‘ฟู้ดแพนด้า’ เผยร้านอาหาร 2.5 หมื่นรายปิดตัว ‘ส.ส.ก้าวไกล’ จี้รัฐหนุนตรงทดแทนรายได้ร้าน พยุงการจ้างงาน

จงใจปล่อยเจ๊งหรือเปิดทางทุนใหญ่กินรวบ ? ‘วรภพ ส.ส.ก้าวไกล’ กังขามาตรการรัฐหลัง ‘ฟู้ดแพนด้า’ ประกาศร้านอาหาร 25,000 รายปิดตัว จี้ ภาครัฐแสดงความจริงใจเยียวยาผู้ประกอบการเร่งด่วน แนะหนุนตรงทดแทนรายได้ร้านอาหาร พยุงการจ้างงานให้ประชาชน

 

7 มิ.ย.2564 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไทยรัฐ รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ เฟลเดอร์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งฟู้ดแพนด้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ฟู้ดแพนด้าได้ปล่อยแคมเปญ #SupportSME เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อย ร้านค้าขนาดเล็ก และผู้ค้าในตลาดสด ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ โดยใช้งบกว่า 75 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย 30,000 ราย ลดค่าคอมมิชชันเหลือเพียง 25% ตลอดทั้งแคมเปญ ตั้งแต่ วันที่ 1-30 มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งฟู้ดแพนด้า ยังระบุว่า ในการระบาดระลอก 3 ซึ่งเริ่มต้นในปีนี้นั้น พบว่าธุรกิจทั้งระบบได้รับผลกระทบมากกว่า โดยในระบบของฟู้ดแพนด้าพบว่ามีผู้ประกอบการปิดร้านไปราว 25,000 ร้าน ทั้งปิดชั่วคราวและถาวร ขณะเดียวกันก็มีร้านค้าเปิดใหม่เพิ่ม โดยปัจจุบันมีร้านค้าแอ็กทีฟหรือมียอดขายขั้นต่ำ 1 ออเดอร์ต่อวันในแพลตฟอร์มฟู้ดแพนด้า 140,000 ร้าน

วันนี้ (7 มิ.ย.64) ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์ของผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 โดยระบุว่า จากกรณีผู้บริหารบริษัทฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) ชี้แจงล่าสุดว่า มีร้านอาหารบนแพลตฟอร์มต้องปิดตัวเพราะพิษ Covid-19  ทั้งชั่วคราวและถาวร ถึง 25,000 ราย หากเฉลี่ยร้านอาหารจ้างงานกัน 3 คน เท่ากับว่ามีคนตกงานไปแล้ว 75,000 ซึ่งในประเด็นนี้ หากไปคุยกับผู้ประกอบการรายย่อย ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การระบาดรอบที่ 3 หนักที่สุดและสภาวะการระบาดก็ยังดูไม่มีที่ท่าว่าจะสิ้นสุด 

“ตั้งแต่ระบาดรอบแรกจนถึงรอบสาม ปีกว่าแล้วที่รัฐบาลไม่เคยเหลียวแล ธุรกิจของรายย่อยเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบเต็มๆจากการลดลงการเดินทางและต้องกักตัวอยู่บ้าน แต่พวกเขาเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐเลย มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู SMEs ที่ไม่เคยมีสินเชื่อมาก่อน เข้าถึงได้เพียง 81 ราย วงเงินรวมปล่อยไปได้เพียง 20,839 ล้านบาท เพียง 8% จาก วงเงิน 250,000 ล้านบาท มีแววว่าจะซ้ำรอยมาตรการ Soft Loan เหมือนปีที่แล้ว ที่คนต้องการกู้ไม่ได้ คนกู้ได้ไม่ใช่คนที่ต้องการ ความช่วยเหลือจากรัฐในตอนนี้ควรจะเป็นมาตรการเยียวยาทางตรงไปที่ร้านอาหารเพื่อทดแทนรายได้และพยุงการจ้างงานของลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง เพราะรอบนี้ชัดเจนว่า มาตรการของรัฐกระทบกิจการ ร้านอาหารโดยตรง รวมถึงร้านเหล้า ร้านนวดสปา หรือผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ถูกคำสั่งปิดด้วย” 

วรภพ กล่าวต่อไปว่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น SMEs ที่รายได้หายไปมากกว่า 50% ของเดือนเดียวกันเทียบกับปีก่อนที่จะมีการระบาด SMEs สามารถไปขอเงินเยียวยาชดเชยรายได้ที่หายไปได้จากรัฐบาลได้เลย โดยมีวงเงินสูงสุดให้ ประมาณ 6 แสนบาท ขณะที่สหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน หลังรับตำแหล่งสองเดือน ออกมาตรการมาว่า หากธุรกิจร้านอาหาร หรือ ผับ บาร์ ร้านเหล้า มีรายได้ที่หายไปจากโควิด สามารถขอเงินเยียวยาชดเชยรายได้ได้ โดยวงเงินสูงสุดที่ร้านอาหารจะได้รับจากการเยียวยาคือ ประมาณ 320 ล้านบาท 

“นี่คือวิธีคิดของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการอยู่รอดของชีวิตผู้ประกอบการรายย่อยหรือคนตัวเล็กที่แสดงถึงความจริงใจที่อยากให้ร้านอาหารรอดจากวิกฤตนี้ไปได้เยอะที่สุด ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรมแบบรัฐบาลไทย คงต้องเรียกร้องว่า พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ต้องออกมาตอบรับปัญหาของผู้ประกอบการรายย่อยว่าจะมีมาตรการเยียวยา อุดหนุนรายได้ทางตรงถ้วนหน้าให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเหล่านี้อย่างไรบ้าง หรือรัฐบาลตั้งใจจะปล่อยให้รายย่อยจะเจ๊งกันถ้วนหน้า ให้เหลือแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ให้กินรวบเศรษฐกิจโดยรายย่อยได้แต่มองธุรกิจของตัวเองพังไปต่อหน้าต่อตาอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท