อัยการ สั่งฟ้อง 'สมบัติ ทองย้อย' อดีตการ์ดเสื้อแดง ในความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ กรณีโพสต์ข้อความ "กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ" ก่อนได้ประกันตัวชั่วคราวแบบมีเงื่อนไข
19 พ.ค. 2564 วันนี้หลายสำนักข่าวรายงานตรงกันว่า ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ พนักงานอัยการฯ ได้ส่งฟ้องคดีของ สมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง ก่อนเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มราษฎร ก่อนหน้านี้เขาถูกแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3)
สำหรับเหตุในคดีสืบเนื่องจาก ศรายุทธ สังวาลย์ทอง ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ดําเนินคดีกับสมบัติ จากการโพสต์ข้อความสาธารณะลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า 'สมบัติ ทองย้อย' จำนวน 3 ข้อความ โดยกล่าวหาว่าข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์
สมบัติ ทองย้อย เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนมาในคดีความมาตรา 112 จากการโพสต์เฟซบุ๊ก คำว่า กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ รวมทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์เฟซบุ๊ก 3 ข้อความ
สมบัติ กล่าวว่า ตนมองว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องประหลาด กับการที่สิ่งที่ตนโพสต์มาเป็นคดีความ ทั้งนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางด้านกฎหมาย ให้ทางศาลพิจารณาไปว่าผิดถูกอย่างไร ทั้งนี้ขอให้ประชาชนระวัง ช่วงนี้ต้องเซฟตี้กันทุกคนในเรื่องการโพสต์ถึงสถาบัน เพราะตนเตือนด้วยความหวังดี การขึ้นโรงขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องสนุก มีแต่เรื่องเหนื่อย เสียเวลาเสียทุกอย่าง เอาเป็นว่าถ้าระวังกันได้จะดีที่สุด
ส่วนความกังวลนี้ในคดี ตนไม่มีความกังวล และตนได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่ตนก็มีความเป็นห่วงถ้าถูกฝากขัง อย่างที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์โควิคข้างในเรือนจำ เพราะถ้าถูกฝากขังก็เหมือนกับเอาตัวเองไปติดโรคและตนขอขอบคุณ ทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ช่วยเหลือมาทุกเรื่อง ถ้าไม่ได้บุคลากรเหล่านี้ ตนรวมทั้งกลุ่มราษฎรก็คงจะแย่ สมบัติกล่าวทิ้งท้าย
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว สมบัติ ทองย้อย ตีราคาประกัน 200,000 บาท
โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลย เข้าร่วมในกิจกรรมใด ที่จะกระทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือใน ลักษณะเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในคดีนี้ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัดด้วย
คดีนี้ผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์คือ ศรายุทธ สังวาลย์ทอง ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาเอกชัย หงส์กังวาน, “ฟรานซิส” บุญเกื้อหนุน เป้าทอง และ “ตัน” สุรนาถ แป้นประเสริฐ ในคดีมาตรา 110 “ร่วมกันพยายามกระทำการประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี” ด้วย
สำหรับในชั้นตำรวจ พ.ต.ท.ประจํา หนุนนาค รองผู้กํากับการ (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ และพ.ต.ต.คณศร นักเรียน สารวัตร (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นคณะพนักงานสอบสวนตามคําสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 63 ได้เป็นผู้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อสมบัติ โดยบรรยายพฤติการณ์คดีโดยสรุป ดังนี้
ขณะที่ศรายุทธ สังวาลย์ทอง กำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านอาหารละแวกสาธรได้เปิดเฟซบุ๊กของตนเองและเข้าไปดูบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “สมบัติ ทองย้อย” ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ และพบข้อความ 3 โพสต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แก่
ข้อความวันที่ 30 ต.ค. 63 โพสต์ว่า “#กล้ามาก #เก่งมาก #ขอบใจนะ” ซึ่งข้อความดังกล่าวนั้น ในหลวงทรงตรัสกับผู้ที่ไปรอรับเสด็จ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 63 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ศรายุทธจึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวจึงเป็นการจงใจล้อเลียนพระมหากษัตริย์
ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “เขาให้ลดงบประมาณที่เอาไปใช้จ่ายไม่ใช่ลดตัวลงมาใกล้ชิดประชาชน เข้าใจอะไรผิดไหม เรื่องการลดตัวลงมาแนบสนิท ชิดใกล้ประชาชนแบบที่เห็น แสดงให้เห็นว่า รู้ตัวสินะว่าคนเขาไม่เอา เลยต้องลงมาทําขนาดนี้ ถ้าจริงใจต้องทํามานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมาทํา เพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา แต่น่าจะช้าไปแล้วจริง ๆ ละครหลังข่าวชัดๆ” ซึ่งศรายุทธเห็นว่าผู้โพสต์ตั้งใจสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะว่าในการเสด็จพระราชดําเนินนั้นประชาชนสามารถเข้าไปใกล้ชิดและขอฉายพระรูปกับพระองค์ท่านได้
ข้อความวันที่ 2 พ.ย. 63 โพสต์ว่า “มีแจกลายเซ็นด้วย เซเลปชัดๆ” ศรายุทธเห็นว่าเป็นข้อความจงใจหมายถึงพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเวลาที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินนั้น ประชาชนจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปให้พระองค์ทรงลงลายพระหัตถ์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)