ผู้ประท้วงชุมนุมหน้าสถานทูตอิสราเอล ในโตรอนโตประเทศแคนาดา ได้ละเลงสีแดงที่บันไดแล้วเรียกมันว่า "แม่น้ำนองเลือด" เพื่อประท้วงการที่ทางการอิสราเอลก่อเหตุโจมตีฉนวนกาซ่าส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 232 ราย
“The ceasefire doesn't end the injustice and oppression. Palestinians are living under pervasive deprivation, domination and Israeli oppression.”https://t.co/cidApLJgBE
— Miriam Katawazi (@MiriamKatawazi) May 21, 2021
การประท้วงที่หน้าสถานทูตอิสราเอลในโตรอนโต ประเทศแคนาดา มีขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางการอิสราเอลและฮามาสมีข้อตกลงหยุดยิง จากกการที่สงคราม 11 วัน ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์ และทำให้เกิดความเสียหายย่อยยับไปทั่วฉนวนกาซ่าซึ่งเป็นพื้นที่ยากจนอยู่แล้ว
ผู้ประท้วงทำการแสดงออกด้วยการระบายสีที่บันไดของสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนแม่น้ำนองเลือด จากการที่มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 232 ราย ถูกสังหารจากปฏิบัติการของอิสราเอล ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก 66 ราย
คนที่เป็นต้นคิดการประท้วงนี้คือ แรบไบ ดาวิด มิวาซาอีร์ สมาชิกของกลุ่มเสียงอิสระชาวยิว (Independent Jewish Voices) เขาบอกว่าถึงสัญญาหยุดยิงจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็จริงแต่ปัญหาสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอลก็จะยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลในเรื่องที่อิสราเอลใช้ความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์หนักข้อขึ้นด้วย
"สีแดงที่ไหลนองจากหน้าสถานกงสุลอิสราเอลลงบนท้องถนนในโตรอนโตนั้นเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเลือดของประชาชนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกสังหารหมู่" มิวาซาอีร์กล่าว
"การหยุดยิงไม่ได้ทำให้ความอยุติธรรมและการกดขี่จบลงไปด้วย ชาวปาเลสไตน์กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การขาดแคลน การตกอยู่ใต้อำนาจ และการกดขี่อย่างกว้างขวางจากอิสราเอล" มิวาซาอีร์กล่าว
เลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูแตร์เรส ที่ยินดีกับการหยุดยิงก็แถลงในทำนองเดียวกันว่ายูเเอ็นมีพันธกิจอย่างจริงจังในการที่จะต้องจัดการรากฐานของปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ โดยที่กูแตร์เรสเสนอว่าควรจะทำให้เกิดวิธีการแก้ความขัดแย้งแบบ "สองรัฐ" จากหลักการที่ระบุไว้เมื่อปี 2510 แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่ออิสราเอลเลิกยึดครองเขตแดนของปาเลสไตน์เสียก่อน
สำหรับรัฐบาลแคนาดานั้นมีท่าทีไม่ยอมรับเรื่องที่อิสราเอลมีอำนาจควบคุมเหนือเขตแดนที่อิสราเอลยึดครองมาได้ในปี 2510 เช่น ที่ราบสูงโกลัน, เขตเวสต์แบงค์, เยรูซาเลมตะวันออก และฉนวนกาซา โดยแคนาดาระบุในเว็บไซต์ของรัฐบาลว่าการตั้งรกรากของอิสราเอลในพื้นที่ยึดครองเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาฉบับที่ 4 ซึ่งว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนภายใต้ความขัดแย้ง และยังนับเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสันติภาพที่ครอบคลุม, เป็นธรรม และถาวร
นอกจากการทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนผู้คนแล้ว รัฐบาลอิสราเอลยังก่อเหตุรุนแรงอื่นๆ ต่อชาวปาเลสไตน์ทั้งการใช้กำลังบังคับไล่ที่ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในชีค จาร์ราห์ ซึ่งองค์การด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นระบุว่า "อาจจะนับเป็นอาชญากรรมสงคราม" นอกจากนี้อิสราเอลยังปราบปรามผู้ชุมนุมต่างๆ ลามไปถึงมัสยิด อัล-อัคซา ในเยรูซาเลมตะวันออกที่มีชาวมุสลิมเข้าร่วมรอมฎอนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ
อีกหนึ่งในผู้ที่จัดงานประท้วงที่โตรอนโตคือ ราเชล สมอลล์ จากองค์กรเวิร์ลด์บียอร์นวอร์กล่าวว่าการระบายสีที่บันไดสถานกงสุลนั้นเป็นการย้ำเตือนให้คนทำงานที่สถานกงสุลรับรู้ถึงการสูญเสียชีวิตและความเสียหายที่เกิดจากรัฐบาลอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม กาลิต บาราม กงสุลใหญ่อิสราเอลในโตรอนโตก็ระบุว่าการทาสีบันไดเช่นนี้เป็นการทำลายทรัพย์สินราชการและ "ไม่ช่วยในการหาข้อยุติความขัดแย้ง" นอกจากนี้ยังพูดถึงเรื่องที่กลุ่มฮามาสโจมตีชาวอิสราเอลและอ้างว่าสิ่งที่อิสราเอลทำเป็น "การป้องกันตัว" โดยเน้นโจมตีส่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นฐานที่มั่นของฮามาสและพยายาม "จำกัดการสูญเสียของพลเรือน" แต่จากสถิติของหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็ระบุว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 232 ราย เทียบกับชาวอิสราเอล 12 ราย
มิวาซาอีร์ที่เป็นหนึ่งในผู้ประท้วงและเป็นชาวยิวในแคนาดาบอกว่าชุมชนชาวยิวเข้าร่วมการประท้วงเรียกร้องให้แคนาดาหยุดค้าอาวุธให้กับอิสราเอลและให้มีการระงับการค้าขายกับชาวอิสราเอลที่ตั้งรกรากในปาเลสไตน์ อีกทั้งยังบอกอีกว่าชุมชนชาวยิวในแคนาดายืนอยู่เคียงข้างพี่น้องชาวปาเลสไตน์และจะไม่ยอมให้ใครอ้างความเป็นชาวยิวในการก่อเหตุโหดร้ายแบบรัฐบาลอิสราเอล
ถึงแม้ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาจะแถลงว่าเขาอยากให้ทุกฝ่ายคุ้มครองพลเรือนและหยุดยั้งความรุนแรง เขาบอกว่าไม่ว่าจะเป็นการยิงจรวดใส่อิสราเอลหรือการใช้ความรุนแรงต่อมัสยิดก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ทั้งนั้น แต่จากข้อมูลรัฐบาลแคนาดาระบุว่าแคนาดาส่งสินค้าและเทคโนโลยีทางการทหารให้กับอิสราเอลรวมมูลค่า 13.7 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 356 ล้านบาท) ในปี 2562
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)