ศาลให้ เพนกวิน พริษฐ์ และแอมมี่ ไชยอมร ประกันตัวภายใต้เงื่อนไข “ห้ามร่วมกิจกรรมที่เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์” ตำรวจสภ.เมืองร้อยเอ็ดอายัดตัวเพนกวินต่อแต่ยังให้ประกัน รวมใช้เงินประกันไป 8.5 แสนบาท ส่วนของไมค์ ภาณุพงษ์ ศาลเลื่อนไต่สวนประกันอ้างผลตรวจโควิด-19ครั้งล่าสุดห่างจากครั้งแรกน้อยเกินไปให้ราชทัณฑ์ตรวจใหม่อีกครั้งก่อนนัดไต่สวน

พริษฐ์และสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์(ขวา) ภาพจากนรเศรษฐ์ นาหนองตูม

11 พ.ค.2564 เมื่อเวลาประมาณ 18.27 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ที่ศาลอาญา รัชดาฯ หลังการไต่สวนการประกันตัวของพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ และภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ ศาลมีคำสั่งให้อนุญาตประกันตัวพริษฐ์และไชยอมรเพียงสองคน ส่วนของภาณุพงศ์ศาลให้เลื่อนการไต่สวนออกไปโดยศาลอ้างว่าผลการตรวจโควิด-19 ระยะห่างจากการตรวจครั้งแรกน้อยเกินไปให้ราชทัณฑ์ตรวจอีกครั้งแล้วจึงนัดไต่สวนใหม่

ทั้งนี้ศาลกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวคือห้ามกระทำการตามที่ถูกฟ้องหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยหลักทรัพย์ที่พริษฐ์ใช้ประกันตัวใน 2 คดี คือชุมนุมเมื่อ 19 ก.ย.2563 และคดี Mobfest คดีละ 200,000 บาท ส่วนไชยอมรใช้หลักทรัพย์ประกันในคดี 19 ก.ย.2563 เป็นเงินสด 50,000 บาท ส่วนคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 200,000 บาท

ทั้งนี้หลังจากผลประกันตัวออกมา กฤษฎางค์ นุตจรัส 1 ในทีมทนายความให้สัมภาษณ์ว่าสำหรับในส่วนของพริษฐ์วันนี้ตำรวจจากสภ.เมืองร้อยเอ็ดเตรียมนำหมายจับมาแสดงและรอควบคุมตัวพริษฐ์ต่อหลังปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเขาหวังว่าทางตำรวจจะไม่ควบคุมตัวต่อเพราะเหตุผลที่พริษฐ์ได้ประกันตัวในวันนี้เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหอบหืดที่เป็นโรคประจำตัวและอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิต

ตำรวจสภ.เมืองร้อยเอ็ดอายัดตัวครั้งนี้เพื่อนำตัวส่งให้อัยการในคดีจากกรณีจากชุมนุม #เจาะกะลาตามหาบักคำผาน ที่บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2563 ที่ตำรวจร้อยเอ็ดเคยไปแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหาคือ มาตรา 112, 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3) ตั้งแต่เมื่อ 30 พ.ย.2563 ที่สน.ชนะสงคราม

ทางทนายความได้ยื่นประกันตัวพริษฐ์ในชั้นตำรวจ ต่อมาเวลา 21.15 น.ตำรวจสภ.เมืองร้อยเอ็ดอนุญาตให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์จำนวน 200,000 บาท

ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ภาพโดย Thikamporn Tamtiang

ทั้งนี้จากการรายงานของศูนย์ทนายความฯ ยังกล่าวถึงกระบวนการและเนื้อหาของการไต่สวนวันนี้ว่า เวลา 10.25 น. เทวัญ รอดเจริญ และพิศิษฐ์ วิริยะพาณิชย์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกพิจารณาคดี และเริ่มไต่สวนคำร้องขอประกันของแอมมี่ในช่วงเช้า ตามด้วยเพนกวินจนเสร็จในเวลา 14.30 น. ก่อนพักเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะเริ่มไต่สวนคำร้องขอประกันของไมค์เวลา 15.00 น. แต่สุดท้ายแล้วเมื่อ 18.00 น. ศาลก็ให้เลื่อนการไต่สวนประกันตัวของภาณุพงศ์ออกไป

ไชยอมรได้เบิกความถึงปัญหาสุขภาพของตนที่ต้องได้รับการรักษาโรคกระจกตาโป่งพองและย้วยที่ตอนนี้ค่าสายตาเปลี่ยนและรับแสงได้น้อยลงทุกวันและมีโอกาสที่จะทำให้ตาบอดได้หากไม่ได้รับการรักษา และยังต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูกสาว 1 คน และเลี้ยงดูครอบครัวที่พ่อแม่ที่เกษียณ แล้วในคดีนี้พยานไม่ได้หลบหนีและตนก็ถูกจับระหว่างที่ไปพักผ่อนที่อยุธยาที่ไปประจำอยู่แล้วและยังมีธุรกิจที่นั่นด้วย

ส่วนพริษฐ์เบิกความว่าตนเรียนอยู่ที่คณะรัฐศาตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีที่ 4 และเคยได้รับรางวัลภ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพทั้ง 2 ครั้งในกิจกรรมตอบปัญหาตอนเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย

นอกจากนั้นทั้งพริษฐ์และไชยอมรยังเบิกความด้วยว่า หากศาลจะกำหนดเงื่อนไข ไม่พูดพาดพิงและไม่เข้าร่วมการชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบัน ไม่เดินทางออกนอกประเทศ และมาตามกำหนดนัดของศาลในการพิจารณาคดีทุกครั้ง พยานยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว โดยปัจจุบันนี้พยานได้แต่งตั้งทนายความในคดีนี้เข้ามาแล้ว และยินดีติดกำไลติดตามตัว (EM)

ทั้งนี้อัยการถามค้านพริษฐ์ว่าการที่จำเลยยอมรับเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวว่า จะไม่กระทำการใดๆ เป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ หมายรวมถึงในพื้นที่โซเชียลด้วยใช่หรือไม่ เพนกวินตอบว่า ผมไม่เคยใช้โซเชียลมีเดียทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียเลย

ส่วนพ่อแม่ของพริษฐ์เบิกความว่าพริษฐ์เป็นเด็กเรียนดีและถ้าไม่ถูกขังในคดีนี้พริษฐ์จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยเกียรตินิยมจึงเป็นเหตุให้มาขอศาลให้ประกันตัวลูกชายเพื่อให้ไปเรียนให้จบและหากศาลให้ประกันก็จะดูแลให้พริษฐ์ปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่งพริษฐ์จะเชื่อฟังพ่อแม่แน่นอน

นอกจากนั้น อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังเบิกความด้วยว่าพริษฐ์เป็นเด็กเรียนดีไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และพริษฐ์ยังได้รับผลกระทบจากการไม่ได้รับการประกันตัวทำให้ต้องพักการเรียนในภาคเรียนที่ผ่านมาทำให้เหลืออีก 2 เทอมในปีหน้าถึงจะจบการศึกษาเขาเชื่อว่าพริษฐ์จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลและตนจะช่วยดูแลความประพฤติของพริษฐ์ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว

นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มาเบิกความถึงความประพฤติของพริษฐ์ในเรือนจำอีกว่ามีความประพฤติเรียบร้อยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีไม่เคยฝ่าฝืนข้อกำหนดของเรือนจำ