สถานทูตสหรัฐฯ แชร์เรื่องพันธกิจของรัฐบาล 'ไบเดน' ให้การสนับสนุนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ นำเสนอคำกล่าวของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่เคยกลุ่มสนับสนุนและพูดถึงการคุ้มครองผู้มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ รวมถึงผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เป็น LGBTQ+ ในช่วงที่รัฐต่างๆ กำลังพยายามผ่านร่างกฎหมายที่จะเป็นการกีดกันเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศ

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมาเพจสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ นำเสนอโควตของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ โดยระบุว่าจะต่อต้านกฎหมายที่จะทำให้ LGBTQ+ มีความผิดและจะคุ้มครองผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่เป็น LGBTQ+ ด้วย

ข้อความดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ประธานาธิบดีในชื่อ "คำกล่าวของประธานาธิบดีไบเดนในเรื่องที่ทางในโลกของสหรัฐอเมริกา" ที่ออกมาเมื่อราว 4 เดือนก่อนหน้านี้ ในข้อความดังกล่าวเริ่มต้นโดยการกล่าวปราศรัยต่อคณะทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ตามมาด้วยการพูดเน้นย้ำเรื่องนโยบายการต่างประเทศแบบเดียวกับที่เคยพูดไว้ในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่ง

รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ รับรองกฎหมาย 'กีดกันคนข้ามเพศ' ในการแข่งกีฬาโรงเรียน
ความคิดเห็นของกลุ่ม LGBTQ+ ต่อนโยบายของรัฐบาล 'ไบเดน' ช่วง 100 วันแรก
กรณีร่างกฎหมายกีดกันคนข้ามเพศในสหรัฐฯ ไม่ให้แข่งกีฬา ผลพวงและเสียงต่อต้าน

ไบเดนระบุถึงเรื่องดังกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะกลับมาเชื่อมสัมพันธ์กับพันธมิตรเดิมอีกครั้งเพื่อรับมือกับปัญหาในอนาคตได้ รวมถึงจะเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหากระแสอำนาจนิยมที่รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ จากความทะเยอทะยานของจีนในการเป็นคู่แข่งสหรัฐฯ และการพยายามของรัสเซียในการขัดขวางและพยายามทำลายประชาธิปไตยของสหรัฐฯ โดยที่ไบเดนยังเน้นย้ำอีกว่าพวกเขาต้องเริ่มจากรากฐานของความเป็นอเมริกันซึ่งให้คุณค่ากับประชาธิปไตย "ปกป้องเสรีภาพ การให้โอกาส และรักษาสิทธิมนุษยชนสากล การเคารพในหลักนิติธรรม และปฏิบัติต่อผู้คนทุกคนอย่างเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"

ในถ้อยแถลงยังระบุถึงกรณีการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในพม่าโดยเรียกร้องให้กองทัพพม่าหรือทัตมะตอว์คืนอำนาจประชาธิปไตยและปล่อยตัวนักการเมืองและนักกิจกรรมที่พวกเขาจับตัวไว้ รวมถึงยกเลิกการแบนอินเทอร์เน็ตและการใช้ความรุนแรง

ไบเดนยังระบุถึงกรณีวิกฤต COVID-19 กรณีการให้สหรัฐฯ กลับคืนสู่ข้อตกลงเรื่องโลกร้อนปารีส กรณีที่สหรัฐฯ กำลังเริ่มกลับมาสร้าง "พันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตย" กับประเทศอื่นๆ รวมถึงนาโต้ มีการพูดวิจารณ์รัสเซียกรณีการลิดรอนสิทธิในการชุมนุมอย่างสันติและลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการคุมขังฝ่ายค้าน เล็กซี นาวาลนี อย่างมีแรงจูงใจทางการเมือง

นอกจากเรื่องพันธกรณีต่างๆ กับโลกและการเมืองระหว่างประเทศ ไบเดนยังแถลงถึงเรื่องเกี่ยวกับการยกเลิกการกีดกันคนเข้าประเทศชาวมุสลิมที่เคนมีในช่วงสมัยโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงยกเลิกการสั่งห้ามไม่ให้คนข้ามเพศสมัครเป็นทหาร

ในประเด็นเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศอื่นๆ ไบเดนระบุว่าเขาจะกลับมาให้ความสำคัญในประเด็นผู้มีความหลากหลายทางเพศในระดับนานาชาติ โดยเน้นการต่อต้านกฎหมายการทำให้อัตลักษณ์ตัวตนของ LGBTQ+ เป็นเรื่องผิดกฎหมายรวมถึงให้การคุ้มครองผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัย LGBTQ+ โดยไบเดนระบุอีกว่านอกจากประเด็นของสิทธิมนุษยชนสำหรับคนทั่วโลกแล้วเขาก็ต้องการจะคุ้มครองสิทธิเหล่านี้ต่อประชาชนชาวอเมริกันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิทธิสตรี สิทธิความหลากหลายทางเพศ ชุมชนชนพื้นเมือง คนพิการ และความเสมอภาคของผู้คนจากทุกเชื้อชาติศาสนา

สำหรับกรณีความหลากหลายทางเพศนั้น ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีรัฐบางรัฐที่ทำการร่างหรือผ่านร่างกฎหมายในทำนองกีดกันเลือกปฏิบัติต่อคนข้ามเพศเช่นรัฐฟลอริดาที่เพิ่มมีกฎหมายกีดกันวัยรุ่นที่เป็นคนข้ามเพศไม่ให้แข่งขันกีฬาโรงเรียนตามเพศสภาพของพวกเขา โดยมีอีกหลายรัฐโดยเฉพาะรัฐที่มีผู้นำสังกัดพรรครีพับริกันพยายามออกกฎหมายกีดกันแบบเดียวกันนี้

เรียบเรียงจาก
Remarks by President Biden on America’s Place in the World, White House, 04-02-2021
เพจสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท