UN ประเทศเมียนมา เรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมเข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทั้งในรัฐกะเหรี่ยง และรัฐอื่น ๆ หลังช่วงที่ผ่านมา การต่อสู้ในรัฐกะเหรี่ยงรุนแรงขึ้น จนส่งผลให้มีประชาชนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในแล้วกว่า 100,000 คน และประสบวิกฤตขาดแคลนน้ำ อาหาร สาธารณสุข ที่พักพิง 

9 มิ.ย. 64 สำนักงานสหประชาชาติแห่งเมียนมา ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ เมื่อ 8 มิ.ย. 64 เรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงเปิดทาง พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง

หลังสถานการณ์สู้รบพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงระหว่างกองทัพพม่า และฝ่ายต้านรัฐประหารรุนแรงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้พลเรือนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในแล้วกว่า 100,000 คน และกำลังประสบวิกฤตด้านอาหาร-น้ำ ที่พักพิง น้ำมัน และสาธารณสุขอย่างเร่งด่วน

ในแถลงการณ์ระบุว่า สำนักงานสหประชาชาติในเมียนมาขอแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความมั่นคงและมนุษยธรรมในรัฐกะเหรี่ยง และพื้นที่อื่น ๆ ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว  

ความรุนแรงครั้งล่าสุดในรัฐกะเหรี่ยง รวมถึงการโจมตีโดยไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายในเขตพลเรือนโดยกองกำลังความมั่นคง ส่งผลให้ประชาชนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายใน ประมาณ 100,000 คน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก หลายคนต้องอาศัยตามสถานที่ปลอดภัยในชุมชนอื่น ๆ และในป่าทั่วทั้งรัฐกะเหรี่ยง และภาคใต้ของรัฐฉาน วิกฤตการณ์ครั้งนี้ผลักดันให้ประชาชนต้องเดินทางข้ามชายแดนไปยังต่างประเทศ เพื่อหาสถานที่ปลอดภัย อย่างที่เห็นมาแล้วที่ส่วนอื่น ๆ ของประเทศ

สำนักงานแห่งสหประชาชาติ จึงขอเน้นย้ำถึงเรียกร้องแต่แรกเริ่ม โดยให้ทุกฝ่ายดำเนินมาตรการที่มีความจำเป็น และป้องกันล่วงหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องประชาชน และโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน โดยเฉพาะพิทักษ์สิ่งปลูกสร้าง อย่างหน่วยงานรักษาพยาบาล  และบุคลากรสาธารณสุข และตั้งอยู่บนหลักพื้นฐานของความแตกต่าง ความจำเป็น สัดส่วนที่พอเหมาะ และการปกป้อง

ประชาชนที่อพยพหนี และที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ ต่างต้องการอาหาร น้ำ ที่พักพิง น้ำมัน และการเข้าถึงบริการสาธารสุขอย่างเร่งด่วน ทางสำนักงานสหประชาชาติ และพันธมิตร มีสิ่งของช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และพร้อมที่จะกระจายความช่วยเหลือเหล่านี้เพื่อความเติมเต็มความต้องการของประชาชนโดยทันที แต่อาจไม่เพียงพอต่อการจัดการความต้องการของทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่กันดาร ความไม่มั่นคงที่กำลังดำเนิน การเดินทางที่มีข้อจำกัดอันเป็นผลจากนโยบายของฝ่ายความมั่นคง และสภาพถนนอันย่ำแย่ ทำให้การลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ประสบความล่าช้า 

ดังนั้น สหประชาชาติจึงขอเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงทุกฝ่าย อนุญาตเปิดเส้นทางที่ปลอดภัยต่อการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และบุคลากร และอำนวยความสะดวกให้การจัดเตรียมความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์โดยยูเอ็นและพันธมิตร ส่งถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในรัฐกะเหรี่ยงได้โดยตรง เฉกเช่นเดียวกับในรัฐและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ ที่กำลังต้องการสิ่งของจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน