึ่งเป็นอดีตกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) เข้ามายึดพื้นที่ฐานทหารพม่าคืนหลังจากถูกทหาร KNLA ยึดไปได้หลายแห่ง

ทั้งนี้ สำนักข่าวกะเหรี่ยง KIC ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์พันเอกเกลอะโด โฆษกกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) กองพลที่ 5 ซึ่งระบุว่ายังไม่ได้รับรายงานกรณีที่มีข่าวว่า BGF เคลื่อนกำลังพลข้ามแม่น้ำสาละวินมาถึงเมืองผาปูนแล้ว 

“หากทหาร BGF ประจำการอยู่ที่เมืองผาปูน ก็คงไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่หากพวกเขาปฏิบัติการนอกพื้นที่ ก็คงมีเหตุการณ์บางอย่างแน่นอน แต่ปกติแล้ว หากกองกำลัง BGF ปฏิบัติการนอกพื้นที่ มักมีการใช้กำลังผสมร่วมกับกองทหารพม่า เพราะปกติ BGF ไม่ปฏิบัติการเองเพียงหน่วยเดียว ตอนนี้กระแสข่าวที่ว่า BGF เคลื่อนกำลังพลออกจากหมู่ที่ 3 ของเมืองผาปูน ซึ่งหากออกมาจากเส้นทางนั้น พื้นที่เป้าหมายมีได้ 2 ที่ คือ บ้านคอปู กับแหย่คี เป็นไปได้ทั้ง 2 พื้นที่” โฆษกกองกำลังกะเหรี่ยง KNU กล่าว

มีรายงานข่าวว่ากองกำลัง BGF กำลังถูกสั่งการให้ร่วมกับทหารพม่า เพื่อพยายามยึดคืนฐานที่มั่นต่างๆ ในรัฐกะเหรี่ยง โดยเฉพาะฐานซอแลท่า ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวการขนส่งข้าวสาร และยุทโธปกรณ์ของทหารพม่า จากด่านเมียวดี ขนส่งผ่านประเทศไทย จำนวน 700 กระสอบ และต่อมาฐานดังกล่าวถูก KNLA ยึดได้ และทำการเผาฐานพม่าจนเป็นข่าวไปทั่วโลก

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน พลเอกบอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA ได้ส่งสาส์นถึงกองกำลังกะเหรี่ยงทุกกลุ่ม ว่าการใช้ยุทธวิธีโจมตีทางอากาศของกองทัพพม่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าทหารพม่านั้นอ่อนแอในปฏิบัติการภาคพื้น ไม่สามารถส่งกำลังเสริมเข้ามายังพื้นที่แนวหน้า จึงต้องการใช้กองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ในการปฏิบัติการช่วยเหลือกองทัพพม่า

KNLA สวนสนามวันครบรอบ 70 ปี วันปฏิวัติกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 31 ม.ค.62

ด้านพลเอกมูตูเซโพ ประธาน KNU ได้ออกแถลงการณ์ส่วนตัว เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในกรอบ NCA และรักษาสันติภาพ โดยระบุว่า สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU จะยังคงยึดมั่นในกรอบและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกรอบของข้อตกลงหยุดยิง (NCA) และรักษาสันติภาพ 

“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในปี พ.ศ.2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่า มีความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตทางการเมืองด้วยกำลัง” ประธาน KNU กล่าว พร้อมระบุว่า ตนเองตั้งใจที่จะหาทางออกทางการเมืองสำหรับวิกฤตการณ์ทางการเมืองในพม่าผ่านการเจรจาหารือ ซึ่ง KNU ได้เข้าร่วมเริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพในปี พ.ศ.2558 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีเต็งเส่ง ต่อมามีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) กับกองกำลังพันธุ์ 8 กลุ่ม

สำหรับสถานการณ์ด้านพรมแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำสาละวิน ได้มีชาวบ้านที่ถูกผลักดันกลับไปฝั่งรัฐกะเหรี่ยงเมื่อ 2-3 วันก่อน แต่ได้มีเครื่องบินทหารพม่าเข้ามาโจมตีในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากพื้นที่หลบภัย จึงส่งผลให้ชาวบ้านต้องหนีภัยความตาย ข้ามแม่น้ำสาละวินกลับมาหลบภัยอยู่ฝั่งไทยอีกครั้ง ล่าสุด กลุ่มบรรเทาทุกข์กะเหรี่ยง ระบุว่ามีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 149 ครัวเรือน หรือ 1,058 คน

ในวันเดียวกัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนกะเหรี่ยง หรือ Karen Human Rights Group ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.64 เครื่องบินรบและโดรนตรวจการณ์ของกองทัพพม่าบินเข้ามาในพื้นที่ จ.มือตรอ ทุกๆ คืน นอกจากนี้ ทหารพม่าตามฐานต่างๆ ได้ยิงปืนใหญ่ลงหมู่บ้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองได้ ต้องหนีหลบซ่อนตามป่า และลำห้วยต่างๆ จำนวนหนึ่งต้องหนีมายังประเทศไทยเป็นการชั่วคราว

ส่วนฝั่งไทยมีรายงานว่า ได้มีการเสริมกำลังของทหารไทยจำนวนเพิ่มขึ้นมาก มีการเพิ่มยุทโธปกรณ์ รวมทั้งปืนใหญ่ และมีการขนส่งของเข้าไปยังฐานที่หมู่บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งฝั่งตรงข้าม คือ ฐานแม่คาท่า หรือดากวิน ของทหารพม่า ที่มีการปะทะกับ KNLA ในช่วงปลายเดือน เม.ย. และกองทัพพม่ามีการส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดรอบๆ ฐานและตลอดบริเวณชายแดน จนทำให้ชาวบ้านต้องอพยพจำนวนมาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net