Skip to main content
sharethis

พล.อ. อาวุโส มินอ่องหล่าย ให้สัมภาษณ์สื่อฮ่องกง พร้อมปกป้องธุรกิจที่คนจีนลงทุนในพม่า สร้างความมั่นใจให้จีนกลับมาลงทุน และช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ หลังช่วงที่ผ่านมา เกิดเหตุมีผู้บุกรุกเข้าไปทำลาย และวางเพลิงโรงงานที่คนจีนลงทุนในพม่า ด้านเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เกิดเหตุระเบิด 3 ครั้ง ภายใน 2 วัน มีรายงานนักข่าวที่เมียวดี ถูกข่มขู่ไม่ให้เสนอข่าว

พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผบ.สส.กองทัพพม่า (ที่มา MRTV)

พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร และผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพม่า ให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ฮ่องกง “ฟินิกซ์ เทเลวิชัน”  ให้คำมั่นต่อรัฐบาลปักกิ่ง จะปกป้องบริษัทที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุน รวมถึงประเทศจีน 

“เราจะปกป้องบริษัท (ในประเทศพม่า) ที่ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน” มินอ่องหล่าย กล่าว พร้อมระบุว่า ชาวเมียนมาไม่เคยมีทัศนคติต่อต้านชาวจีน 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มินอ่องหล่าย พยายามคลายความกังวลต่อรัฐบาลจีน เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หลังกระแสต่อต้านคนจีนกำลังพุ่งขึ้นสูงในหมู่ผู้ประท้วงต้านรัฐประหารชาวเมียนมา หลังเชื่อว่ารัฐบาลจีนให้การหนุนหลังรัฐบาลทหารอยู่ 

ในการสัมภาษณ์ หัวหน้าคณะรัฐประหาร กล่าวถึงเหตุที่ชาวพม่าทำลายโรงงานที่ชาวจีนเป็นเจ้าของว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะชาวพม่ามีทัศนคติต่อต้านคนจีน แต่เป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมือง  

ความรู้สึกชังชาติจีนพุ่งสูงขึ้น หลังรัฐบาลจีนไม่ได้ออกมาประณามการรัฐประหารของกองทัพพม่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 ส่งผลให้โรงงานในนครย่างกุ้ง ที่ชาวจีนเข้าไปลงทุนประมาณ 13-14 โรงงาน มีผู้บุกรุกเข้าไปทำลาย และลอบวางเพลิง นอกจากนั้น ผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันต่อต้านโครงการการลงทุน และบอยคอตสินค้าที่นำเข้าจากจีน

แต่จีนในฐานะประเทศที่ลงทุนในพม่าเป็นอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่ประเทศที่อยากทำธุรกิจกับเผด็จการทหาร และพร้อมจะลงทุนมหาศาลกับประเทศนี้ ในขณะที่นักลงทุนจากประเทศโลกตะวันตกต่างถอยห่างจากพม่า เนื่องจากการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรแบบเฉพาะเจาะจงของยุโรปและสหรัฐฯ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงจากเหตุสลายการชุมนุมนองเลือดโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง  

สื่อสัญชาติจีนรายงานว่า มินอ่องหล่าย กล่าวว่า จีนเข้ามาลงทุนในพม่าประมาณ 500 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 64 สำนักข่าวอิระวดี รายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน 2 แห่งในเขตหล่ายตายา ชานนครย่างกุ้ง โดยโรงงานหนึ่งมีคนจีนเป็นเจ้าของ และอีกโรงงานของชาวไต้หวัน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้กระทำ นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน มีคนงานในเขตหล่ายตายาออกมาประท้วง และถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสลายการชุมนุมนองเลือด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 คนภายในวันเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พม่านองเลือด ปราบผู้ประท้วงเสียชีวิตวันเดียว 59 ราย

เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หัวหน้าคณะรัฐประหารเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายโรงงานที่คนจีนลงทุนในเขตอุตสาหกรรมหล่ายตายา หลังกองทัพประกาศกฎอัยการในพื้นที่นี้ ระหว่างการเยือน ผู้บัญชาการกองทัพพม่าพยายามแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ที่เขตอุตสาหกรรมกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว นอกจากนี้ ทางกองทัพยังนำข้าวสารมาแจกจ่ายให้กับพนักงานโรงงานอีกด้วย 

ภาพกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากเขตหล่ายตายา ชานเมืองย่างกุ้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามผู้ประท้วงเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 64
 

สำนักข่าวกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง “โกลบอลไทมส์” อ้างว่า มีโรงงานที่ชาวจีนลงทุนในพม่า 32 แห่งถูกผู้บุกรุกเข้าไปทำลาย และธุรกิจจีนในพม่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุลอบวางเพลิง 

เหตุดังกล่าวทำให้รัฐบาลปักกิ่งเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงของกองทัพดำเนินมาตรการปกป้องผลประโยชน์ และพลเรือนสัญชาติจีนในพม่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงต้านกองทัพออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าพวกเขาเป็นผู้ทำลายโรงงานของชาวจีน พร้อมกับกล่าวหากองทัพพม่าว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อใช้เป็นขออ้างสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง 

ระหว่างการสัมภาษณ์กับสื่อฮ่องกง มินอ่องหล่าย กล่าวว่า เขาไปเยี่ยมโรงงานของชาวจีนที่ถูกลอบวางเพลิงที่เขตหล่ายตายา พร้อมส่งเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ประจำภูมิภาคย่างกุ้งรับผิดชอบหามาตรการป้องกันโครงการลงทุนของชาวจีนในพม่าแล้ว 

เศรษฐกิจของพม่าส่อแววทรุดลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์หลังจากการทำรัฐประหาร มากกว่านั้น โครงการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐถูกระงับชั่วคราว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติต่างทยอยถอนการลงทุนจากพม่า  

ซอมินทุน โฆษกกองทัพพม่า ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ซินหัว ของทางการจีน เมื่อต้นเดือน พ.ค. ระบุว่า กองทัพพม่าร้องขอให้รัฐบาลและนักลงทุนจีนมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และมาร่วมเจรจาความร่วมมือทางการค้ากับประเทศพม่า 

โฆษกกองทัพ กล่าวด้วยว่า เผด็จการทหารมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศนี้ต่อไป 

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เผด็จการพม่าปรับเปลี่ยนโครงสร้างของคณะกรรมการด้วยกัน 3 โครงการ เพื่อเตรียมผลักดันแผนปฏิบัติการโครงการเมกะโปรเจกต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือ One Belt One Road Initiative ของรัฐบาลปักกิ่ง   

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือน พ.ค. คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งเมียนมา (MIC) เพิ่งอนุมัติโครงการการลงทุนกว่า 15 โครงการ โดยหนึ่งในนั้นมีโครงการที่มีจีนเป็นผู้สนับสนุน คือโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (LGN) ซึ่งมีมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เกิดเหตุระเบิดที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 3 ครั้งภายใน 2 วัน

สำนักข่าว มติชน รายงานเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 64 เกิดเหตุระเบิดที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ถึง 3 ครั้ง ส่งผลให้ชาวพม่าในเมืองเมียวดีต่างแตกตื่น และหวาดกลัว บ้างต้องวิ่งเข้าหลุมหลบภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงนำรถยนต์ รุดหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ

จุดแรกเกิดขึ้นในเวลา 05.30 น. ของวันที่ 24 พ.ค. 64 ตามเวลาประเทศไทย เกิดระเบิดขึ้นที่ถนนอัญจีน บ้านไร่อ้อย หมู่ 1 ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ริมฝั่งแม่น้ำเมย ซึ่งใกล้กับบ้านชิดหล่าย อดีตรัฐมนตรี จากพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคทหารพม่า แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เนื่องจากระเบิดถูกนำไปวางไว้นอกรั้วข้างถนน เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาและตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปเคลียร์พื้นที่ และมีการตรึงกำลังบนถนน และรอบๆ บ้านชิดหล่าย

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จ.เมียวดี กล่าวว่า ก่อนการระเบิดครั้งนี้ เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 23 พ.ค.64 เกิดระเบิดขึ้นบริเวณสำนักงานศาลยุติธรรม จ.เมียวดี 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ถึง 10 นาที แรงระเบิดทำให้กำแพงศาล บ้านพักข้าราชการ และรถยนต์เจ้าหน้าที่ศาล 1 คัน ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับอันตราย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมา ตำรวจ หน่วยข่าวกรองทหาร ฝ่ายความมั่นคง และชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ทำการค้นหาระเบิดที่อาจจะมีอีก และเก็บหลักฐานชิ้นส่วนระเบิดไปทั้งหมด รวมทั้งการเพิ่มกำลังทหาร ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุให้มากขึ้น ทั้งยังห้ามประชาชนเข้าไปใกล้ และห้ามบันทึกภาพที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ สื่อมวลชนในพื้นที่ จ.เมียวดี ถูกข่มขู่ไม่ให้ไปทำข่าว บันทึกภาพ โดยสื่อบางรายถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ทหารว่า หากเสนอข่าวนี้จะไม่รับรองความปลอดภัย

แปลและเรียบเรียงจาก

Myanmar Coup Leader Vows to Protect China-Backed Enterprises

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net