ที่มาภาพประกอบ: Unsplash/Anastasiia Chepinska
17 พ.ค. 2564 สำนักข่าวแคนาเดียนเพรสรายงานว่าชาวแคนาดาต้องสูญเสียงานไปกว่า 207,000 คน เมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2564 เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 ในแคนาดา ทำให้มีการออกมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด ทั้งนี้ความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจในระยะยาวจากการแพร่ระบาดนี้ก็มีมากขึ้น
อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.1 ในเดือน เม.ย. 2564 จากที่เคยอยู่ในระดับร้อยละ 7.5% ในเดือน มี.ค. 2564
รัฐออนแทรีโอ (Ontario) ถือเป็นภูมิภาคที่มีการสูญเสียงานมากที่สุดถึง 153,000 ตำแหน่ง ส่วนรัฐริติช โคลัมเบีย (British Columbia) มีอัตราการจ้างงานลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 เป็นต้นมา
ทั่วประเทศแคนาดาพบว่าการสูญเสียงานเต็มเวลานั้นมีมากกว่างานพาร์ทไทม์ โดยคนทำงานในอุตสาหกรรมค้าปลีกได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนช่วงวัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนทำงานวัยหนุ่มสาว จากกฎข้อบังคับด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดและการล็อกดาวน์
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวเมื่อต้นเดือน พ.ค. 2564 ว่าการสูญเสียงานที่เกิดจากข้อบังคับด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดและการล็อกดาวน์ นั้นเป็นสิ่งที่ "ยากจะรับได้ แต่จำเป็น" เพื่อต่อสู้กับการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 นี้
"สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อเศรษฐกิจของเรา คือการยุติคลื่นลูกที่ 3 นี้โดยเร็วที่สุด" ทรูโด กล่าว
เมื่อการล็อกดาวน์ยังคงดำเนินต่อไปในเดือน พ.ค. 2564 นี้ รอยซ์ เมนเดส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ CIBC กล่าวว่าอาจมีการสูญเสียตำแหน่งงานมากขึ้นในเดือน พ.ค. นี้
ส่วน ลีอาห์ นอร์ด ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์แรงงานของหอการค้าแคนาดา กล่าวว่าความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดในตลาดแรงงานจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อคนงานและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนบริการ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ต้องปิดตัวและคนตกงานอย่างต่อเนื่อง
ที่มาเรียบเรียงจาก
Canada lost 207,000 jobs in April amid renewed COVID-19 restrictions (Global News, 8 May 2021)