โฆษก ศธ. เผยเร่งหาผู้รับผิดชอบ กรณีคลุมธงสีรุ้งบนอนุสาวรีย์ ร.6

โฆษก ศธ. เผยเร่งหาผู้รับผิดชอบ กรณีคลุมธงสีรุ้งบนอนุสาวรีย์ ร.6 ระบุผู้ที่คลุมผ้ามีอายุ 22 ปีเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วไม่ได้เป็นนักเรียนอย่างแท้จริง ด้าน 'นักเรียนเลว' ประณาม จนท.ทำเกินกว่าเหตุ ชี้ห่วงรูปปั้นมากกว่าความปลอดภัยนักเรียน

20 มิ.ย. 2564 จากกลุ่ม 'นักเรียนเลว' แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในกิจกรรม #กูจะเป็นเพศอะไรก็เรื่องของกู เมื่อ 18 มิ.ย. 2564 ที่กระทรวงศึกษาธิการ ผ่านการแสดงละครและนำธงสีรุ้งขึ้นไปคลุมรอบรูปปั้นรัชกาลที่ 6 ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปควบคุมตัวผู้ทำกิจกรรมและนำตัวเดินออกมาจากตึกภายในกระทรวงนั้น

'นักเรียนเลว' เรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ พันธงรุ้ง ร.6 ตร.ขู่บุกรุกที่ราชการ

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2564 เพจ ศธ.360 องศา รายงานว่าการกระทำดังกล่าวของกลุ่มนักเรียนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนักเรียนเลว กระทบจิตใจต่อบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้ปกครอง ประชาชนทั่วไป ทั้งข้าราชการที่เกษียณไปแล้ว และคณะลูกเสือ ที่มีความคิดเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ละเมิดความรัก ความศรัทธา และทำร้ายจิตใจของคนลูกเสือทั่วประเทศ เป็นการกระทำละเมิดสิทธิของผู้อื่น

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ขอนำเรียนทุกท่านให้ทราบว่า พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2535 เป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจต่อทุกคน ทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ที่ได้รับทราบข่าวภายหลัง มีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมและไม่พอใจ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ในนามของ ศธ. ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เด็กที่มีชื่อปรากฏอยู่ขณะนี้ ได้ลาออกจากโรงเรียนในสังกัด สพม.กรุงเทพมหานคร เขต 2 แล้ว ส่วนผู้ที่คลุมผ้า มีอายุ 22 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว บุคคลดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นนักเรียนอย่างแท้จริง ซึ่งเท่ากับว่าไม่ได้เป็นเด็กในระบบการศึกษาของ ศธ. และจะส่งไปให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

กระทรวงศึกษาธิการจะป้องกันไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวแบบนี้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งจะร่วมกันในการปกป้อง และเรียกกำลังใจของทุกคนชาวเสมากลับคืนมา

สำหรับผู้ร่วมชุมนุมที่เป็นนักเรียน ถ้าพบว่าอยู่ในสังกัดใด จะมีการหารือในรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจและรับทราบผลจากการกระทำที่กระทบสิทธิ และสร้างความสะเทือนใจต่อผู้อื่น และถ้าจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อการแสดงออกทางความคิดเห็นครั้งต่อไป จะต้องมีการแจ้งล่วงหน้า และไม่สามารถเข้ามาจัดภายในบริเวณสถานที่ราชการได้ รวมถึงการเข้าออกสถานที่ราชการจะต้องแสดงตัวตนเพื่อความปลอดภัยของทุกคนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะต้องเป็นไปตามมติของ ศบค.

กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังเน้นย้ำว่า การกระทำนั้นต้องตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพ ในการแสดงออกทางความคิดเห็นของทุกคนในสังคม แต่ก็ขอให้การแสดงออกเป็นไปด้วยความสงบ และอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ภายใต้การเคารพกฎหมายและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด" โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

'นักเรียนเลว' ประณามเจ้าหน้าที่ 'ทำเกินกว่าเหตุ' ชี้ห่วงรูปปั้นมากกว่าความปลอดภัยนักเรียน

ต่อมา 20 มิ.ย. 2564 ด้านกลุ่มนักเรียนเลว  โพสต์ข้อความผ่านเพจ ว่าในฐานะผู้จัดกิจกรรมดังกล่าว ขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำต่อผู้ร่วมชุมนุมเกินกว่าเหตุ และขอประณามกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นห่วงรูปปั้นมากกว่าความปลอดภัยของนักเรียนในโรงเรียน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการจัดการกับปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ทั้งการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม การดูถูกเหยียดหยาม รวมถึงกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่ละเมิดสิทธิของนักเรียนผู้มีความหลากหลายทางเพศมาโดยตลอด

กลุ่มนักเรียนเลวกล่าวต่อว่า การที่มีผืนธงสีรุ้งโบกสะบัดอยู่ภายในกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งบนตราสัญลักษณ์ บนกำแพง บนรูปปั้น หรือที่ใดก็ตาม ก็เพื่อต้องการให้ความหลากหลายทางเพศเบ่งบานในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการยอมรับและตระหนักถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ถูกกดทับมาโดยตลอดจากนโยบายและการบริหารงานของกระทรวงศึกษาธิการ

"ความหลากหลายทางเพศมิได้เป็นภัยต่อผู้ใด หากกระทรวงศึกษาธิการไม่เข้าใจจุดยืนตรงนี้ ซ้ำยังมองว่าความหลากหลายทางเพศเป็นภัยคุกคาม นั่นแสดงว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ แล้วถ้าแม้แต่กระทรวงศึกษาธิการยังเป็นเช่นนี้ ความเท่าเทียมทางเพศจะเกิดขึ้นในโรงเรียนได้อย่างไร" กลุ่มนักเรียนเลว กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท