Skip to main content
sharethis

ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในฤดูร้อนปี 2563 พบว่าการจ้างงานช่วงปิดเทอมของวัยรุ่นในสหรัฐฯ (ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อปี 2551 แม้การจ้างงานในฤดูร้อน 2564 มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นกว่าปี 2563 แต่ในระยะยาวแนวโน้มของวัยรุ่นสหรัฐฯ ที่ทำงานช่วงฤดูร้อนก็จะมีแนวโน้มลดลงต่อไป


ฤดูร้อนที่ผ่านมา (ปี 2563) มีวัยรุ่นสหรัฐฯ น้อยกว่า 1 ใน 3 (ร้อยละ 30.8) ที่มีงานทำ | ที่มาภาพ: The Post-Standard/Landov (อ้างใน NPR)

ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในฤดูร้อนปี 2563 พบว่าการจ้างงานช่วงปิดเทอมของวัยรุ่นในสหรัฐฯ (ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อปี 2551 ตามการวิเคราะห์จากข้อมูลการจ้างงานล่าสุดโดย Pew Research Center

ฤดูร้อนที่ผ่านมา (ปี 2563) มีวัยรุ่นสหรัฐฯ น้อยกว่า 1 ใน 3 (ร้อยละ 30.8) ที่มีงานทำ เนื่องจากสถานที่ต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะจ้างงานพวกเขาและเธอในช่วงฤดูร้อนอย่างร้านอาหาร ร้านค้า สถานที่นันทนาการ สถานที่ท่องเที่ยว ถูกสั่งปิดหรือต้องลดการดำเนินงานลงเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงฤดูร้อนในปี 2562 มีวัยรุ่นถึงร้อยละ 35.8 ทำงานช่วงฤดูร้อน

ส่วนสถิติย้อนหลังไปในปี 2543 วัยรุ่นมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 51.7) ใช้เวลาทำงานในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ทั้งขายเสื้อยืด ทำงานในร้านไอศกรีม หรือทำงานอย่างอื่นเพื่อหารายได้เสริมในช่วงปิดเทอม ตั้งแต่นั้นมาพบว่าสัดส่วนของวัยรุ่นที่ทำงานในช่วงฤดูร้อนลดลงเรื่อย ๆ และถึงจุดต่ำสุดที่สุดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551-2552 ที่มีวัยรุ่นทำงานในช่วงฤดูร้อนเพียงร้อยละ 29.6

แบบแผนสัดส่วนการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯ

ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1940 (พ.ศ.2483-2492) จนถึงช่วงทศวรรษ 1980 (พ.ศ.2523-2532) การจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯ เป็นไปตามแบบแผนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ นั่นคือมีการเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดีและลดลงในช่วงระหว่างและหลังเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยอัตราการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนมีความเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ค่อนข้างแคบ ที่ร้อยละ 46.3 (ต่ำสุดในปี 2506) ถึงร้อยละ 58 (สูงสุดในปี 2521)

แบบแผนนี้เริ่มเปลี่ยนไปในทศวรรษ 1990 (พ.ศ.2533-2542) เมื่ออัตราการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนไม่ได้ลดลงตามภาวะถดถอยในปี 2533-2534 ตามแบบแผนปกติ และการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนกลับลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2544 และลดลงอย่างมากในช่วงระหว่างและหลังเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2550-2552 แม้ต่อมาอัตราการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนจะสูงขึ้นแต่ก็ไม่เคยกลับไปสู่ระดับก่อนภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2550-2552 อีกเลย

วัยรุ่นอายุ 16-19 ปี ในสหรัฐฯ ตกงานงานประมาณ 1.9 ล้านคนช่วง COVID-19

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 และข้อจำกัดทางเศรษฐกิจที่บังคับใช้เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดนั้น ได้ส่งผลให้ตลาดงานของวัยรุ่นพลิกกลับเช่นเดียวกับตลาดแรงงานทั้งหมดในสหรัฐฯ วัยรุ่นอายุ 16-19 ปี ประมาณ 1.9 ล้านคนตกงานระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย. 2563 แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวบ้างในเดือน พ.ค. 2563 แต่จำนวนวัยรุ่นที่ทำงานในเดือน ก.ค. 2563 ซึ่งปกติจะเป็นเดือนที่มีการจ้างงานสูงสุดในช่วงฤดูร้อน ลดลงมากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. 2562 

ในขณะที่วัยรุ่นที่อายุน้อยกว่า คือกลุ่มอายุ 16-17 ปี ก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะทำงานในช่วงฤดูร้อนน้อยกว่าวัยรุ่นที่อายุมากกว่า แต่พวกเขาก็ตกงานในอัตราที่ต่ำกว่าวัยรุ่นที่มีอายุมากกว่า (อายุ 18-19 ปี) อัตราการจ้างงานเฉลี่ยของฤดูร้อนปี 2563 สำหรับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-17 ปี อยู่ที่ร้อยละ 22.3 ลดลงเพียงร้อยละ 2 จากปี 2562 แต่สำหรับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-19 ปี การจ้างงานภาคฤดูร้อนในปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 40.5 เทียบกับร้อยละ 47.8 ในปี 2562

วัยรุ่นผิวขาวมีแนวโน้มที่จะได้งานในช่วงฤดูร้อนและในช่วงที่เหลือของปีมากกว่ากลุ่มอื่น


วัยรุ่นผิวขาวในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะได้งานในช่วงฤดูร้อนและในช่วงที่เหลือของปีมากกว่ากลุ่มอื่น | ที่มาภาพ: The Oklahoman

Pew Research Center ยังระบุว่าวัยรุ่นผิวขาวในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะได้งานในช่วงฤดูร้อนและในช่วงที่เหลือของปีมากกว่าวัยรุ่นกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ แนวโน้มนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้ในช่วง COVID-19 ระบาด โดยเฉลี่ยในฤดูร้อนที่ผ่านประมาณ 1 ใน 3 (ร้อยละ 33.4) ของวัยรุ่นผิวขาวอายุ 16-19 ปี ได้รับการว่าจ้างในช่วงฤดูร้อน เมื่อเทียบกับวัยรุ่นฮิสแปนิกที่ร้อยละ 25.8 วัยรุ่นผิวดำ ร้อยละ 25.1 และวัยรุ่นเอเชีย ร้อยละ 14.3

ภาพสะท้อนการจ้างงานวัยรุ่นที่ลดลง

การลดลงของการจ้างงานวัยรุ่นในช่วงฤดูร้อนที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นภาพสะท้อนของการจ้างงานคนรุ่นใหม่โดยรวมที่มีแนวโน้มลดลงในระยะยาว ซึ่งแนวโน้มนี้ยังเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีอื่น ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ อีกด้วย

นอกเหนือจากเหตุผลเฉพาะเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ที่ทำให้วัยรุ่นมีงานทำลดลงในช่วงฤดูร้อนที่แล้ว นักวิจัยยังได้ตั้งสมมติฐานอื่น ๆ ด้วยอาทิเช่น :-

- ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้น เช่น พนักงานขาย หรือผู้ช่วยในสำนักงาน ลดน้อยลงในทศวรรษที่ผ่านมา
- โรงเรียนและสถานศึกษาอื่น ๆ เลื่อนการปิดเทอมออกไป
- มีนักเรียนลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนมัธยมหรือวิทยาลัยมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน 
- วัยรุ่นจำนวนมากขึ้นที่ทำงานบริการชุมชนหรืองานอาสาสมัคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในการสำเร็จการศึกษา หรือเพื่อทำให้ใบสมัครวิทยาลัยของตนสมบูรณ์ 
- นักศึกษาฝึกงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งสำนักสถิติแรงงานไม่นับว่าเป็นลูกจ้าง

ประเภทของการจ้างงานวัยรุ่นในช่วงฤดูร้อน

ในด้านประเภทของการจ้างงานวัยรุ่นในช่วงฤดูร้อน พบว่ามาก 1 หนึ่งใน 3 (ร้อยละ 35.1) ของวัยรุ่นประมาณ 5.4 ล้านคน ที่ทำงานในเดือน ก.ค. 2563 ทำงานในภาคธุรกิจที่พักและบริการอาหาร เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ เมื่อเทียบกับร้อยละ 31.9 ในเดือน ก.ค. 2562 และร้อยละ 22.6 ในเดือน ก.ค. 2543 ตามข้อมูลของสำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) พบว่าภาคการค้าปลีกที่เคยเป็นแหล่งจ้างงานสำคัญของวัยรุ่นได้เข้าสู่ภาวะตกต่ำมาหลายปี และเพิ่งฟื้นตัวในช่วงฤดูร้อนปี 2563 นี้เอง ซึ่งภาคการค้าปลีกจ้างงานคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 (ร้อยละ 24.5) ของการจ้างงานวัยรุ่นทั้งหมดในช่วงฤดูร้อน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ภาคการค้าปลีกจ้างงานวัยรุ่นในช่วงฤดูร้อนลดลงจากร้อยละ 24 ในปี 2543 ลงเหลือเพียงร้อยละ 19 ในปี 2562

ส่วนภาคการก่อสร้างและภาคการผลิต ซึ่งเคยจ้างงานวัยรุ่นรวมกันประมาณร้อยละ 12.6 ในเดือน ก.ค. 2543 ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 7 ในเดือน ก.ค. 2563 ภาคศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะนายจ้างช่วงฤดูร้อนของวัยรุ่นตั้งแต่ปี 2543 ก็ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 6.7 ของการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนทั้งหมดในปี 2563 เทียบกับร้อยละ 9.3 ในปี 2562

ส่วนข้อมูลด้านอาชีพ (ที่ไม่ใช่ภาคอุตสาหกรรม) แสดงให้เห็นว่าหมวดหมู่งานช่วงฤดูร้อนจำนวนมากยังคงแตกต่างกันอย่างชัดเจนตามเพศ ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือน ก.ค. 2563 วัยรุ่นหญิงร้อยละ 27.6 ทำงานขาย เทียบกับวัยรุ่นชาย ร้อยละ 12.8 นอกจากนี้วัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มที่จะได้งานดูแลและการบริการมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า (ร้อยละ 9.7 เทียบกับร้อยละ 3.2) และมีแนวโน้มที่จะได้งานสนับสนุนในสำนักงานและการบริหารมากกว่าอีกด้วย (ร้อยละ 11.2 ของวัยรุ่นหญิงเทียบกับร้อยละ 7.7 ของวัยรุ่นชาย) ในทางกลับกัน วัยรุ่นชายมีแนวโน้มที่จะมีงานขนส่งและเคลื่อนย้ายวัสดุมากกว่าวัยรุ่นหญิง (ร้อยละ 17.9 เทียบกับร้อยละ 5); งานก่อสร้างและงานสกัด (ร้อยละ 8.8 เทียบกับ ร้อยละ 0.1); งานติดตั้ง บำรุงรักษา และซ่อมแซม (ร้อยละ 3.4 เทียบกับร้อยละ 0.1)

หลังวิกฤต COVID-19 ในสหรัฐฯ คลี่คลาย และการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อนในระยะยาวจะเป็นอย่างไร?


แม้การจ้างงานในฤดูร้อน 2564 มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นกว่าปี 2563 แต่ในระยะยาว แนวโน้มของวัยรุ่นสหรัฐฯ ที่ทำงานช่วงฤดูร้อนก็จะมีแนวโน้มลดลงต่อไป | ที่มาภาพ: WNYC Studios

หลังวิกฤต COVID-19 ในสหรัฐฯ คลี่คลาย พบว่าแนวโน้มงานการจ้างงานวัยรุ่นเพิ่มขึ้น มีวัยรุ่นอายุ 16-19 ปี 5.3 ล้านคน ได้รับการว่าจ้างในเดือน พ.ค. 2564 (ยังไม่ใช่การจ้างงานช่วงฤดูร้อนที่จะเริ่มนับระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.) ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขการจ้างงานวัยรุ่นในเดือน พ.ค. ที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ยังมีวัยรุ่นประมาณ 562,000 คนที่ว่างงาน ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงกว่าในปี 2563 เป็นอย่างมาก ที่วัยรุ่นประมาณ 1.7 ล้านคนต้องว่างงาน อัตราการว่างงานในกลุ่มอายุระหว่าง 16-19 ปี เหลือเพียงร้อยละ 9.5 ซึ่งลดลงอย่างมากจากอัตราว่างงานร้อยละ 30.7 เมื่อเดือน พ.ค. 2563

ตัวเลขเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงการจ้างงานวัยรุ่นช่วงฤดูร้อยที่จะถึงนี้ ว่าจะมีสถานการณ์ดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2563

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแนวโน้มของวัยรุ่นที่ทำงานช่วงฤดูร้อนก็จะมีแนวโน้มลดลงต่อไป แม้ว่าในเดือน พ.ค. 2564 จะมีวัยรุ่นวัยทำงานมากกว่าในเดือน พ.ค. 2543 (16.4 ล้านคน เทียบกับ 15.9 ล้านคน) แต่กระนั้นก็เพราะว่ามีวัยรุ่นอยู่ในกลุ่มกำลังแรงงานน้อยกว่ามาก (5.9 ล้านคน ณ เดือน พ.ค. 2564 ลดลงจาก 8.1 ล้านคน ณ พ.ค. 2543) และประมาณการว่าวัยรุ่น 10.6 ล้านคน หรือ 2 สองใน 3 ของประชากรอายุระหว่าง 16-19 ปี ในสหรัฐฯ อยู่นอกกลุ่มกำลังแรงงานโดยสิ้นเชิง เทียบกับ 7.8 ล้านคน (ร้อยละ 49.1) ในเดือน พ.ค. 2543 


ที่มาเรียบเรียงจาก
During the pandemic, teen summer employment hit its lowest point since the Great Recession (DREW DESILVER, Pew Research Center)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net