ผู้นำปาเลสไตน์ไม่เชื่อว่านายกใหม่อิสราเอลจะสร้างความเปลี่ยนแปลง

ผู้นำปาเลสไตน์ออกมาแสดงความเห็นว่านาฟตาลี เบนเนต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิสราเอลมีแนวโน้มดำเนินนโยบายตามอุดมการณ์ฝ่ายขวาเหมือนกับนายกรัฐมนตรีคนก่อน

นาฟตาลี เบนเนต ภาพโดย Ralph Alswang จาก Brookings Institution

นาบิล อาบู รูไดเนห์ โฆษกของประธานาธิบดี มาห์มุด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์เรียกการลงคะแนนของรัฐสภาอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าเป็น “กิจการภายในของอิสราเอล” นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า “จุดยืนของเราชัดเจนมาเสมอ สิ่งที่เราต้องการคือรัฐปาเลสไตน์โดยมีชายแดนตามข้อตกลงปี 1967 และมีกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของรัฐดังกล่าว”

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของปาเลสไตน์ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าการเรียกรัฐบาลของเบนเนตว่าเป็น “รัฐบาลแห่งความเปลี่ยนแปลง” ถือเป็นความคลาดเคลื่อน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของอิสราเอ็ลในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิการกำหนดชะตากรรมของตนเอง และการก่อตั้งปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระโดยมีกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง

ขณะเดียวกัน กลุ่มอื่นๆ ที่ถูกปิดล้อมอยู่ในฉนวนกาซาประกาศว่าจะต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวปาเลสไตน์ต่อไป ทั้งนี้ ฉนวนกาซ่าอยู่ภายใต้การปิดล้อมทางภาคพื้นดิน ทางน้ำ และทางอากาศมาตั้งแต่ พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2007)

“เราไม่คาดหวังความเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลชุดต่างๆ ที่ทำการรุกรานเช่นนี้ เนื่องจากพวกเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในนโยบายว่าด้วยการเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์และการลิดรอนสิทธิของชาวปาเลสไตน์” ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาสกล่าว

ก่อนหน้าการลงคะแนนในสภาอิสราเอล ฟาวซี บาร์ฮูม โฆษกของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า “ไม่ว่ารัฐบาลในอิสราเอลจะหน้าตาเป็นอย่างไร มันจะไม่เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อองค์กรของลัทธิไซออนนิสต์ มันคือองค์กรผู้ตั้งรกรากและรุกรานที่ต้องเผชิญกับการต่อต้านทุกรูปแบบ ซึ่งการต่อต้านอย่างแรกสุดคือการต่อต้านด้วยอาวุธ”

นาฟตาลี เบนเนต ผู้นำของพรรคยามินาซึ่งมีอุดมการณ์แบบชาตินิยมสุดโต่งและระบุว่าเขา “ขวายิ่งกว่า” เบนจามิน เนทันยาฮู อดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งลงจากตำแหน่ง กล่าวว่าการสร้างรัฐปาเลสไตน์ถือเป็น “การฆ่าตัวตาย” สำหรับอิสราเอล นอกจากนี้ในการแถลงนโยบายต่อสภา เบนเนตยังเรียกร้องให้ผนวกรวมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตเวสต์แบงก์ซึ่งปัจจุบันถูกยึดครองโดยอิสราเอล และต่อต้านการรื้อฟื้นการเจรจายุติการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านที่เริ่มโดยสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

สำนักข่าวอัลจาซีราเล่าว่านาฟตาลี เบนเนต เป็นเศรษฐีและอดีตนายทุนธุรกิจไฮเทคก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลของเบนเนตประกอบขึ้นจากแนวร่วมพรรคการเมืองที่มีทั้งอุดมการณ์ทางการเมืองแบบฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา และสายกลาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเทอะทะในการผลักดันนโยบาย

นาฟตาลี เบนเนต ผู้นำพรรคยามินาที่ได้รับเลือกตั้งเข้าสภา 6 จาก 120 ที่นั่ง ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล โดยเฉือนชนะเบนจามิน เนทันยาฮู อดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองอำนาจมากว่า 12 ปีไปเพียง 1 คะแนนเท่านั้น (60 ต่อ 59) หลายฝ่ายคาดการณ์ว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำชุดใหม่จะขาดเสถียรภาพ หากพรรคร่วมหรือสมาชิกคนใดแปรพักตร์เพียงเล็กน้อย เบนจามิน เนทันยาฮูก็สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งได้ทันที

ภายใต้ข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล เบนเนตจะเป็นนายกรัฐมนตรีไปอีก 2 ปี หลังจากนั้นยาอีร์ ลาปิดจากพรรคอุดมการณ์สายกลางจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อ โดยลาปิดเป็นแกนนำคนสำคัญในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นักวิเคราะห์ชี้ว่ารัฐบาลของเบนเนตมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการขยับในเรื่องใหญ่ ๆ ที่เป็นประเด็นร้อน เช่น นโยบายของอิสราเอลต่อปาเลสไตน์ แต่จะหันไปให้ความสนใจกับการปฏิรูปภายในประเทศแทน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท