สปสช.จ่ายค่าบริการตรวจรักษาโควิด-19 งวดแรกหลังปรับรอบการจ่ายเป็นทุกๆ ครึ่งเดือน รวมเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ย้ำจ่ายเงินเร็วเพื่อสนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาลให้บริการประชาชนได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด และขอให้โรงพยาบาลงดเก็บค่ารักษาแล้วเบิกกับ สปสช.แทน

แฟ้มภาพ

25 พ.ค.2564 ทีมสื่อ สปสช.รายงานว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช. ได้ปรับรอบการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการให้แก่สถานพยาบาลที่ตรวจรักษาโรคโควิด-19 จาก 1 เดือน เป็นทุกๆครึ่งเดือน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่โรงพยาบาลนั้น ล่าสุดวันที่ 18 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ทาง สปสช.ได้อนุมัติจ่ายค่าบริการรอบแรกสำหรับรอบวันที่ 1-15 พ.ค. 2564 โดยแบ่งเป็นค่าบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาล 896 แห่ง รวมเป็นเงิน 789,142,747 บาท และค่าบริการผู้ป่วยนอกอื่นๆอีก 262,880,368 บาท โดยได้โอนเงินให้แก่หน่วยบริการในวันที่ 22 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า สปสช. พร้อมรับฟังความคิดเห็นและปรับปรุงระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้โรงพยาบาลสามารถทำการตรวจรักษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด จากที่ก่อนหน้านี้ สปสช.ถูกวิจารณ์จากโรงพยาบาลเอกชนว่าจ่ายเงินช้า ขณะนี้ก็ได้ปรับรอบให้เร็วขึ้นแล้ว ดังนั้นก็ต้องขอความร่วมมือโรงพยาบาลต่างๆ งดเรียกเก็บค่ามัดจำเอาจากผู้ป่วยไว้ก่อนแล้วค่อยคืนให้ทีหลังเมื่อได้รับเงินจาก สปสช. เพราะขณะนี้ไม่มีเหตุผลเรื่องสภาพคล่องมาเป็นข้อติดขัดในการให้บริการแล้ว อีกทั้งการเรียกเก็บมัดจำจะเป็นอุปสรรคต่อประชาชนที่ไม่มีเงิน ทำให้ไม่กล้ามารับการตรวจรักษา จนเกิดผลเสียต่อสุขภาพและทำให้การควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในภาพรวมลำบากมากขึ้น

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า นอกจากการเรียกเก็บเงินมัดจำแล้ว ต้องขอความร่วมมือโรงพยาบาลงดเก็บค่าตรวจค่ารักษาจากผู้ป่วยด้วยเช่นกัน โดยให้มาเบิกเอาจาก สปสช. แทน ซึ่งที่ผ่านมา สปสช.ได้จ่ายค่าบริการแก่โรงพยาบาลเป็นอย่างดี รวมทั้งมีการจัดตั้งสายด่วนสำหรับโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ให้สามารถโทรเข้ามาสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการเบิกจ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายการเบิกจ่ายหรือเอกสารประกอบต่างๆ เพื่อที่จะลดความผิดพลาดอันจะนำไปสู่การเบิกจ่ายที่ล่าช้า

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

"ตอนนี้เราปรับเป็นทุกๆครึ่งเดือน แต่ในอนาคตเราจะพยายามทำให้เร็วกว่านี้อีก อาจจะเป็นรายสัปดาห์หรือให้ดีที่สุดคือรายวัน ส่วนการปรับปรุงระบบการเบิกจ่ายต่างๆในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งการันตีถึงความจริงใจของ สปสช.ในการสนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาลต่างๆ ว่าเราจ่ายจริง ขอให้มั่นใจและโฟกัสไปที่การให้บริการประชาชนและการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเต็มที่ ค่าใช้จ่ายต่างๆขอให้เป็นภาระของเรา ไม่ต้องไปเก็บจากผู้ป่วย ส่วนในอนาคตทางหน่วยบริการมีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมเราก็พร้อมจะรับฟังทั้งหมด" นพ.จเด็จ กล่าว

ทั้งนี้หากโรงพยาบาลมีข้อสงสัยการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถประสานงานมายัง สปสช.ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-142-3100 ถึง 3 และ 02-5540505 ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ทั้ง 5 เลขหายนี้สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเท่านั้น กรณีประชาชนที่ต้องการสอบถามเรื่องสิทธิรักษาพยาบาลบัตรทองโทรได้ที่สายด่วน สปสช. โทร. 1330