บอร์ด สปสช.อนุมัติขอรับงบเงินกู้รอบ 3 รวม 9.8 พันล้าน รับมือวิกฤตโควิด-19 ช่วง เม.ย.-ก.ย. 64

บอร์ด สปสช. เห็นชอบกรอบวงเงินให้ สปสช.เตรียมเสนอขอเพิ่มเติมจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ รอบ 3 จำนวน 9.8 พันล้านบาท นำมาใช้เบิกจ่ายบริการโควิด-19 ช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.64 หลังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจนงบประมาณที่คาดไว้เดิมไม่เพียงพอ วางเป้าใช้ดูแลผู้ป่วยรวม 5.2 หมื่นคน ตรวจคัดกรอง 3.8 ล้านครั้ง

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.
 

13 พ.ค.64 ทีมสื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานวันนี้ (13 พ.ค.64) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 พิจารณาเห็นชอบกรอบวงเงินที่เสนอขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ รอบ 3 วงเงิน 9,847 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายเป็นค่าบริการกรณีโควิด-19 ในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ย. 64 โดยอาจมีการปรับแก้ไขตัวเลขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติพิจารณาอนุมัติต่อไป

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า ตามที่ได้ขอรับงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพื่อใช้ในสถานการณ์โควิด-19 รวม 2 ครั้งก่อนหน้านี้ คือ รอบที่ 1 เป็นเงินจำนวน 2,633 ล้านบาท มียอดการเบิกจ่ายใช้เกินจำนวนไป 600 ล้านบาท และรอบที่ 2 ได้มีการขอเป็นเงินจำนวน 3,652 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์แพร่ระบาดที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ทำให้งบประมาณที่เตรียมไว้จากเดิมที่คาดว่าจะใช้ได้ถึงเดือน พ.ค. ก็อาจจะไม่เพียงพอ

“เดิมเรามีการเบิกจ่ายเฉลี่ยเดือนละ 600 ล้านบาท แต่ปัจจุบันคาดว่าจะต้องใช้เฉลี่ยสูงถึงเดือนละ 1,500-2,000 ล้านบาท ดังนั้น เชื่อว่าอีกไม่เกิน 1 เดือน งบประมาณเดิมที่มีจะหมด จึงมีความจำเป็นต้องขอมติเพื่ออนุมัติเพิ่มเติมในครั้งนี้ โดยงบประมาณที่ขอไปเป็นการปรับคาดการณ์ใหม่เพื่อใช้เบิกจ่ายตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย. ที่พบการระบาดของโควิด-19 สูงขึ้นมาก” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ตามการคาดการณ์ใหม่นี้ เชื่อว่าด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น ทำให้มีส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณาการให้บริการในบ้านพักอาศัยเพิ่มเข้าไปด้วย รวมถึงปัจจัยของเชื้อที่มีการกลายพันธุ์ ซึ่งจะต้องมีการปรับวันสังเกตเชื้อเพิ่มจากประมาณ 10 วัน เป็น 14 วัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก็จะมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกมากขึ้น

สำหรับการคาดการณ์เป้าหมาย คาดการณ์จะมีผู้ป่วยเฉลี่ย จำนวน 750 คนต่อวันในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.64 ส่วนช่วง มิ.ย.-ก.ย. จำนวน 200 คนต่อวัน และผู้ป่วยในสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) จำนวน 15 คนต่อวัน รวมทั้งหมด 52,600 คน โดยยังคงคิดสัดส่วนระดับความรุนแรงของผู้ป่วยบนฐานเดิม คือ รุนแรงน้อย 93% รุนแรงปานกลาง 4% และรุนแรงมาก 3%

ในส่วนของการตรวจคัดกรอง RT-PCR ทุกสิทธิการรักษา จากเดิมอยู่ที่ราว 10,000 รายต่อวัน คาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 22,442 รายต่อวัน ทำให้ในรอบ 5-6 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะมีการตรวจคัดกรองรวมทั้งสิ้น 3,820,000 ครั้ง โดยค่าใช้จ่ายของบริการทั้งหมดคิดบนฐานของต้นทุนในราคาเท่าเดิม เมื่อนำมาหักลบกับงบประมาณที่ได้รับจาก พ.ร.ก.กู้เงินรอบที่ผ่านมาแล้ว จึงสรุปออกมาเป็นตัวเลขงบประมาณส่วนเติมที่จะต้องขอใหม่เป็นจำนวนวงเงิน 9,847 ล้านบาทดังกล่าว

“นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถนำงบประมาณไปใช้จ่ายได้ทันสถานการณ์ จึงมีข้อเสนอว่าเมื่อ ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณแล้ว ให้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ออกประกาศหลักเกณฑ์ฯ และเสนอต่อ รมว.สาธารณสุข ลงนามเพื่อประกาศใช้ทันทีเลย ไม่ต้องเอากลับมาเข้าบอร์ด สปสช.อีกเหมือนทุกครั้ง ขณะเดียวกัน ในช่วงรอยต่อของงบที่บางครั้งทำให้การเบิกจ่ายล่าช้า จึงยังได้ขอมติใช้งบจากกองทุนบัตรทองที่ไม่มีภาระผูกพัน สำรองจ่ายไปพลางก่อนได้” นพ.จเด็จ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท