นิติศาสตร์จุฬาฯ แจงเร่งสืบหาข้อเท็จจริงกรุ๊ปไลน์คุกคามทางเพศนิสิตหญิง - รองโฆษก ตร. ยืนยันกลุ่มไลน์ของนักเรียนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เป็นข่าว มีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดและคุกคามทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

6 มิ.ย. 2564 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าจากดรามา แฮชแท็ก #นิสิตจุฬา ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยเกิดจากที่มีการแฉแชตของนิสิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งกรุ๊ปไลน์ ประมาณ 60 คน มีการพูดคุยในลักษณะส่องสาว และเริ่มคุกคามทางเพศ คุกคามเพื่อนผู้หญิงคณะเดียวกัน และลามไปถึงการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มนิสิตคณะอื่น แล้วเอารูปมาวิจารณ์สนุกปาก จนล่าสุดทางคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องออกมาแถลงการณ์ เสียใจต่อพฤติกรรมของนิสิตกลุ่มดังกล่าว และทางคณะจะเร่งสืบหาข้อเท็จจริง และประสานงานเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

วันนี้ (6 มิ.ย.) เรื่องนี้เริ่มจากการที่มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่สอบติดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปีนี้ จากนั้นก็มีการดึงเพื่อนร่วมคณะที่ติดมาสร้างกรุ๊ปกัน โดยเป็นกลุ่มชายล้วนในกรุ๊ปประมาณ 60 คน จากคนสอบติดทั้งหมด 300 คน ในตอนแรกกรุ๊ปดังกล่าวไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีคนเปิดไพ่ เริ่มมีการพูดคุยในลักษณะส่องสาว และเริ่มคุกคามทางเพศ เช่น การที่บอกว่าอยากไปเป็นพนักงานร้านขายเสื้อ เพื่อจะได้วัดตัวนิสิตหญิง และถึงแม้ภายในกลุ่มจะมีบางคนออกมาทักว่า "กลุ่มเราคุกคามจังวะ" แต่คนที่พูดจาคุกคามนั้นก็ยังไม่หยุด คำพูดบางอย่างมีลักษณะคุกคามเพศหญิงอย่างเห็นได้ชัด และมีการแชร์ไลน์ของนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะที่มีผู้หญิงเรียนเยอะ รวมไปถึงคณะบัญชี คณะอักษรศาสตร์ เพื่อแคปฯ รูปแล้วนำไปหาข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ และพูดจาในเชิงคุกคาม

ทั้งนี้ ได้มีคนแคปฯ แชตในกลุ่มออกมาจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์เพื่อเรียกร้องให้ทางคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกมาจัดการและออกบทลงโทษที่ชัดเจน โดยโซเชียลได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่เลวร้ายของนิสิตกลุ่มนี้อย่างหนัก ที่แม้กำลังจะเรียนกฎหมาย แต่กลับมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่คุกคามทางเพศ และพูดจาด้อยค่าและไม่ให้เกียรติ

อย่างไรก็ตาม ทางคณาจารย์รวมถึงนิสิตจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ก็ได้ออกมาจัดการเรื่องนี้ทันที เช่น ศ.ดร.คณพล จันทน์หอม ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า "นักเรียนกฎหมายต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ และพิทักษ์สิทธิตลอดจนเสรีภาพของบุคคลอื่นเอาไว้อย่างมั่นคง" รวมไปถึงคณบดีจากคณะนิติศาสตร์ ที่ได้โพสต์ข้อความกล่าวแสดงความเสียใจต่อพฤติกรรมของนิสิตกลุ่มดังกล่าว และทางคณะจะเร่งสืบหาข้อเท็จจริง และประสานงานเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

รองโฆษก ตร. ยืนยันกลุ่มไลน์ของนักเรียนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เป็นข่าว มีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดและคุกคามทางเพศ

เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานว่าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มไลน์ของนักเรียนที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดและคุกคามทางเพศ ว่ากรณีข้างต้นตามที่เป็นข่าว เริ่มต้นจากนักเรียนชายที่เพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นนิสิตใหม่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อ LawMen ที่มีเฉพาะนักเรียนชาย ในช่วงแรกไม่มีการแชทพูดคุยกันมากนัก กระทั่งมีนักเรียนบางคนเริ่มชวนคุยเรื่องผู้หญิง และมีการนำภาพนิสิตหญิงมาลง พร้อมใช้คำพูดในเชิงคุกคามทางเพศ จากนั้นมีคนในกลุ่มไลน์ดังกล่าวที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว และนำภาพการสนทนาในกลุ่มเผยแพร่ลงสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาตำหนิและกดดันนักเรียนชายในกลุ่มนี้ ซึ่งต่อมาทางคณะนิติศาสตร์ ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เร่งรัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะดำเนินการต่อไปโดยเร็ว ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ถูกกล่าวถึง อาจจะเกิดเป็นบาลแผลในจิตใจซึ่งส่งผลในระยะยาว และผู้ที่ถูกกล่าวถึงอาจจะรู้สึกมาปลอดภัยอีกต่อไปก็เป็นได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น ให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ และมีลักษณะส่อไปในทางที่ล่วงละเมิดทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ขอให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวและมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ก็จะมีความผิดในแง่ของตัวการ, ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน ซึ่งจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวฝากแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันถ้อยคำที่ส่อไปถึงการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ว่าควรเก็บข้อมูลส่วนตัวของตัวเองให้ดี ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์, เคารพสิทธิของผู้อื่นอยู่เสมอ มีสติทุกครั้งในการแสดงความคิดเห็น, ผู้ปกครองต้องคอยสอดส่องดูแลให้คำแนะนำในการใช้สื่อออนไลน์แก่บุตรหลาน และขอตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้หยุดการกระทำเสีย นอกจากนี้หากพบเห็นการกระทำดังกล่าว อย่าส่งต่อ อย่าแสดงความคิดเห็น อย่าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะทางใด เพราะทุกคนต่างเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ บนสังคมออนไลน์ให้หมดไป