สปสช.จ่ายเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตหลังวัคซีน COVID-19 จ.แพร่-สงขลา

สปสช.มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้าน จ.แพร่ และอีกกรณีที่ จ.สงขลา เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน COVID-19 รายละ 400,000 บาท แม้ยังไม่สามารถสรุปว่าเป็นผลจากวัคซีนหรือไม่ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น บรรเทาความเดือดร้อน ไม่ต้องรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์

นพ.เติมชัย เต็มยิ่งยง ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 1 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 ระดับเขตพื้นที่ เขต 1 เชียงใหม่ ได้มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่กรณีของนายอุดร เย็นจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ห้วยม้า จ.แพร่ ซึ่งเสียชีวิตภายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นเงินจำนวน 400,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเต็มอัตราในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรที่กำหนดให้จ่ายได้ไม่เกิน 400,000 บาท โดย สปสช.จะเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยเร็วภายใน 5 วัน 

นพ.เติมชัย เปิดเผยต่อว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับความเสียหายหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมเป็นจำนวน 23 ราย เป็นเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 475,500 บาท นอกจากเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีการเสียชีวิตของนายอุดร เย็นจิตร จำนวน 400,000 บาทแล้ว ที่เหลือเป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบเล็กน้อย  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ เขต 1 เชียงใหม่ได้ประชุมไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 และ 28 พฤษภาคม และวันที่ 4 มิถุนายน รวมพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไป 100 ราย จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไปจำนวน 717,500 บาท     

ด้าน ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและสมอง กรรมการสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฯ ระดับเขตพื้นที่ เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตภายหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของนายอุดร เย็นจิตรนั้น ตามข้อมูลผู้เสียชีวิตได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ต่อมาตอนกลางคืนวันที่ 18 พฤษภาคม มีอาการหายใจผิดปกติ ถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามประวัติพบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวไทรอยด์เป็นพิษ สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นน่าจะเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน   

“คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าการเสียชีวิตของนายอุดร เย็นจิตร เป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องหรือเป็นผลมาจากจากการได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งเป็นไปตามหลักการสำคัญของการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ ของ สปสช.อยู่แล้ว ที่มุ่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิดหรือผลพิสูจน์ทางการแพทย์” ผศ.นพ.สุรัตน์ กล่าว 

สปสช.จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 4 แสน ผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด จ.สงขลา  

ด้าน ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 12 สงขลา เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ระดับเขตพื้นที่ เขต 12 สงขลา ได้ร่วมกันพิจารณาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนจะเห็นพ้องร่วมกันที่จะอนุมัติการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน จ.สงขลา เป็นจำนวน 4 แสนบาท 

สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกในวันที่ 14 พ.ค. 2564 และไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ในช่วง 30 นาทีแรก สองวันถัดมาคือในวันที่ 16 พ.ค. 2564 เริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อย ถัดจากนั้นอีก 3 วัน คือวันที่ 19 พ.ค. 2564 เกิดอาการวูบ จึงได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกระทั่งในวันที่ 22 พ.ค. 2564 เริ่มเกิดอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และหมดสติในวันที่ 27 พ.ค. 2564 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ทพ.วิรัตน์ กล่าวว่า ทางคณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าเจตนารมณ์ของประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ในข้อที่ 3 ระบุว่า เงินช่วยเหลือเบื้องต้นคือเงินที่จ่ายให้กับผู้รับบริการ ทายาท หรือผู้อุปการะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากวัคซีนโควิด-19 โดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด  

ทั้งนี้ จากกรณีนี้ถือว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน แต่จากเจตนารมณ์ของประกาศที่ตั้งใจบรรเทาความเดือดร้อนให้กับทายาทหรือผู้อุปการะโดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติจ่ายเงินจำนวน 4 แสนบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัว 

อนึ่ง การพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหาย จากการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สปสช.เขต 12 สงขลา แล้วจำนวน 10 ราย ผลการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 8 ราย รวมเป็นเงิน 537,000 บาท เป็นอาการเจ็บป่วยปานกลาง จำนวน 1 ราย เป็นอาการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล 6 ราย และเสียชีวิต 1 ราย (400,000 บาท) 

ด้าน พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาฯ เขต 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ได้พิจารณาคำร้องของญาติผู้ป่วยที่มีอาการโคม่าหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มิ.ย. 2564 ควบคู่ไปกับผลการสอบสวนโรค ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ลงความเห็นว่าไม่ได้เป็นผลมาจากวัคซีน แต่ในแง่การช่วยเหลือทางสังคมในเบื้องต้น ทางอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาจ่ายเงินจำนวน 7.5 หมื่นบาท  

พญ.ลลิตยา กล่าวว่า กรณีนี้ผู้ป่วยยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และได้รับการผ่าตัดไปแล้ว 2 รอบ แต่ผู้ป่วยยังอยู่ในอาการโคม่า โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่า สาเหตุเกิดจากรอยโรคเดิมที่เป็นอยู่ ซึ่งก็คือโรงเส้นเลือดสมองโป่งพอง      

“ผู้ป่วยรายนี้สิทธิประกันสังคม ซึ่งทางประกันสังคมก็จะดูแลอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่อย่างไรก็ตามทางเราก็จะยังคงประสานงานกับทางญาติของผู้ป่วย ซึ่งถ้าเขาไม่พอใจก็สามารถยื่นอุทธรณ์มาได้” พญ.ลลิตยา กล่าว  

ทั้งนี้ หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรี สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช.ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่ สปสช.สาขาเขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต โดยมีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย ในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร. 1330 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท