กลุ่มคนอ้างตนว่าเป็นผู้ปกป้องความมั่นคงและสถาบันกษัตริย์ บุกบ้านนักศึกษาใน จ.เพชรบูรณ์ อ้างทำความผิดตาม ม.112 พร้อมบังคับให้กราบขอโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 ด้านผู้เสียหายเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันหลังถูกคุกคาม

20 พ.ค. 2564 วานนี้ (19 พ.ค. 2564) เฟซบุ๊กคณะเพชรบูรณ์ปลดแอก รายงานว่า นักศึกษาระดับชั้น ปวช. คนหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ถูกกลุ่มบุคคลผู้อ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมการปกครองและบุคลลที่อ้างว่ามีหน้าที่ปกป้องความมั่นคงบุกไปที่บ้านเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเพจดังกล่าว ระบุว่ากลุ่มคนที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายเรียก หมายจับ หรือหมายศาล เพื่อแสดงว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดในข้อหาใด ทั้งยังไม่มีการแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย นอกจากนี้ กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังได้กระทำการข่มขู่ คุกคาม เพื่อให้นักศึกษารายนี้กราบขอโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 ที่ทางกลุ่มเตรียมมา และบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา เพจคณะเพชรบูรณ์ปลดแอก รายงานเพิ่มเติมว่าได้ติดต่อสอบถามนักศึกษาผู้เสียหายคนดังกล่าวแล้ว ทราบว่าในกลุ่มบุคคลดักล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมอยู่ด้วย บุคคลทั้งหมดที่บุกมาถึงบ้านของนักศึกษาคนนี้ อ้างตนว่าเป็น 'ผู้ทำหน้าที่ปราบปราบและควบคุมเกี่ยวกับสถาบัน' และมีเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครองรวมอยู่ 2-3 คน ซึ่งบุคคลทั้งหมดนี้อ้างว่านักศึกษาคนดังกล่าวโพสต์คลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสมแก่สถาบันกษัตริย์ในแอปพลิเคชันหนึ่ง จึงเดินทางมาเพื่อบังคับให้นักศึกษากราบขอโทษพร้อมอัดวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ทางเพจระบุว่านักศึกษาคนดังกล่าวไม่ได้ยินยอมทำตามด้วยความสมัครใจ แต่เพราะถูกกลุ่มบุคคลเหล่านั้นขู่บังคับให้ทำ

ทางเพจตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้คล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่มีกลุ่มบุคคลอ้างตนว่าเป็นกลุ่มปกป้องสถาบันบุกไปที่บ้านของประชาชนคนหนึ่งและบังคับให้กราบพระบรมฉายาลักษณ์ กล่าวคำขอโทษ พร้อมอัดคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ทางเพจยังตั้งคำถามว่าการกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ถือว่า 'ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย' หรือไม่ และกรมการปกครอง จ.เพชรบูรณ์ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำครั้งนี้หรือไม่ เพราะปรากฏภาพบุคคลสวมเสื้อเจ้าหน้าที่กรมการปกครองอยู่ที่สถานที่เกิดเหตุ โดยช่วงเย็นของวันเดียวกัน เพจคณะเพชรบูรณ์ปลดแอก รายงานเพิ่มเติมว่า สมาชิกเพจและนักศึกษาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมระบุว่า หากมีการกระทำความผิดจริงก็ขอให้ผู้กล่าวหาดำเนินตามขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ใช่กระทำให้รูปแบบศาลเตี้ย หรือการขู่บังคับ เพราะการกระทำในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการทำลายสถาบันฯ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กนักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้ (17 เม.ย.64) สุเมธ ตระกูลวุ่นหนู หัวหน้ากลุ่มนักรบองค์ดำและรักวิทย์ ยินดี หัวหน้ากลุ่มนักรบศรีวิชัยสองคาบสมุทร​จันทบุรี​ องค์ดำบูรพา​ภักดี​ พร้อมทีมงานฯ นักรบศรีวิชัยสองคาบสมุทร ได้ลงพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้นำชุมชน ขอให้ดำเนินการทางสังคมต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งทางกลุ่มอ้างว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมกันนี้ ทางกลุ่มนักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทรอ้างว่าได้พูดคุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนั้นแล้ว ซึ่งเขายอมรับว่ากระทำการดังกล่าวจริง และขอยอมรับผิดทั้งหมด ทางกลุ่มจึงได้พาบุคคลดังกล่าวไปทำพิธีกราบขอโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 ตามภาพที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ประชาไทย รายงานว่ามีประชาชนถูกกลุ่มบุคลลที่อ้างตัวว่าเป็นการ์ดกลุ่มปกป้องสถาบันฯ รุมทำรายบนสกายวอล์กหน้าศูนย์การค้า MBK โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มี.ค. เป็นชาย 2 คนที่ถูกกลุ่มการ์ดไล่ทำร้ายเข้ามาจนถึงด้านในหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ (BAAC) เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ถูกรุมทำร้ายและถูกกระโดดถีบหน้าท้อง ส่วนเหตุการณ์ที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เช่นเดียวกัน เป็นนักศึกษาคนหนึ่งถูกทำร้ายเพราะเข้าไปช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่กำลังถูกกลุ่มการ์ดปกป้องสถาบันฯ รุมทำร้ายอยู่บนสกายวอล์ก