Skip to main content
sharethis

'หมอเรวัต' ตั้งกระทู้ถามสด 'สาธิต ปิตุเตชะ' รมช.สธ. ถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศใน 120 วันตามแถลงของนายกรัฐมนตรี ด้าน สาธิต ยืนยันการฉีดวัคซีนยังเป็นไปตามแผน สัปดาห์หน้าได้วัคซีนแอสตราเซเนกาเพิ่ม 1 ล้านโดส-ปัดตอบแผนเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ 

17 มิ.ย. 2564 วันนี้ (17 มิ.ย. 2564) นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข กรณีการระบาดของโรคโควิด-19 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 6 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) โดยมีชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม

เรวัต กล่าวถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ล้มเหลวจนส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน ทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ โควิด-19 ระบาดในประเทศไทยมาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 แต่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ จนตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 200,000 ราย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,555 ราย อีกทั้งการระบาดระลอกที่ 3 นั้นร้ายแรงมาก จนเกิดความหายนะทางเศรษฐกิจ มิหนำซ้ำ รัฐบาลยังบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาดจนถึงผลกระร้ายแรงต่อสุขภาพและความเชื่อมั่นของประชาชน ยกตัวอย่างเช่น การประกาศให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 7 มิ.ย. 2564 เป็นวาระแห่งชาติ แต่ปรากฎว่าโรงพยาบาลและสถานบริการทางการแพทย์หลายแห่งประกาศเลื่อนฉีนวัคซีนออกไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่ได้ฉีดวัคซีน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายกฯ ยังประกาศว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตนจึงตั้งคำถามว่า "จะเปิดอย่างไรและมีแผนที่ชัดเจนอย่างไร" พร้อมระบุว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการแสดงความรับผิดชอบก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่ออกมาพูดว่า "ผมขอรับผิดชอบเอง" บ่อยๆ แต่ไม่มีการกระทำอะไรที่เป็นผลดีตามมา คำพูดเหล่านั้นจึงไม่มีความหมาย และไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนกลับมาได้

เรวัต กล่าวต่อไปว่า ตนคงไม่กดดันรัฐบาลให้เปิดสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทแอสตราเซเนกา แต่ขอเรียนถามไปยังรัฐบาลว่าหากบริษัทแอสตราเซเนกาไม่สามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามกำหนด และทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชน รัฐบาลสามารถปรับหรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ ในเงื่อนไขดังกล่าวได้ระบุไว้ในสัญญาหรือเปล่า พร้อมสอบถามเพิ่มเติมว่ารัฐบาลสามารถเปิดเผยสัญญาได้หรือไม่ เพื่อเกิดความโปร่งใสแก่ประชาชน

ด้าน สาธิต ตอบกลับกระทู้ถามสดของเรวัต เริ่มจากแผนการจัดส่งวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาให้กับประเทศไทย โดยระบุว่า ตามสัญญาที่รัฐบาลไทยทำกับบริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทจะต้องส่งวัคซีนให้กับไทยภายในปีนี้จำนวน 61 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบวัคซีน 6 ล้านโดสให้รัฐบาลไทยในเดือน มิ.ย. นี้ โดยวานนี้ (16 มิ.ย. 2564) บริษัทแอสตราเซเนกาส่งวัคซีนมาให้ไทยแล้ว 6 แสนโดส และในสัปดาห์หน้าจะส่งมาเพิ่มอีก 1 ล้านโดส รวมวัคซีนที่ส่งมอบแล้วกว่า 4 ล้านโดส

สาธิต กล่าวเพิ่มเติมว่าตั้งแต่เดือน ก.ค.-พ.ย. ไทยจะได้รับวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดส และในเดือน ธ.ค. จะได้รับวัคซีนล็อตสุดท้ายจำนวน 5 ล้านโดส รวมทั้งสิ้น 61 ล้านโดส ซึ่งตนมั่นใจว่าบริษัทแอสตราเซเนกาจะส่งมอบวัคซีนให้กับไทยตามกำหนดสัญญา พร้อมกันนี้ สาธิต ยังกล่าวว่า "สัญญาที่แอสตราเซเนกาทำกับเรามีความละเอียดอ่อนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเจรจา เรื่องจำนวน วันเวลาที่ชัดเจน และเขาไม่ได้ขายให้เราประเทศเดียว ดังนั้นการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ก็ต้องเป็นความร่วมมือระหว่างเรากับบริษัท"

สาธิต ตอบข้อสงสัยกรณีที่โรงพยาบาลหลายแห่งเลื่อินฉีดวัคซีนเพราะต้องรอการกระจายวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่าแต่เดิม รัฐบาลกำหนดให้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง รวมถึงโรคประจำตัว ซึ่งรวมทั้งหมดประมาณ 8 ล้านคน อย่างไรก็ตาม เกิดการระบาดระลอก 3 ในพื้นที่ กทม. ในเดือน เม.ย. เสียก่อน รัฐบาลจึงนำวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ กทม. ก่อน เมื่อวัคซีนมีจำกัดก็จะต้องจัดสำดับความสำคัญใหม่ ทำให้เกิดปัญหาการเลื่อนฉีดวัคซีนขึ้น แต่ตนมั่นใจว่าการจัดสรรวัคซีนในเดือน ก.ค. เป็นต้นไปจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะรัฐบาลจะได้รับวัคซีนจากแอสตราเซเนกาและซิโนแวคเพิ่มขึ้น พร้อมยืนยันว่าแผนการฉีดวัคซีนยังคงเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด เมื่อไทยได้รับวัคซีนที่เพียงพอ จะสามารถฉีดให้กับประชาชนได้ ขั้นต่ำวันละ 500,000 คน

นอกจากนี้ สาธิต ยังยืนยันว่า นายกฯ ต้องมีความมั่นใจในการจัดหาวัคซีน ทั้งวัคซีนหลัก วัคซีนเสริม และวัคซีนทางเลือก จึงได้ประกาศพร้อมเปิดประเทศภายใน 120 วัน แต่ต้องติดตามว่านายกฯ จะประกาศเป็นแผนปฎิบัติการอย่างไร ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละส่วน แต่การจัดการในเรื่องนี้ การที่จะเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน

ที่มา:
มติชนออนไลน์, ข่าวสดออนไลน์, ฐานเศรษฐกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net