เผย 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' ประสานตำรวจขอมอบตัว 17 พ.ค. นี้

หลายสื่อรายงานตรงกันว่ารองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเปิดเผยว่า 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' ประสานตำรวจขอมอบตัว 17 พ.ค. นี้ ส่วน 4 ผู้ต้องหาได้ประกันจากปัญหา COVID-19

16 พ.ค. 2564 สื่อหลายสำนัก อาทิ ไทยรัฐออนไลน์ ผู้จัดการออนไลน์ และมติชนออนไลน์ รายงานตรงกันว่าจากกรณีตำรวจกองปราบสนธิกำลังร่วมกับ บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน หลังร่วมกับพวกเปิดบริษัทดำเนินการในลักษณะหลอกลวงนักลงทุนหลายรูปแบบ อ้างจะได้รับผลตอบแทนสูง จนสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 4 คน

ประกอบด้วย พ.ท.พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข อายุ 34 ปี ประธานโครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม อายุ 33 ปี น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ อายุ 37 ปี และนายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ อายุ 40 ปี คงเหลือ นายประสิทธิ์ หัวหน้าขบวนการ กับ นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ตร.ตามจับ 'แม่ทัพไอโอ' หลังหลบหนีคดีฉ้อโกงพันล้าน จ่อเรียกนักการเมืองสอบต่อ

ล่าสุด (16 พ.ค.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมนายประสิทธิ์ และนายกิตติศักดิ์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำพยานบุคคล ผู้เสียหาย ประกอบกับตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ที่อาจต้องใช้เวลาอยู่บ้างเนื่องจากคดีมีความซับซ้อน ส่วนของการติดตามตัวสองผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่นั้นทราบว่านายประสิทธิ์ ประสานติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ป.วัน 17 พ.ค. แต่จะมามอบตัวหรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งตำรวจเองก็ยังคงสืบสวนติดตามจับกุมจนกว่าจะได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น จากการตรวจค้นภายในห้องทำงานส่วนตัวของนายประสิทธิ์ พบรูปถ่ายคู่กับข้าราชการ นักการเมือง และผู้มีชื่อเสียงทางสังคมเป็นจำนวนมาก จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่านายประสิทธิ์พยายามตีสนิทขอถ่ายรูปคู่กับบุคคลเหล่านี้เพื่อนำมาใช้สร้างภาพลักษณ์ โปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ ไว้สำหรับหลอกเหยื่อ โดยที่บุคคลเหล่านั้น อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

ขณะที่ 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น เบื้องต้นได้ขอประกันตัวในขั้นพนักงานสอบสวน วงเงินคนละ 4 แสนบาท แต่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. ไม่อนุญาตให้ประกันตัว และนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว แต่เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำขณะนี้ ศาลจึงได้พิจารณาให้ประกันตัว ในวงเงินประกันคนละ 4 แสนบาท และปล่อยตัวชั่วคราวไปก่อน

ก้าวไกลเตรียมชงเรื่องเข้า กมธ.เศรษฐกิจฯ เร่งรัดติดตามตรวจสอบหน่วยงานราชการ-กองทัพ เพื่อขอคืนเงินที่ 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' แม่ทัพไอโอฉ้อโกงประชาชนแล้วนำไปบริจาค

ด้านทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่าจากกรณีที่กองบังคับการปราบปราม เข้าจับกุมเครือข่ายบริษัทที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีผู้เสียหายนับพันราย โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังจับกุมไม่ได้ คือ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการ “คืนคุณแผ่นดิน” ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญของคดีฉ้อโกงประชาชนในครั้งนี้

ต่อกรณีนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2564 ที่พรรคก้าวไกล ว่าภายในสัปดาห์หน้า ได้เตรียมทำเรื่องร้องเรียนไปยัง นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเชิญหน่วยงานราชการทั้งหมด ที่เคยปรากฏว่ารับเงินสนับสนุนจากนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่า เงินบริจาค หรือการสนับสนุน ที่ได้รับจากนายประสิทธิ์ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเงินของประชาชนผู้เสียหายหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง จะจงใจ หรือไม่จงใจก็ดี ก็จะเร่งหาแนวทางในการอายัด และเรียกคืนเงินเหล่านั้น เพื่อนำมาคืนให้กับประชาชนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด รวมทั้งจะเร่งหารือถึงแนวทางในการอายัดทรัพย์สินของนายประสิทธิ์ ตลอดจนมาตรการอื่นๆ ที่จะทุเลาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย และสามารถเรียกเงินคืนกลับมาให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดต่อไป

พรรคก้าวไกลยังเรียกร้องให้หน่วยงานของกองทัพและหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เคยลงนามความร่วมมือกับนายประสิทธิ์ ทุกหน่วยงานทราบอยู่แล้วว่า หน่วยงานของตนเคยได้รับเงินบริจาค หรือได้รับการสนับสนุนอะไร เป็นมูลค่าเท่าไหร่ จากนายประสิทธิ์มาบ้าง จึงขอให้หน่วยงานดังกล่าวเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง และแจ้งจำนวนเงินดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ เพื่อดำเนินการคืนให้กับประชาชนผู้เสียหายต่อไป จะเพิกเฉยไม่ได้ เพราะกรณีนี้มีประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เป็นจำนวนมาก หลายคนต้องสูญเงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิต หลายคนต้องมีหนี้สินล้นพ้นตัว ซึ่งยังหาทางออกในชีวิตไม่ได้

โดยวิโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่ต้องตั้งคำถามกับกองทัพก็คือ ก่อนที่จะตัดสินใจทำงานใกล้ชิดกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก โดยมีการมอบหมายให้นายประสิทธิ์ เป็นถึงอาจารย์พิเศษโรงเรียนจิตอาสา 904 ทางกองทัพได้ตรวจสอบประวัติของนายประสิทธิ์มาก่อนหรือไม่ และปล่อยให้นายประสิทธิ์เอาสถานะของการเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนจิตอาสา 904 และภาพลักษณ์ที่ใกล้ชิดกับกองทัพ ไปใช้จนสร้างความเสียหายแก่สาธารณชนมูลค่ามหาศาลเช่นนี้ได้อย่างไร”

“พฤติกรรมของนายประสิทธิ์ ที่เอาสถานะอาจารย์พิเศษโรงเรียนจิตอาสา 904 มาสร้างภาพลักษณ์ให้ประชาชนหลงเชื่อ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชนแล้ว ยังเป็นพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการอวดอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย จึงขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งกองบังคับการปราบปราม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้เร่งติดตามนำตัวนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก มาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด และไม่ใช่แค่การดำเนินคดีอาญาเท่านั้น เพราะสิ่งที่ต้องเร่งรัดให้เร็วที่สุดด้วยเช่นกัน ก็คือการสืบทรัพย์และอายัดทรัพย์ของนายประสิทธิ์ เพื่อเร่งรัดอายัดและนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย เพื่อทุเลาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้”

นายวิโรจน์ย้ำว่ากรณีนี้ได้หารือเบื้องต้นกับนางสาวศิริกัญญา มีความเห็นตรงกันว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ การเรียกเงินคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะใช้กลไกของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ติดตามการดำเนินคดีนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคดีดังกล่าวนี้จะได้รับการดำเนินการอย่างเป็นธรรมและรวดเร็วที่สุดต่อไป

“ไม่ว่าเงินที่หน่วยงานกองทัพหรือหน่วยงานราชการต่างๆ ถ้าได้รับบริจาคไปจากนายประสิทธิ์โดยจงใจและรับรู้หรือไม่ก็ตาม หากพบความเชื่อมโยงว่าเป็นเงินของประชาชนผู้เสียหาย หน่วยงานของราชการและกองทัพต้องสแดงสปิริตในการกันเงินเหล่านั้นมาคืนให้พี่น้องประชาชน เพราะนี่คือเงินที่สามารถสอบกลับ สืบหา และเป็นแหล่งเงินที่ประชาชนผู้เสียหายมีโอกาสได้คืนมากที่สุด ทางพรรคก้าวไกลจะติดตามว่าแต่ละหน่วยงานได้รับเงินบริจาคไปหรือไม่เท่าไหร่ และจะมีกลไกอย่างไรในการนำเงินเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการชดใช้และเยียวยาความเสียหายแก้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ” โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวตอบคำถามสื่อมวลชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท