Skip to main content
sharethis

'ศิริกัญญา ตันสกุล' กมธ.งบ 65 เล็งเฉือนงบ 'กลาโหม-มหาดไทย' รวม 3.4 หมื่นล. หวังเสียงประชาชนกดดัน ชี้เคยเขย่ากองทัพเรือถอนซื้อเรือดำน้ำมาแล้ว - 'ยุทธพงศ์' ยันเดินหน้าติดตามตรวจสอบวาระ 2 ชี้หลายหน่วยงานมีงบราชการที่ไม่มีรายละเอียด

ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร | แฟ้มภาพ
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร | แฟ้มภาพ

6 มิ.ย. 2564 มติชนออนไลน์ รายงานว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฝ่ายนโยบาย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ถึงแนวทางการปรับลดงบประมาณในชั้น กมธ. สัดส่วนของพรรคก้าวไกลว่าได้ตั้งเป้าปรับลดงบประมาณเพื่อคืนให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับประชาชน ซึ่งถูกปรับลดไป 3.5 หมื่นล้านบาท เช่น งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เงินชดเชยภาษีที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กองทุนเพื่อเสมอภาคเพื่อการศึกษา (กสศ.) ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่ว่าหน่วยงานเหล่านี้เคยของบประมาณมาก่อนหน้าหรือไม่

กระทรวงต่างๆ ที่จะไปตัดงบ คือ กระทรวงกลาโหม ที่สามารถลด ตัด เลื่อน เพื่อให้ได้วงเงินงบประมาณคืนมาเกือบ 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ เรายังเจองบก่อสร้างของกระทรวงมหาดไทยอีกจำนวนมากที่เลื่อนออกไปก่อนได้ เช่น งบเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง งบก่อสร้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด และอาคารที่ทำการต่างๆ คาดว่าจะตัดลดได้อีกประมาณ 4 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเข้าไปดูในรายละเอียดในชั้นอนุ กมธ.เพื่อไม่เป็นการรีบตัดสิน เพราะเมื่อปี 2563 ในชั้น อนุ กมธ. สามารถตัดงบประมาณได้ 3 หมื่นกว่าล้านบาท นำไปคืนให้ กสศ. หรือเงินชดเชยภาษีที่ดินฯได้เหมือนกัน ปีนี้เราก็จะไล่ดูงบอบรมสัมมนา งบครุภัณฑ์ หรือค่าจ้างที่ปรึกษาต่างๆ ที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนเป็นรายบรรทัด

เมื่อถามว่า การที่ ส.ส.พรรค ก.ก.ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญใน กมธ.งบประมาณ 2565 จะมีผลต่อการทำงานหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่มีเลย ตนยืนยันตลอดการทำหน้าที่ใน กมธ. 3 ปี และเคยได้รับตำแหน่งรองประธาน กมธ. ก็ยังไม่เห็นว่าการดำรงตำแหน่งสำคัญจะช่วยให้กระบวนการทำงานคล่องขึ้นแต่อย่างใด และ กมธ.หลายคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญ ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ตนคิดว่าความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระที่เราถกเถียงกันและให้เหตุผลหน่วยงานต่างๆ ในการตัดงบมากกว่า

เมื่อถามถึงเสียงพิพากษ์วิจารณ์ต่อการแย่งชิงตำแหน่งสำคัญใน กมธ.งบประมาณ เป็นไปเพื่อดึงงบประมาณให้พื้นที่และรักษาฐานเสียงทางการเมืองของนักการเมือง น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ประเด็นนี้อาจจะมี ส.ส.บางส่วนที่ต้องการทำเพื่อคนในพื้นที่ แต่ว่าถ้าลองนึกภาพดูว่าหาก ส.ส.ทุกคนทำแบบนี้ ก็เท่ากับว่าประเทศนี้ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง สุดท้ายอาจจะมีแค่โครงการตัดถนน ทำแหล่งน้ำลงไปในพื้นที่ต่างๆ แต่โครงการที่จะเป็นโครงการพัฒนาที่สำคัญก็อาจจะถูกลดความสำคัญลงไป เช่น งบวิจัย และพัฒนา หรืองบสนับสุนนเอสเอ็มอี เราคิดว่าหากทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ดีแน่นอน

เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะทำงานลำบากหรือไม่ หาก กมธ.ส่วนใหญ่ยึดแนวทางดึงงบประมาณเพื่อรักษาฐานเสียงของตัวเอง น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แน่นอนว่า กมธ. 6 คน ของพรรค ก.ก.อาจจะไม่สามารถเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่จะโหวตผ่านในแต่ละเรื่อง แต่เรื่องสำคัญคือการทำการบ้านเรื่องข้อมูลตัวเลข และเหตุผล

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เสียงของประชาชนนอก กมธ.ที่จะช่วยกดดัน เหมือนเมื่อปี 2563 ที่ กมธ.โหวตผ่านงบซื้อเรือดำน้ำ แต่ด้วยแรงกดดันจากสังคม ก็ทำให้กองทัพเรือถอนเรื่องนี้ออกไป ดังนั้น จึงต้องทำงานสอดประสานกันระหว่าง กมธ. และประชาชน ที่อยู่นอกสภา จากวันนี้เป็นต้นไป กมธ.ของพรรค ก.ก.จะไม่ได้ทำงานแต่ในห้อง แต่จะสื่อสารออกให้ประชาชนข้างนอกได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใน กมธ. ถือเป็นการมาฟ้องและแจ้งให้ทราบ เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประชาชน” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

'ยุทธพงศ์' ยันเดินหน้าติดตามตรวจสอบวาระ 2 เผยหลายหน่วยงานมีงบราชการที่ไม่มีรายละเอียด

สำนักข่าวไทย รายงานว่านายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการติดตามการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ในชั้นกรรมาธิการอ่านว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคในฐานะ เป็นรองประธานกมธ.ฯได้แบ่งงานการทำงานโดยมอบหมายให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ดูแลด้านศึกษา นายไชยา พรหมา ดูด้านเศรษฐกิจ และมอบตนให้ดูด้านความมั่นคง ซึ่งจะเข้าไปดูงบประมาณราชการลับ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหลายหน่วยงานมีงบราชการที่ไม่มีรายละเอียด โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงกลาโหม กับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ตนสงสัยว่ามีความจำเป็นอย่างไร แสดงว่าการจัดสรรงบประมาณไม่สัมพันธ์กับสถานการณ์และเกิดประโยชน์สูงสุด กับประเทศชาติและประชาชน จึงต้องเข้าไปตรวจสอบ

นายยุทธพงษ์ กล่าวด้วยว่าพรรคเพื่อไทยยังจะเข้าไปตรวจสอบงบประมาณการจัดซื้ออาวุธต่างๆ ของกองทัพ เพราะวันนี้ การจัดเก็บภาษีไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แต่ยังคงมีโครงการจัดซื้ออาวุธ โดยจะเห็นได้ว่า กองทัพบกมีโครงการจัดหายานเกราะล้อยางปี 2563- 65 จำนวน 4,515 ล้าน กองทัพเรือมีโครงการซื้อเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ โครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตีระยะไกล ซึ่งเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากเพื่อนบ้านไม่ได้มีภาวะสงครามอะไร และทั้งหมดเป็นยุทโธปกรณ์ที่ซื้อจากจากต่างประเทศทั้งนั้น หากซื้อก็ยังเดินทางไปฝึกไม่ได้ เพราะเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่านอกจากนี้มีความคืบหน้าจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่หลังจากอภิปรายและร้องไปยัง ป.ป.ช. แล้ว ปรากฏว่า ป.ป.ช.ชุดใหญ่รับเรื่องและแจ้งกลับมายังพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ร้องให้เข้าไปชี้แจงในสัปดาห์หน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net