ปแญะลยันเอ่าง์ ผู้รักษาประตู ทีมชาติเมียนมา แสดงเจตจำนงขอลี้ภัยที่ญี่ปุ่น ไม่กลับประเทศบ้านเกิด เหตุกังวลความปลอดภัยต่อชีวิต หลังเขาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต้านรัฐประหาร โดยการชูสามนิ้วขณะยืนเคารพเพลงชาติ ก่อนเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติญี่ปุ่น
17 มิ.ย. 64 สำนักข่าวสิงคโปร์ ‘Channel News Asia’ และ ‘Kyodo News’ รายงานวันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อกลางดึกวันที่ 16 มิ.ย. 64 ที่สนามบินนานาชาติคันไซ จังหวัดโอซาก้า ปแญะลยันเอ่าง์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเมียนมา ปฏิเสธเดินทางกลับประเทศ และต้องการขอลี้ภัยในประเทศญี่ปุ่นหลังเขาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร โดยการชูสามนิ้ว พร้อมข้อความที่เขียนไว้ We need justice ขณะยืนเคารพเพลงชาติ ก่อนดวลแข้งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่เมืองชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว
ประเทศเมียนมาเดินทางเข้าสู่วิกฤตการเมืองหลังกองทัพพม่าทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 จนทำให้เกิดการลุกฮือประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศพม่า และเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่า กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ไม่เอาทหารพม่า
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ปแญะลยันเอ่าง์ โกลทีมชาติพม่า ชูสามนิ้วขณะเคารพเพลงชาติ ก่อนเริ่มการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกกับประเทศญี่ปุ่น
โชโกะ วาตานาเบะ ทนายความของปแญะลยันเอ่าง์ กล่าวว่า แต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นกำหนดเดินทางกลับประเทศของทีมฟุตบอลเมียนมา ผู้รักษาประตูชาวพม่าแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินนานาชาติคันไซว่า เขาไม่ต้องการโดยสารเครื่องบินกลับไปประเทศพม่า
“หลังจากยืนยันความต้องการของเขา เราจะดำเนินการตามขั้นตอนขอสถานะผู้ลี้ภัยที่โอซาก้า ไม่ก็ที่กรุงโตเกียว” วาตานาเบะ กล่าว
“ชัดเจน (ผู้สื่อข่าว - ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง) หลังจากเขาชูสามนิ้ว… ผมหวังว่าสถานะผู้ลี้ภัยของเขาจะได้รับการรับรองเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ทนายความ กล่าว พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า โดยปกติ กระบวนการขอสถานะผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน
นอกจากนึ้ สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ NHK เผยแพร่ภาพวิดีโอบางส่วนขณะที่ปแญะลยันเอ่าง์ กำลังพูดกับล่ามที่สนามบินคันไซ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 64
“ถ้าผมกลับไปที่เมียนมา ชีวิตผมต้องตกอยู่ในอันตราย ผมเลยตัดสินใจอยู่ที่ญี่ปุ่น” คำพูดของผู้รักษาประตูเมียนมาขณะคุยกับล่ามแปลภาษาที่สนามบินคันไซ
โกลชาวพม่ากล่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ตอนแรกเขาเกือบถอดใจไปแล้วที่จะแจ้งความประสงค์ขอลี้ภัยในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็งัดเอาความกล้าที่เก็บไว้ออกมาขณะกำลังเดินขึ้นเครื่องบิน
ปแญะลยันเอ่าง์ เปิดเผยต่อว่า เขาจะกลับประเทศก็ต่อเมื่อรัฐบาลพลเรือนนำโดยอองซานซูจี กลับมามีอำนาจบริหารประเทศอีกครั้ง และสาเหตุที่เขาเลือกชูสามนิ้วก่อนการแข่งขันฟุตบอลกับญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่ามันมีพลังหนักแน่นพอที่จะส่งสารไปถึงนานาชาติได้
“ผมอยากให้รัฐบาลญี่ปุ่น และนานาชาติ สนับสนุนพวกเรา เพื่อให้เราสามารถฟื้นคืนสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรม” ผู้รักษาประตูชาวเมียนมา กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะเลือกลี้ภัยในญี่ปุ่นแล้ว แต่เขาก็ยังกังวลถึงผลลัพธ์การตัดสินใจเขาว่า อาจทำให้เพื่อนร่วมทีม และครอบครัวของเขาที่ประเทศพม่าเดือดร้อน
“ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม หรือสมาชิกครอบครัวของผม ผมคงยอมกลับไปที่พม่าให้เจ้าหน้าที่จับกุม” โกลชาวพม่า กล่าว
สำหรับกรณีการลี้ภัยของนักบอลพม่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นยังไม่แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าว ขณะที่ตัวแทนจากฝากฝั่งรัฐบาลญี่ปุ่น คัตสึโนบุ คาโต เลขาธิการใหญ่คณะรัฐมนตรี กล่าวว่า “ทางรัฐบาลจะตอบสนองอย่างเหมาะสม โดยรับฟังความปรารถนาของเขา”
ทนายโยชิโนะ โซราโนะ กล่าวว่า ปแญะลยันเอ่าง์ เข้าประเทศญี่ปุ่นมาช่วงปลายเดือน พ.ค. ด้วยวีซ่า (ที่มีระยะพำนักในญี่ปุ่น) ไม่เกิน 90 วัน หรืออีกนัยหนึ่งคือ เขาสามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมายได้จนถึงเดือน ส.ค.
นอกจากนี้ โซราโนะ กล่าวอย่างมั่นใจว่า 'สำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองภูมิภาคโอซาก้า' จะให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่โกลชาวเมียนมาคนนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อ 28 พ.ค. 64 ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น ออกนโยบายขยายเวลาพำนักให้ชาวเมียนมาที่อาศัยในญี่ปุ่นเป็นกรณีฉุกเฉิน ส่งผลให้ชาวพม่าในญี่ปุ่น จำนวนกว่า 35,000 คน สามารถอยู่แดนปลาดิบต่อได้ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 1 ปีแม้วีซ่าขาดอายุ นอกจากนี้ ชาวพม่าสามารถดำเนินเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตทำงานในญี่ปุ่นได้อีกด้วย
ทางการญี่ปุ่น ระบุเพิ่มว่า มาตรการนี้มีผลทันทีในวันที่ 28 พ.ค. 64 และอาจมีการพิจารณาขยายเวลาพำนักในประเทศญี่ปุ่นให้ชาวเมียนมาเพิ่ม หากสถานการณ์วิกฤตการเมืองในเมียนมายังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการขยายเวลาพำนักในประเทศญี่ปุ่นของชาวพม่าเกิดขึ้นก่อนที่ญี่ปุ่นจะต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาระดับโลก โอลิมปิก เพียงเดือนเดียว ทำให้หลายคนมีข้อสงสัยว่า นักกีฬาพม่าคนอื่น ๆ ที่มาแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะสามารถขอลี้ภัยที่ญี่ปุ่นเหมือนกรณีนักบอลชาวเมียนมาได้หรือไม่
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับประเทศพม่า และเรียกตัวเองว่า เป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่เมียนมาเยอะเป็นอันดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดรัฐประหาร รัฐบาลญี่ปุ่นระงับโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจใหม่ในประเทศพม่าเป็นการชั่วคราว และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น เคยออกมาเตือนด้วยว่า แม้แต่โครงการที่เริ่มดำเนินงาน หรืออนุมัติไปแล้ว ก็มีสิทธิ์ถูกสั่งระงับได้เช่นกันหากกองทัพพม่ายังดึงดันใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง
แปลและเรียบเรียงจาก
Myanmar soccer goalie who gave protest salute to seek asylum in Japan
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)