Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ศบค.ใจดี? ปลดล็อกให้ท้องถิ่นซื้อวัคซีนเองได้ อบจ. เทศบาล ไชโยโห่ร้องกันใหญ่ รีบสั่งซื้อวัคซีนให้ประชาชนของตน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะสั่ง Sinopharm เข้ามาอีก 5-6 ล้านโดส เผลอๆ พุ่งกระฉูดเกิน 10 ล้าน เพราะความต้องการล้นหลาม

ถามว่ามันใช่หรือ การจัดหาวัคซีนเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ต้องจัดสรรให้ประชาชนทุกคนทุกพื้นที่ทุกจังหวัดโดยไม่เลือกปฏิบัติ หากจะมีใครได้ก่อนได้หลังก็เพราะต้องจัดลำดับตามสถานการณ์ เช่นให้ผู้สูงวัยก่อน กลุ่มเสี่ยงก่อน พื้นที่เสี่ยงก่อน แต่นี่กลับผลักภาระให้ท้องถิ่นควักเงินสะสมซื้อเอง แบบใครมีเงิน ใครใจกล้า ก็ได้วัคซีนทางลัดใครไม่จ่ายก็ต้องรอวัคซีนรัฐที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

วัคซีนไม่ใช่เรื่องกระจายอำนาจ การจัดสรรวัคซีนต้องเป็นไปตามยุทธศาสตร์ควบคุมโรคฉุกเฉินระดับชาติ ขนาดอเมริกาที่เป็นสหพันธรัฐ เลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ ยังไม่ปล่อยให้แต่ละมลรัฐซื้อวัคซีนเองตัวใครตัวมัน นั่นรัฐอิสระ ไม่ใช่ประเทศ

โดยหลักการจึงปล่อยให้ อปท.ซื้อวัคซีนเองไม่ได้ แม้ต้องเห็นใจ อปท. เช่น นายกฯ หัวหิน นายกฯ ยะลา สั่งซื้อ 50,000 โดส เพราะประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจวอดวาย ไม่รู้จะเปิดท่องเที่ยวค้าขายได้เมื่อไหร่ ถ้ารอรัฐบาลไม่รู้ชาติไหนจะถึงคิว

แต่นั่นก็เพราะความล่าช้า ความประมาท ในการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล “แทงม้าตัวเดียว” แล้วอลหม่านไปหมด จัดสรรให้ไม่ได้ไม่เพียงพอ กระทั่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ “แหวกวงล้อม” สั่ง Sinopharm เข้ามาเป็นตัวเลือก อปท.จึงแห่จองล้นหลาม

มันดูเหมือนดีในสถานการณ์เฉพาะหน้า ประชาชนได้ฉีดวัคซีนเร็วขึ้น ดีกว่ารอ AstraZeneca ทีละขยักๆ (เลื่อนส่งอีก 2 วัน) แต่มันก็เกิดความลักลั่น อย่างที่ ทิม พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยท้วงไว้ ว่าจะเกิดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม มือใครยาวสาวได้สาวเอา

สมมตินะ เทศบาล ก.ซื้อ เทศบาล ข.ไม่ซื้อ ประชาชนก็จะไม่พอใจ กดดัน ต้องซื้อให้ได้ แต่เวลาผ่านไป ประชาชนก็จะหวนมาสงสัยว่าทำไมคนบ้านเราต้องใช้เงินสะสมซื้อ แทนที่จะเอาไว้พัฒนาท้องถิ่น แต่คน กทม.กลับได้วัคซีนฟรี

นี่มันทั้งเหลื่อมล้ำ ลักลั่น ไม่ต้องพูดถึง อบต.หนองอีแหนบ ไม่มีทางซื้อได้ อาจต้องรอปลายปีจึงได้ของฟรี (จากภาษีประชาชน)

ทำไมคน กทม.ได้ก่อน ได้ฟรี หนุ่มสาวได้ฉีด AstraZeneca คนแก่บางจังหวัดได้ Sinovac ก็เพราะยุทธศาสตร์รัฐบาลต้องการทุ่มฉีดพื้นที่เสี่ยง กทม. ปริมณฑล เป็นศูนย์กลางกระจายโควิด ต้องยับยั้งเป็นจุดแรก

แต่รัฐบาลไม่อธิบาย ไม่กล้าบอกประชาชน ต้องการสร้างภาพ กดปุ่มเปิดป้ายฉีดวัคซีนพร้อมกันทุกจังหวัด 7 มิถุนายน พอวัคซีนขาดต้องเลื่อนนัดก็โทษ “นักรบชุดขาว” จะตั้งกรรมการสอบโรงพยาบาล ทั้งที่ตัวเองส่งวัคซีนให้ไม่พอ

วัคซีนมาช้า วัคซีนไม่พอ จะโทษใครถ้าไม่ใช่รัฐบาล อย่างที่ธนาธรดักคอไว้ตั้งแต่ต้นปี มีเวลาเตรียมการตั้งแต่ ก.ค.63 ทำสัญญาจอง AstraZeneca รายเดียว 26 ล้านโดส พอเกิดรอบสองตาลีตาเหลือกสั่งเพิ่ม 35 ล้านโดส สั่ง Sinovac 2.5 ล้าน โดสมาแก้ขัด แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นวัคซีนหลัก จาก 6 ล้านโดสเพิ่ม 11 ล้านโดส จากเดือนละ 3 ล้านโดสเป็นเดือนละ 5 ล้านโดส

การยึดเอา Astra เป็นวัคซีนหลักของชาติ แล้วส่งมอบไม่ครบเลื่อนกำหนด ยังส่งผลกระทบต่อแผนการกระจายและฉีดวัคซีน แม้โดยคุณภาพและราคาจะดีกว่าของจีน คือรวมค่าขนส่งจัดเก็บไม่ถึง 200 บาท Sinovac 624 บาท Sinopharm 888 บาท แต่ก็ทำให้รัฐบาลหน้ามืด ต้องสั่ง Sinovac มาตุนและปล่อยให้ท้องถิ่นซื้อ Sinopharm

จำได้ไหม อนุทินตอบโต้ธนาธรเมื่อเดือนมกราฯ เหตุหนึ่งที่เลือก Astra เพราะราคาต่ำกว่ารายอื่น ใช้งบคุ้มค่า เหมาะสมกับประเทศไทย แล้วที่ไม่รีบสั่งไว้เยอะๆ เพราะ UNICEF คาดไว้ว่าครึ่งปีหลังราคาวัคซีนจะถูกลง จะประหยัดงบประมาณได้อีกมาก

เป็นไงละ อปท.จำเป็นต้องซื้อ Sinopharm 888 บาท Pfizer ยังถูกกว่า แต่ที่รัฐบาลสั่งก็ต้องรอคิวกันยาฯ ตุลาฯ

หรือจะบอกว่า อปท.ใช้เงินตัวเองไม่ได้ใช้เงินรัฐบาล มันก็เงินประชาชนทั้งนั้น รัฐบาลที่เพิ่งกู้ 5 แสนล้านกลับ ผลักภาระ

ให้สังเกตด้วยว่า รัฐบาลเดินเกมเป็นขั้นเป็นตอน ครั้งแรกที่ราชวิทยาลัยทลายวงล้อม รัฐบาลก็อ้างกฎหมาย อ้างผู้ตรวจการห้าม ยก สตง.ขู่ สกัดทุกอย่างไม่ให้ อปท.ซื้อ

จนรัฐบาลได้วัคซีนมาจัดงานมหาฤกษ์มหาชัย ผู้นำให้โอวาทก่อนหมอลงเข็ม แม้สับสนอลหม่านก็พอลากถู ประยุทธ์ประกาศซื้อไฟเซอร์ & จอห์นสัน 25 ล้านโดส ตบอกอย่างภาคภูมิใจ มีวัคซีน 100 ล้านโดสถึงปลายปี ค่ำวันที่ 8 ศบค.จึง “ปลดล็อก” ให้ อปท.ซื้อวัคซีนเองได้

ปล่อยให้ซื้อหลังจากรัฐบาลตั้งหลักได้แล้ว ถ้าให้ซื้อแต่แรกรัฐบาลก็ปั่นป่วน นี่ตั้งหลักได้แล้วรัฐบาลก็ผลักภาระ

รัฐบาลล้มเหลวจัดหาวัคซีนไม่พอ อปท.เดือดร้อน ต้องกระเสือกกระสนขอพึ่งตนเอง พอรัฐบาลยอม ก็กลายเป็นรัฐบาลทำถูกทำดี? ทั้งที่ อปท.ควรรุมด่ารัฐบาล ไม่ใช่เอาตัวรอดตัวใครตัวมัน

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6449175

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net