กรณีนักข่าวพม่าและผู้ติดตามรวม 5 ราย ถูกจับหลังลี้ภัยเข้าไทย ล่าสุดศาลเชียงใหม่ตัดสินฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำคุก 7 เดือน รอลงอาญา 1 ปี และปรับเงินรายละ 4,000 บาท โดยทั้งหมดถูกส่งตัวมา ตม.สวนพลู ทำเรื่องผลักดันออกนอกประเทศ

โลโกของสำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า (DVB) (ที่มา DVB)

กรณีนักข่าวพม่าและผู้ติดตามรวม 5 ราย ถูกจับหลังลี้ภัยเข้าไทยเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 64 ล่าสุด ศาลแขวงเชียงใหม่รับฟ้องคดีนักข่าวสังกัดเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า (DVB) พร้อมผู้ติดตาม รวม 5 ราย ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 หรือเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมาตรา 81 อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ในวันเดียวกัน จำเลยทั้งหมดยอมรับสารภาพ และเนื่องด้วยคดีมีโทษต่ำกว่า 1 ปี ศาลจึงสามารถพิพากษาลงโทษได้เลยทันที โดยทั้งหมดมีโทษจำคุก 7 เดือน รอลงอาญา 1 ปี และปรับเงินรายละ 4,000 บาท 

1 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวประชาไทโทรศัพท์สัมภาษณ์ ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความนักข่าว DVB จาก มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) แจ้งว่า นักข่าว DVB 3 คน พร้อมผู้ติดตามชาวพม่าอีก 2 คน ถูกส่งตัวมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถนนสวนพลู โดยออกจากจังหวัดเชียงใหม่เวลาเที่ยงคืน และถึงกรุงเทพฯ เช้าวันที่ 1 มิ.ย. 64 

ทนายจาก HRDF กล่าวเพิ่มว่า ทางทีมทนายตรวจสอบกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ถนนสวนพลูแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ยืนยันได้รับตัวผู้ต้องหาชาวพม่าทั้ง 5 คน เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป 

เบื้องต้น นักข่าว DVB และผู้ติดตาม ทั้ง 5 คน ทำเรื่องส่งหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อปฏิเสธไม่ขอกลับไปประเทศพม่า เพราะหากกลับประเทศต้นทาง อาจมีภยันตรายถึงชีวิต และขอเข้าสู่กระบวนการลี้ภัยประเทศที่สาม

“ตอนเที่ยง ทางทีมทนายเข้าไปที่สวนพลู แต่ว่าไม่ได้เยี่ยม เพราะว่าอยู่ในช่วงโควิด-19 แต่ยืนยันว่าทั้ง 5 คนถูกรับตัวไว้แล้ว” ณัฐาศิริ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ทางทีมทนายไม่นิ่งนอนใจ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการส่งตัวนักข่าวพม่ากลับประเทศต้นทาง 
  
“ถึงแม้ว่ารัฐบาลไทยออกมายืนยันว่าไม่ส่งตัวกลับพม่าแน่นอน ...แต่เราจะต้องติดตามว่า เขายังอยู่ที่ ตม.ไหม ได้เดินทางออกไปประเทศที่สามรึยัง” 

“เราก็หวังว่าจะได้ไปประเทศที่สาม ถ้าเกิดกลับไปต้นทางที่ประเทศพม่ามันก็ชัดเจนว่ามีอันตรายรออยู่” ทนายจาก HRDF กล่าว

ทั้งนี้ รายงานจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า หรือ AAPP รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศพม่า นับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 จนถึง 31 พ.ค. 64 มีทั้งสิ้น 840 ราย ขณะที่มีประชาชนที่ต่อต้านรัฐประหารถูกจับกุม 5,554 ราย และถูกตัดสินโทษ 4,424 ราย  

ไทมไลน์การจับกุมนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวชาวพม่า 3 คน สังกัดสำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า (DVB) พร้อมด้วย ผู้ติดตามอีก 2 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จับกุม หลังเข้าตรวจค้นบ้านพักที่พวกเขาหลบภัยอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และถูกควบคุมตัวที่ศูนย์คัดกรองกลุ่มเสี่ยง งานต้องห้าม และส่งกลับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ เพื่อรอส่งฟ้องศาลในวันที่ 11 พ.ค. 64 

11 พ.ค.64 ผู้พิพากษาศาลแขวงเชียงใหม่ มีคำสั่งเลื่อนฟ้อง นักข่าว DVB 3 คน พร้อมด้วย ผู้ติดตาม 2 คน เนื่องจากผู้ต้องหาต้องการทนายประจำคดี ศาลจึงให้ตำรวจ สภ.สันทราย ทำเรื่องผัดฟ้อง และฝากขังที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดเชียงใหม่ อีก 6 วัน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งทนายผู้ต้องหาก่อน

14 พ.ค. 64 ทนายความของนักข่าว และผู้ติดตาม พยายามยื่นขอขอปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 5 คน เนื่องจากเกรงว่าทั้งหมดอาจถูกส่งกลับพม่าในสถานการณ์ที่กองทัพพม่าไล่กดปราบนักข่าวที่นำเสนอข่าวการประท้วงต้านรัฐประหารในพม่าอย่างหนักหน่วง โดยทางทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท และใช้ตำแหน่งทางวิชาการของ ผศ.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนายประกันให้แก่ผู้ถูกจับกุมทั้ง 5 คน แต่ไม่สำเร็จ 

22 พ.ค. 64 มีการยื่นคำร้องขอฝากขังและผัดฟ้องเป็นครั้งที่ 2 ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องพนักงานอัยการจากยังทำสำนวนไม่เสร็จ ก่อนที่เมื่อ 28 พ.ค. 64 พนักงานอัยการศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งฟ้องนักข่าว DVB 3 คน และผู้ติดตามอีก 2 คน ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง) โดยศาลได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีนี้เป็นที่เรียบร้อย 

ในวันเดียวกัน ศาลแขวงเชียงใหม่พิจารณาตัดสินโทษนักข่าว DVB และผู้ติดตาม ตามที่รายงานข้างต้น พร้อมกับส่งตัวมาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถนนสวนพลู เพื่อทำเรื่องผลักดันออกนอกประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 54 ต่อไป