Skip to main content
sharethis

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าควรฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม 2 ภายใน 8-12 สัปดาห์เพราะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด ในขณะที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS), รัฐควิเบกของแคนาดา และ สปป.ลาว ประกาศลดเวลาการฉีดเข็ม 2 เหลือ 8 สัปดาห์ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

7 มิ.ย. 2564 วันนี้ (7 มิ.ย. 2564) เวลา 10.07 น. พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Pannika_FWP ถามความเห็นบุคลากรทางการแพทย์ระยะเวลาการรับวัคซีนแอสตราเซเนกาห่างกันเกิน 3-4 เดือน จากปกติที่แพทย์แนะนำให้ฉีดห่างกัน 3-4 สัปดาห์ พร้อมโพสต์รูปถ่ายป้ายประกาศหน้าสถานที่ฉีดวัคซีนวัคซีนแห่งหนึ่ง ระบุว่าเริ่มฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกในวันที่ 7 มิ.ย. 2564 และให้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 27 ก.ย. 2564 ซึ่งมีระยะเวลาทิ้งห่างกันถึง 16 สัปดาห์ ในขณะที่ข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลกระบุว่าควรฉีดห่างกัน 8-12 สัปดาห์

 

นอกจากนี้ ประชาชนบางคนที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกหลายคนได้รับนัดหมายให้มาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันเกิน 16 สัปดาห์ โดยหนึ่งในผู้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาในวันนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประชาไทว่าเขาได้รับนัดหมายให้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 4 ต.ค. 2564 ซึ่งคิดเป็น 17 สัปดาห์นับจากเข็มแรก

 

WHO แนะนำฉีด 'แอสตราเซเนกา' เข็ม 2 ภายใน 8-12 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2564 ระบบบริการ​สุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า "วันนี้ รัฐบาลประกาศเลื่อนระยะเวลาการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 2 ให้เร็วขึ้น จาก 12 สัปดาห์เป็น 8 สัปดาห์ ประชาชนควรมารับวัคซีนตามนัดหมายและไม่จำเป็นต้องติดต่อมายัง NHS แต่จะมีเจ้าหน้าที่จะติดต่อไป หากคุณได้รับคำแนะนำว่าควรเลื่อนการนัดหมายฉีดวัคซีน"

 

 

นอกจากนี้ NHS ได้ระบุข้อแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 บนเว็บไซต์ว่า "วัคซีนที่พร้อมฉีดในขณะนี้ต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยปกติแล้ว คุณสามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ภายใน 8-12 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก"

คำแนะนำการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 จากเว็บไซต์ NHS ของสหราชอาณาจักร (บันทึกภาพเมื่อ 7 มิ.ย. 64)
 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 บอร์ริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงว่ารัฐบาลจะปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้รวดเร็วขึ้นด้วยการร่นระยะเวลาระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 ให้เหลือเพียง 8-12 สัปดาห์ ประชาชนกลุ่มแรกที่จะได้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์ คือ คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยแผนการฉีดวัคซีนรูปแบบใหม่นี้มีขึ้นเพื่อรับมือกับการกลายพันธุ์ของเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย และเพื่อเตรียมพร้อมยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบในเดือน มิ.ย. นี้

ระยะห่างระหว่างการรับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกและเข็มที่ 2 ของทางการสหราชอาณาจักรสอดคล้องกับคำแนะนำการฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุไว้ว่าควรฉีดห่างกัน 8-12 สัปดาห์ (อัปเดตข้อมูลบนเว็บไซต์เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564) ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของหลายประเทศ เช่น ลาว โดย พอนปะเสิด อุนาพม หัวหน้ากรมอนามัยและส่งเสริมสุขภาพ สาธารณสุขลาว แถลงผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กว่า ทางการลาวลดระยะเวลาการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 จากเดิม 12 สัปดาห์มาเป็น 8 สัปดาห์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ทางการลาวขอให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกไปแล้ว สามารถนำใบนัดหมายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจุดฉีดวัคซีนเพื่อรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้เลยหากครบกำหนด โดยไม่ต้องนัดหมายใหม่

นอกจากนี้ รัฐควิเบกของแคนาดาก็ประกาศลดระยะเวลาการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 เหลือเพียงภายใน 8 สัปดาห์เช่นเดียวกัน ในขณะที่บางรัฐ เช่น ออนทาริโอ ประกาศเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่าประชาชนที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ให้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 12 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขของแคนาดาระบุไว้ชัดเจนในเว็บไซต์ว่าสามารถรับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ได้ภายใน 4-12 สัปดาห์หลังฉีดเข็มแรก เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ที่ระบุว่าควรฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ภายใน 4-12 สัปดาห์ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันแห่งชาติออสเตรเลียแนะนำว่า การฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ในสัปดาห์ที่ 12 สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดประสิทธิภาพได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันแห่งชาติของแคนาดา (NACI) ให้ข้อแนะนำในส่วนของการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ว่าหากผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกไม่สามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ภายในระยะเวลา 4-12 สัปดาห์ สามารถขยายระยะเวลาออกไปเป็น 16 สัปดาห์ได้ โดยอ้างอิงผลการทดลองวัคซีนขั้นคลินิกของบริษัทแอสตราเซนเนก้า แต่ถึงกระนั้น ข้อแนะนำดังกล่าวไม่ได้ระบุไว้ในข้อแนะนำการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการขององค์การอนามัยโลก (WHO)

ที่มา:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net